สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ที่คุณขันธ์ ว่าเด็กหนุ่มบ้านอกคนนี้ ได้รู้สัจธรรมระดับหนึ่งแล้ว

    haha ผู้เข้าถึงสัจธรรมสูงสุดแล้ว
     
  2. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    [​IMG] ด้วยแรงใจที่เปลี่ยมล้น...ฉันจึงรักเธอ

    ha ha 55+ ...ต้องไปดูคอนเสิร์ตน้องแคท...ถึงผ่าน...

    (smile)
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อืม... ไปดูคอนเสิร์ตน้องแคท แล้ว ได้อะไรมา ถึงผ่าน..@@@... หนอ...[​IMG]
     
  4. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    haha 55+
    ไปดูคอนเสิร์ตน้องแคท แล้ว
    ได้ ด้วยแรงใจที่เปี่ยมล้น...ฉันจึงรักเธอ มา
    ถึงผ่าน ...มาแสดงให้คนเชื่อถือ...หนอ... [​IMG]

    (smile) จะไปแสดงที่ไหน ต้องหนีบน้องแคทไปด้วย 55+
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ...มาแสดงให้คนเชื่อถือ...

    เป็น ความจริง ในใจ ใครกันแน่ หรือ หนอ [​IMG]

    เขาเป็นอย่างนั้นจริง หรือ หนอ
    เราเห็นเขาเป็นอย่างนั้นจริง หรือ หนอ
    เราอยากเห็นเขาเป็นอย่างนั้นจริง หรือ หนอ [​IMG]

    เอ่อ... ขออภัย บุคคลที่3 นะเจ้าคะ [​IMG]
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ความจริงที่เขามี ความจริงที่เขาแสดง ความจริงที่เราเห็น
    ทุกสิ่งล้วนเป็นจริงในใจเขา และในใจเรา
    แต่ความจริงในใจเขา และความจริงในใจเรา มันอาจต่างกัน เพราะอุปทาน ความคิด
    แต่ความจริงที่บังเกิดในใจเรา นั้นจึงเป็นคุณและโทษ แก่เรา ของจริง
    และความจริงที่เกิดในใจเขา นั้นจึงเป็นคุณและโทษ แก่เขา ของจริง

    หรือ หนอ เราเองก็ไม่รู้จริง หนอ รู้แต่ความจริงที่เกิดแก่ใจและกายตนเท่านั้น ของคนอื่นเราก็ไม่รู้...
     
  7. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ก็เมื่อเรารู้จริงในจริงแล้ว จริงในเท็จแล้ว เท็จในจริงแล้ว ทุกสิ่งมันก็เป็นธรรมดา
    ธรรมดาของเรา ไม่ธรรมดาของเขา ใจที่มันเป็นปกติธรรมดา เป็นเช่นนี้เองหนอ

    แท้จริงสาระที่ตาเห็นอาจไม่ใช่อักษร แต่เป็นมากกว่าอักษรเพียงเพราะอยากให้เป็น
     
  8. nooy09

    nooy09 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +3
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    หนอ หนอ และ หนอ [​IMG] สวัสดีครับ
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ท่าน nooy09 อยู่ใกล้หลวงตาท่านไหมครับ ถ้า ไปถามท่านได้น่าจะไปนะครับ จะได้เข้าใจแจ่มแจ้งดีกว่านะครับ
     
  11. nooy09

    nooy09 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +3
    อยู่ไม่ใกล้ครับ ผมก็จะไปกราบหลวงตาเอง แต่รอดูตัวเองซักพักก่อนครับ
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ได้ข่าวมาว่าหลวงตามหาบัว ปีนี้ ๙๕ ย่าง ๙๖ แล้วหนอ
    รีบๆหน่อย รีบๆทำตามความตั้งใจ ก็ดี หนอ
     
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ที่ผมว่าผ่านก็คือว่า
    ไม่ได้เป็นคนหลงโลกหลงอารมณ์
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ผ่าน ด้วยอารมณ์ทรงฌาณสมาบัติ
    หรือ ผ่านด้วยการ ไม่ได้ทรงฌาณสมาบัติ ล่ะท่าน

    พอดีว่า มันสงสัยน่ะท่าน เลยขอนุญาติถามเพื่อให้หายสงสัย [​IMG]
     
  15. มหาญาณทศภูมิ

    มหาญาณทศภูมิ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +1
    ไปดูคอนเสิร์ตเพื่อความบันเทิง ไม่เรียกว่า เป็นคนหลงโลกหลงอารมณ์หรือ?
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณศรีฯ เป็นผู้ตรวจสอบไปตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ???
    มีเหตุผลอะไรพอให้ผมเชื่อได้ว่า คุณมีสภาวธรรมเพียงพอ
    สำหรับชี้โทษคนโน้นคนนี้ หัดหันกลับมาดูตัวเองบ้าง จำไว้นะ

    ถึงมาเป็นผู้ตัดสินให้ใครผ่านหรือไม่ผ่าน ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย
    เวลาตัวเองอารมณ์ตกยังต้องอาศัย “น้องแคท”ให้ช่วยปล่อยผ่านทางอารมณ์
    แล้วคนอย่างนี้หรือที่จะมาเป็นผู้ตรวจสอบ ให้น้องแคทเป็นดีกว่ามั๊ง???

    คุณจะส่งเสริมอะไรผม ที่ผมถามไปยังไม่เคยตอบกลับมาเลย
    แล้วจะเอาอะไรมาส่งเสริม

    คุณศรีฯ บัณฑิตในทางธรรมที่แท้จริง
    ย่อมอบรมตนเองให้รู้อยู่ที่รู้
    แม้หลงก็รู้พึงระวังตนให้กลับมาระลึกรู้
    ผิดกับคนอย่างคุณที่ยังเดินหลงวนเวียนยังไม่รู้ตัวเองว่า “หลง”อีก
    กลับคอยเพ่งโทษคนอื่นแทนที่จะเพ่งโทษตนเอง

    ;aa24
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณศรีฯ แสดงว่าคุณไม่เคยอ่านที่ผมตอบไปเลยใช่มั้ยครับ?
    ผมตั้งแต่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในบอร์ดนี้
    ผมพยายามเน้นย้ำตลอดเวลาให้สำหรับคนที่มีแต่ศรัทธาจริต
    ให้ใช้กาลามสูตรเป็นหลักในการพิจารณา
    เพราะเป็นหลักเหตุผลที่ควรน้อมนำมาสมาทานครับ

    คุณศรีฯ ผมไม่แปลกใจหรอกครับที่คุณกล่าวแบบนั้น
    ว่าผมดีแต่ยืมจมูกพระพุทธเจ้า และ พระธรรม
    ผมยอมรับครับว่าผมเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งเป็นสรณะครับ

    ส่วนคุณนั้นช่วยแสดงให้เห็นหน่อยครับว่า
    ไม่ได้ยืมจมูกพระพุทธองค์ และพระธรรมมาหายใจ
    เอาง่ายๆคุณช่วยตอบคำถามที่ค้างตอบผมให้หมดก็แล้วกัน

    *คุณศรีฯ ผมว่าจะผ่านแล้วเชียวนา แต่พอเห็นเข้าก็เกิดอาการเคืองตาทันที
    เกิดความงงงวยมึนตึบทันที่ “พิจารณาธรรมที่ไม่มีตัวตน”???
    ของที่ไม่มีตัวไม่มีตน แล้วไปพิจารณามันทำไมให้เสียเวลาเล่า???
    ………………

    *ผมขอถามนะว่า โลกุตตรธรรมมีอยู่จริงมั้ย???
    ปัญญาเกิดแต่การประกอบหรือคิดๆเอาก็มีปัญญาขึ้นมาได้???
    ที่ว่าดูจิตมันคิดมันนึกก็ดีนา แล้วทำอย่างไรจิตจึงจะหยุดคิดหยุดนึกหละ???
    ………………..

    *คุณตอบอะไรของคุณ มีปัญญาย่อมดับทุกข์? ใช่ครับ
    “หมดปัญญาดับทุกข์” มีที่ไหนในโลกเหรอคุณศรีฯบอกที
    ในทางพุทธศาสนาแล้ว
    เมื่อได้ปัญญามาแล้วไม่กลับไปโง่อีกแล้วครับ
    เหมือนคนที่อ่านออกเขียนได้ จะกลับไปอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เป็นไปได้มั้ย???
    เมื่อได้ปัญญาแล้วไม่มีหมด ที่หมดได้หนะใช่ปัญญาที่ไหน???
    เพราะไม่มีปัญญาต่างหาก จึงดับทุกข์ไม่เป็น???
    ....................

    *คุณศรีฯ จิตบริสุทธิ์มันเกี่ยวอะไรกับต่างกันตรงไหน
    จิตนี้ จิตใครที่บริสุทธิ์จนไร้อักษรรูปลักษณ์???
    .........................

    *การที่คุณกล่าวข้างต้นเช่นนั้น
    เป็นการที่คุณคิดเองและเข้าใจไปคนเดียวเท่านั้น
    ไหนๆคุณกล่าวร้ายผมแล้ว
    ผมก็ถือโอกาสถามซะเลยว่า
    ความเป็นพระอรหันต์นั้นเป็นกันที่ไหน???
    ที่ร่างกายอันประชุมด้วยขันธ์๕???
    หรือที่จิตของท่านที่พ้นวิเศษแล้ว???

    ;aa24
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณศรีฯ คุณนี่สุดยอดแห่งความลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลายจริงๆ
    ผมเองยังยอมรับความลื่นเหลือทนแบบแถๆของคุณเลยครับ

    คุณกล่าวหาผมว่ากล่าวไม่ตรงต่อพระบรมครูและพระอรหันต์ทั้งหลาย
    ในเมื่อคุณกล่าวหาผม คุณต้องควรอย่างยิ่งในฐานะพุทธบุตรที่ดี
    ชี้แจงด้วยว่า ที่บอกว่าผมพูดผิดๆตรงไหน
    ผมไม่เคยเห็นคุณชี้แจงตรงประเด็นเลยสักครั้ง
    ในคคห.ของผมนั้น ทุกครั้งที่ผมกล่าวแย้งคุณ
    ผมจะต้องยกที่คิดว่าถูกตรงต่อพระพุทธพจน์มาเทียบเคียงทุกครั้ง
    ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจจริง คุณควรกล่าวแย้งกลับว่าที่ผมว่ามานั้นผิดๆตรงไหน
    ไม่ใข่พูดลอยๆว่าคนโน้นคนนี้ผิด โดยไม่เคยยกข้อแย้งมาเลยใช่มั้ย???

    คุณอย่าทำตัวเป็นศูนย์กลางของความถูกต้องแต่เพียงผู้เดียวสิครับ
    เพราะคุณเองบอกเองใช่มั้ยครับ??? ว่าศูนย์นั้นไม่มีค่า
    คุณเห็นหรือยังครับว่าที่คุณฮาฯพูดว่าต้องเป็น
    “ศูนย์ สมบูรณ์” ศูนย์มันมีค่าในตัวมันเองถ้ารู้จักใช้ใช่มั้ย???

    เรามาว่ากันในเรื่องที่ค้างอยู่ดีกว่า
    ที่ผมถามไปว่าระหว่างพระโสดาบันกับพระอรหันต์ต่างกันตรงไหน???
    คุณตอบมาแล้วผมก็ตอบแย้งกลับไป คุณควรตอบข้อแย้งผมสิครับ
    จะมาพูดเอาดีใส่เอาชั่วใส่คนอื่นนั้นมันไม่ถูกต้อง
    เชื่อผมเถอะมีภูมิรู้(ไม่ใช่ภูมิธรรม)เพียงแค่นี้
    อย่าริคิดตั้งตัวเป็นเจ้าลัทธิโดยอิงแอบพระพุทธศาสนาเลย
    จะเป็นตราบาปไปอีกนานนะครับ

    ไหนๆคุณก็โชว์ออฟตอบแทนคุณฮาฯแล้วมาว่ากัน
    คำว่า “สูญ” ความหมายก็บอกอยู่แล้วว่า สิ่งที่เคยมีอยู่ก่อนแล้ว
    ค่อยสูญไปในภายหลัง การสูญไปจึงทำให้เกิดความว่างขึ้นแทนที่
    ที่คุณพูดว่าว่างเปล่าอะไรหละที่ว่างเปล่า???

    ส่วนคำว่า “ศูนย์” ผมบอกไปข้างต้นแล้วว่ามันมีค่าในตัวมันเอง
    คุณลองเขียนวงกลมของปฏิจจสมุปบาทขึ้มาดูสิครับ
    ศูนย์กลางจะมีค่าขึ้นมาทันทีใช่มั้ยครับ???

    ;aa24
     
  19. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เอาของ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร มาให้อ่านกัน
    <O:p</O:phttp://palungjit.org/showthread.php?t=181843

    ตนอยู่ที่ไหนเล่าที่นี้ โอปนยิโก เราต้องน้อมเข้า ปัจจัตตังรู้เฉพาะตน เท่านั้น
    ใครเป็นผู้รู้เวทนา ใครเป็นผู้รู้สัญญา
    ใครเป็นผู้รู้สังขาร ใครเป็นผู้รู้วิญญาณ
    เราต้องน้อมเข้ามา ใครว่าธาตุดิน ใครว่าธาตุน้ำ ใครว่าธาตุลมและธาตุไฟ
    ผู้ใดไม่ได้เป็นพุทธะก็ไม่รู้อะไร

    ..............

    เมื่อเราเห็นแล้ว “จิตของเรา”มันก็วางลงน่ะซี่
    ให้ดูซิ น้ำเขาเป็นอะไรล่ะ ดินเขาเป็นอะไรล่ะ
    เขาเจ็บเขาปวดไหมล่ะ เขาหมุนเขาเวียนไหมล่ะ
    เขาไม่ได้ว่าอะไร เขาอยู่เฉยๆยังงั้น
    นี่หละก้อนขี้ดินละ นั่งอยู่คนละก้อน
    ก็มัวถือว่าเป็นคน ว่าเป็นตัว ว่าเป็นตน มันก็ทุกข์ละซี่ เกิดวุ่นวายเกิดเดือดร้อนซี่
    ไปสมมุติเอาว่า เราเป็นโรค ว่าเราเป็นภัย ว่าเราเป็นโน่น ว่าเราเป็นนี่
    เรื่องสมมุตินี้สัตว์ทั้งหลายจมอยู่ในมหาสมุทร จมอยู่ที่ สมมุติ อันเป็นนั่นเป็นนี่
    หากเราจำแนกแจกออกแล้วมันก็ไม่มี
    “จิต”มันก็สงบน่ะซี่ พอ “จิต”สงบแล้วมันก็หาย หมดภัยเวรทั้งหลาย
    เหลือแต่กรรม เหตุนั้นจึงให้พากันดูให้รู้

    ;aa24
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    นั่นแหละ ถูกแล้ว ให้พิจารณาให้เห็นให้ได้ว่า สรรพสิ่งมันเป็นของมันแบบนั้นทำไมเราต้องเดือดร้อน

    เช่นว่า ผมด่าคนอื่น คนอื่นฟังไปแล้วโมโหขึ้นมา นี่ ต้องตั้งสติระลึกใช้ปัญญาทบทวนด้วยว่า
    ก็เขาพิมพ์มาแบบนั้น พูดมาแบบนั้น ทำไมใจเราต้องโมโหด้วย โมโหนี่มันเกิดเพราะว่าเขาพูดด่าเราหรือ ก็ไม่ใช่ เพราะว่าคนอื่นบางทีก็ไม่โมโหเหมือนเรา
    นี่เราจะเห็นตัวโมโหว่า ไร้สาระจริงๆ มันเกิดมาส่งเดช อย่ากระนั้นเลย คราวหน้าคราวหลังเราจะไม่ให้มันเกิดอีก ด้วยการที่เท่าทันว่า มันโง่ที่หลงไป

    ทีนี้จิตมันจะเหลือแต่ว่า เขาพูดผิด เขาพูดถูก เท่านั้น มันไม่หลงไม่โง่ไปโมโห หรือ หลงไหลได้ปลื้ม

    ก็ตัวหลงทั้งหลายก็ให้พิจารณา เอาธรรมให้ลงใจให้ได้ นี่แหละ จะตัดได้หมด โลกจะแตก ใครจะเป็นจะตาย ตัดได้หมด
     

แชร์หน้านี้

Loading...