หลวงพ่อสำเร็จศักดิสิทธิ์ /รวมเรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    maecheebunreungtongboonterm.jpg
    ประวัติแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม
    4 ปีที่ผ่านมา
    โดย เจ้าของร้าน


    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๗ ตรงกับวันอาทิตย์เดือน ๔ ปีมะเมีย ขึ้น ๑๕ ค่ำ เวลา ๑๑.๒๐ น. บิดาชื่อนายยิ้ม กลิ่นผกา มารดาชื่อ นางสวน กลิ่นผกา สถานที่เกิดอยู่ในคลองสามวา อำเภอมีนบุรี กรุงเทพฯ ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ตำบลบางปะกอก อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี มีฐานะทางบ้านเป็นชาวสวน ท่านได้เติบโตในละแวกบ้านชาวสวนจนเติบใหญ่ บิดาของท่านมีภริยาทั้งสิ้นสามคน ภรรยาคนแรกมีบุตรสองคนคือ นางอยู่ (หรือ ทองอยู่) กลิ่นผกา เป็นพี่สาวของท่าน ซึ่งได้สิ้นชีวิตไปนานแล้ว คนต่อมาคือคุณแม่บุญเรือน ภรรยาคนที่สองชื่อนางเทศ มีบุตรสามคน คือนายเนื่อง นางทองคำ นางทิพย์ ฯลฯ ภรรยาคนที่สามไม่มีใครจำชื่อได้ จำไม่ได้ทั้งว่ามีบุตรชายและหญิงหรือไม่
    ชีวิตยามเยาว์ของคุณแม่บุญเรือน ท่านได้รับการศึกษาให้รู้ภาษาไทยสมควรกับอัตภาพพอเหมาะสมกับสมัย ได้รับการฝึกสอนอบรมจากบิดามารดา ท่านมีความสามารถในการทำกับข้าวมีรสโอชาหลายอย่าง เช่น น้ำพริก ท่านปรุงได้รสอร่อยเป็นอันมาก นอกนั้นอาหารจำพวกแกง และ ต้ม หลายชนิด ท่านก็สามารถทำได้อย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีความสามารถในการเย็บจักร ตัดเสื้อผ้า ตัดผมได้ เมื่อคุณแม่บุญเรือนอายุได้ ๑๕ ปีเศษ ซึ่งเป็นวัยรุ่นสาว ท่านได้รับการฝึกสอนจากชีวิตในครอบครัวให้รู้จักการ “นวด” เนื่องจากปู่ของคุณแม่บุญเรือนผู้ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า “อาจารย์กลิ่น” เป็นหมอนวดผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น จนกระทั่งเมื่อ “อาจารย์กลิ่น” ท่านเห็นว่าได้ประสิทธิประศาสน์วิชาได้ประมาณหนึ่งแล้วท่านจึงได้ “ครอบวิชาหมอนวด” และมอบตำราหมอนวดให้เป็นสมบัติสืบทอดแก่คุณแม่บุญเรือน โดยตำราดังกล่าวได้มีข้อห้ามไว้ว่า การนวดตามตำรานี้จะเรียกร้องเงินทองเป็นค่าจ้างไม่ได้ สุดแล้วแต่ผู้รับการนวดจะให้เองโดยสมัครใจเท่านั้น ในสมัยต่อมา เมื่อคุณแม่บุญเรือนได้สำเร็จธรรมแล้ว ท่านก็ได้ใช้วิธีรักษาด้วยการอธิษฐานธรรม และอธิษฐานสิ่งของต่างๆ เพื่อใช้ในการรักษาโรคตามวิธีการของท่าน ปรากฏว่ามีโรคภัยไข้เจ็บหลายชนิดที่ท่านใช้วิธีนวดเข้าช่วยด้วย เช่น คนไข้คนหนึ่งเป็นไส้ติ่งอักเสบ ท่านก็ได้อธิษฐานปูนทาและการนวดประกอบกัน และประสบผลสำเร็จในการรักษาอย่างน่าอัศจรรย์
    ในช่วงสมัยวัยรุ่นของท่านนั่นเอง ท่านได้รับการแนะนำให้รู้จักพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่วัดบางปะกอก พระภิกษุรูปนั้นคือพระอาจารย์พริ้ง (พระครูประศาสน์สิกขกิจ) ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน พระอาจารย์พริ้งนี้เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาก เป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเมื่อท่านรู้จักหลวงลุงของท่านแล้ว ท่านก็ได้นำภัตตาหารและและเครื่องไทยทานต่างๆ ไปถวายพระอาจารย์พริ้งอยู่เสมอๆ ทำให้ท่านได้รับการสั่งสอนให้รู้จักธรรมะ และคุณธรรมในการดำเนินชีวิตตามแนวคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้เริ่มเลื่อมใสศรัทธา และรักงานบุญงานกุศลมากขึ้น ทั้งน่าจะถือได้ว่าเป็นปฐมเหตุสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้ท่านบำเพ็ญกรณียกิจ เป็นนักบุญในพระพุทธศาสนาในสมัยต่อมา
    ชีวิตสมรส เมื่อคุณแม่บุญเรือนมีอายุพอสมควร ก็ได้ทำการสมรสกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม ซึ่งเป็นตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลสัมพันธวงศ์ ตั้งอยู่บริเวณสามแยกเจริญกรุง อยู่ห่างจากวัดสัมพันธวงศ์ เพียง ๓๐๐ เมตรเศษชีวิตสมรสของคุณแม่บุญเรือน นับว่าเต็มไปด้วยความเรียบร้อยและราบรื่น เล่ากันว่าสามีของท่านเป็นผู้เอาอกเอาใจท่านดีผู้หนึ่งแต่ไม่มีบุตรธิดาด้วยกันเลย คุณแม่ได้รับอุปการะเด็กหญิงชายอื่นอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่มีผู้ที่ท่านอุปการะมาแต่เยาว์วัยตลอดมาจนเติบใหญ่ คนหนึ่งในฐานะบุตรบุญธรรม คือ เด็กหญิงอุไร จนอายุ ๑๙ ปี นางสาวอุไรจึงได้เข้าพิธีสมรสกับ ร.ต.ท.เต็ม คำวิเทียน นางอุไร กับ ร.ต.ท. เต็ม อยู่กินกันมาจนมีบุตรสาวคนหนึ่งชื่อว่า นิดา คำวิเทียน ซึ่งเป็นหลานยายที่คุณแม่บุญเรือนให้ความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง ในระหว่างครองชีวิตร่วมกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม คุณแม่บุญเรือนได้ประกอบอาชีพช่วยสามีด้วยการรับตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยจักร ตามความชำนาญที่ท่านได้ฝึกฝนมาแต่เดิม นอกเหนือจากการตัดเย็บเสื้อผ้าที่ท่านทำเป็นอาชีพแล้ว ท่านยังรักษาโรคโดยการนวด ซึ่งท่านทำเป็นการกุศลโดยไม่รับสินจ้าง และท่านยังมีความสามารถในการทำคลอด หรือเป็นหมอตำแยแผนโบราณด้วย ซึ่งทำให้ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากในขณะนั้น
    การปฏิบัติธรรม คุณแม่บุญเรือนได้เริ่มฝึกหัดวิปัสสนากัมมัฏฐานที่วัดสัมพันธวงศ์ กับท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ต่อมาสามีได้อุปสมบทที่วัดนี้ ๑ พรรษา และเมื่อสามีลาสิกขาไปแล้ว สามีก็ยังเป็นผู้ถือมั่นในทางธรรมอย่างมาก ทำบุญให้ทานเป็นประจำ สุราซึ่งเมื่อก่อนอุปสมบทดื่มเมาถึงคลานก็เลิกเด็ดขาด ทำให้คุณแม่บุญเรือนก็ยิ่งมีศรัทธาเลื่อมใสมากขึ้น ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๐ จึงได้ลาสามีออกบวชเป็นชี และอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์ ได้เพียรฝึกหัดวิปัสสนากัมมัฏฐาน
    เหตุการณ์ตอนที่ท่านจะบรรลุธรรม คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เคยเล่าถึงเหตุการณ์ตอนที่ท่านจะบรรลุธรรมไว้กับนายสุวรรณ ทองนาค บ้านอยู่อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี (ซึ่งต่อมาในปี ๒๕๑๑ได้บวชเป็นพระ ที่วัดอาวุธวิกสิตาราม) ว่า "ท่านตั้งใจจะขอปฏิบัติธรรมให้สำเร็จอยู่ที่ศาลาวัดสัมพันธวงศ์ เป็นเวลา ๙๐ วัน โดยถือศีล ๘ บวชเป็นชี นั่งสวดมนต์ภาวนา เจริญวิปัสสนาตามแนวทางของท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ (ในสมัยนั้น) การปฏิบัติธรรมดำเนินไปจนล่วงเข้าวันที่ ๘๙ ก็ยังไม่สำเร็จธรรม หรือเห็นธรรมแต่ประการใด จึงคิดท้อใจกลับบ้านที่บ้านพักตำรวจปทุมวัน ได้พบกับสิบตำรวจโทจ้อย ผู้เป็นสามี คุณแม่บุญเรือนจึงอาบน้ำ นุ่งขาวห่มขาว เตรียมตัวไหว้พระสวดมนต์ ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ ๒๑.๐๐ นาฬิกา เดือน ๖ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ (ตรงกับวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๔๗๐) จากนั้น คุณแม่บุญเรือนก็ได้แลเห็นโยมมารดาและหลานๆ นอนหลับกันหมดแล้ว โยมมารดานั้นมีอาการกรน ส่วนหลานๆ ก็มีอาการละเมอบ่นพึมพำ และกัดฟันกรอดๆ รู้สึกเกิดธรรมสังเวชเบื่อหน่ายต่อสภาพอย่างนั้นขึ้นมาในขณะนั้น ท่านจึงคิดอยากหลีกหนีเสียชั่วคราว ครั้นแล้วคุณแม่บุญเรือน ก็ได้นั่งสมาธิกรรมฐานในห้องพระ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณตี ๒ ก็มีอาการแน่นหน้าอก อึดอัด หายใจไม่ออก คล้ายกำลังจะตาย จึงตั้งสติว่า ‘ถ้าจะตายก็ขอให้ตายในตอนนี้เถิด จะได้หมดเวรหมดกรรม ธรรมก็ยังไม่ได้บรรลุเลย’น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เมื่อคุณแม่บุญเรือนคิดดังนี้เท่านั้น อาการทุกขเวทนาทั้งปวงก็พลันหายไปสิ้น บังเกิดความสว่างขึ้นมาทั้งตัว มีความใสสว่างอย่างสุดที่จะประมาณ รู้ชัดว่าตนเองบรรลุอภิญญาถึง ๕ อย่าง มีพระธรรมเข้าประทับ เมื่อนึกอยากรู้อยากเห็นอะไร ก็รู้แจ้งแทงตลอดสว่างไสวไปหมด และยังได้อิทธิปาฏิหาริย์อีกด้วย จากนั้น เมื่อคุณแม่บุญเรือนบรรลุธรรมแล้ว ก็ได้นั่งกรรมฐานต่อไปอีก จนกระทั่งเวลาใกล้ตี ๕ รุ่งเช้า ได้คิดถึงวัดสัมพันธวงศ์ จึงตั้งจิตอธิษฐานขอให้เข้าไปนั่งในศาลาวัดสัมพันธวงศ์ พอสิ้นอธิษฐาน แล้วหลับตาลง ก็คล้ายกับหัวได้หกกลับไปเบื้องหน้า คล้ายกับตีลังกา เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็ปรากฏว่าตัวเองได้เข้ามานั่งอยู่ในศาลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประตูศาลาวัดยังคงปิดใส่กุญแจอยู่ คุณแม่บุญเรือนจึงได้ร้องเรียกให้พระภิกษุสามเณรซึ่งอยู่ในบริเวณนั้น ช่วยไขกุญแจเปิดประตูให้ที เมื่อเรื่องที่คุณแม่บุญเรือนหายตัวมาปรากฏอยู่ในศาลาวัด แพร่หลายออกไป ก็มีพระเณรเถรชี อุบาสกคุณแม่ต่างก็มารุมล้อม โจษจันกันเซ็งแซ่ด้วยความตื่นเต้นอัศจรรย์ใจอย่างเหลือที่จะกล่าวได้ไปตามๆ กัน ต่อมาคุณแม่บุญเรือน ท่านได้อธิษฐานหายตัวจากศาลาไปเขาวงพระจันทร์ ท่านได้พบพระผู้วิเศษที่นั่น และได้รับพระธาตุ ๑ องค์จากพระองค์นั้น กลับมาพระธาตุยังกำอยู่ในมือ เป็นพยานแก่ตัวท่านเองว่ามิได้ฝันไป” หลังจากนั้นท่านก็มิได้แสดงฤทธิ์อะไรที่เป็นไปในลักษณะการแสดงให้คนชมอีกเลย เว้นแต่อยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็น
    ในปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ท่านเริ่มปฏิญาณไม่รับรักษาโรคด้วยวิธีการนวดให้แก่ผู้ชาย เว้นไว้แต่ธรรมจะบันดาล การรักษาโรคในระยะนี้จะเป็นการรักษาโดยอธิษฐานเพียงอย่างเดียว ส่วนการสั่งสอนและอบรมธรรมะยังคงปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันก่อนที่ท่านวายชนม์ ๑ วัน ครั้นต่อมาประมาณ เดือน มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๗ ท่านมีอาการป่วยโรคไต หัวใจอ่อน โลหิตจาง และความดันโลหิตสูง ติดต่อกันมาตามลำดับ มีแต่อาการทรงกับทรุด ไม่ยอมรับรักษาของแพทย์ เช่น นายแพทย์ปรีดา ล้วนปรีดา และแพทย์หญิงวัฒนา ดวงจันทร์ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิด ได้เคยอ้อนวอนเพื่อทำการรักษา โดยฉีดยา ให้น้ำเกลือและกลูโคส และอ้อนวอนขอให้รับประทานยาแผนปัจจุบันบ้าง เป็นครั้งคราว แต่คุณแม่บุญเรือนก็ไม่ยอม นานๆ จึงจะยอมตามใจแพทย์สักครั้งหนึ่ง จะพาไปโรงพยาบาลท่านก็ไม่ไป ท่านต้องนอนป่วยลุกนั่งไม่ได้เป็นเวลา ๙ เดือน "อันว่า สังขาร ร่างกาย และใจ หรือขันธ์ห้านี้ ไม่ใช่ตัวของเรา มันเป็นเพียงเครื่องอยู่อาศัยชั่วคราวเท่านั้น เป็นเรือนทุกข์ แม่ต้องการออกไปจากเรือนทุกข์นี้” คุณแม่บุญเรือนกล่าว บรรดาบุคคลในคณะสามัคคีวิสุทธิ์ เมื่อได้ยินคำพูดของท่านแล้วเต็มไปด้วยความเศร้าสะท้านในหัวใจอย่างคาดคิดไม่ถึง นี่ละคือผู้สิ้นอาสวะกิเลสผู้บรรลุอาสวักขยญาณโดยแท้ ต่อมาเมื่อวันที่ ๓, ๔, ๕ กันยายน ๐๗ ท่านมีอาการอ่อนเพลียมาก เหนื่อยในเวลาพูดและเบื่ออาหาร มีเสมหะเหนียว ในลำคอ ปวงสานุศิษย์ลูกหลานยังคงมาร่วมชุมนุมสวดมนต์ภาวนาเช่นเคย คุณแม่ก็ยังทักทายไต่ถามได้อย่างแจ่มใส หากไม่สังเกตจะไม่ทราบอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใดเลย มีข้อสังเกตอันสำคัญประการหนึ่ง ก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์ คุณแม่ได้สั่งให้หยุดนาฬิกาเรือนใหญ่ไว้ที่เวลา ๑๑.๐๐ นาฬิกาเศษทั้งสองเรือน ท่านบอกว่าหนวกหู ชาวคณะสามัคคีวิสุทธิปฏิบัติตามคำสั่งโดยมิได้เฉลียวใจแต่อย่างใด และแล้ววันที่ลูกศิษย์ลูกหลานได้ประสบความเศร้าโศกรันทดใจอย่างใหญ่หลวงก็มาถึง เพราะในเวลา ๑๑.๒๐ น. ของวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๐๗ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ได้วางสังขารทิ้งร่างจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
    :- https://www.jinda789amulet.com/article/3/ประวัติแม่ชีบุญเรือน-โตงบุญเติม
    more ---> http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=12567
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    หลวงปู่ตื้อ แอบดูหลวงปู่มั่นเหาะไปบิณฑบาต

    ปู่ดอน station
    Nov 7, 2023

    หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม พระอริยสงฆ์ผู้องอาจในธรรม ท่านไม่เชื่อในข่าวลือที่พระเณรบอกว่า หลวงปู่มั่นอดอาหารหลายวัน ไม่ยอมลงจากถ้ำมาบิณฑบาต ท่านจึงต้องไปพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ โดยได้แอบซุ่มดูหลวงปู่มั่นอย่างเงียบๆ แต่แล้วสิ่งที่น่าตกตะลึงก็ปรากฏขึ้น!…ท่านเห็นหลวงปู่มั่นเหาะ???..
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ธุดงค์มรณะ ป่ามหาภัย

    thamnu onprasert
    Nov 15, 2023

    เรื่องราวการเดินธุดงค์ของพระ ๗ รูป ในป่ามหาภัยที่น่าสะพรึงกลัว
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    พระสมณทูตผู้นำศาสนาพุทธสู่สุวรรณภูมิ(ประเทศไทย)พ.ศ. 236 สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระโสณเถร พระอุตตรเถระ

    เรื่องเล่าจากบันทึก
    Nov 7, 2023
    ในสมัยนั้นพระเจ้าอโศกได้ส่ง #พระธรรมฑูต มา #เผยแพร่พระพุทธศาสนา ทั่วโลกแบ่งได้ ๙ สายดังนี้คือ

    สายที่ ๑ มีพระมัชฌันติกเถระเป็นหัวหน้าคณะ ไปเผยแผ่ #พระพุทธศาสนา ณ แคว้นกัษมิระ คือ รัฐแคชเมียร์ ประเทศอินเดียปัจจุบัน และแคว้นคันธาระ ในปัจจุบัน คือ รัฐปัญจาป ทั้งของประเทศอินเดียและประเทศปากีสถาน
    สายที่ 2 พระมหาเทวเถระ เป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแคว้นมหิสมณฑ,ปัจจุบัน ได้แก่ รัฐไมเซอร์และดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำโคธาวารี ซึ่งอยู่ในตอนใต้ประเทศอินเดีย
    สายที่ 3 พระรักขิตเถระ เป็นหัวหน้าคณะ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ วนวาสีประเทศ ในปัจจุบันได้แก่ ดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดีย
    สายที่ 4 พระธรรมรักขิตเถระ หรือพระโยนกธรรมรักขิตเถระ (ซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นฝรั่งคนแรกในชาติกรีกที่ได้เข้าบวชในพระพุทธศาสนา)เป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ อปรันตกชนบทปัจจุบันสันนิษฐานว่าคือดินแดนแถบชายทะเลเหลือเมืองบอมเบย์
    สายที่ 5 พระมหาธรรมรักขิตเถระ เป็นหัวหน้าคณะ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ แคว้นมหาราษฎร์ ปัจจุบัน ได้แก่ รัฐมหาราษฎร์ของประเทศอินเดีย
    สายที่ 6 พระมหารักขิตเถระ เป็นหัวหน้าคณะ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในเอเซ๊ยกลาง ปัจจุบันได้แก่ ดินแดนที่เป็นประเทศอิหร่านและตุรกี
    สายที่ 7 พระ มัชฌิมเถระ พร้อมด้วยคณะ คือพระกัสสปโคตรเถระ พระมูลกเทวเถระ พระทุนทภิสสระเถระ และพระเทวเถระ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ ดินแดนแถบภูเขาหิมาลัย สันนิษฐานว่า คือ ประเทศเนปาล
    สายที่ 8 #พระโสณเถระ และ #พระอุตตรเถระ เป็นหัวหน้าคณะ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งปัจจุบันคือ ประเทศในคาบสมุทรอินโดจีน เช่น พม่า ไทย ลาว เขมร เป็นต้น สายที่ 9 พระมหินทเถระ (โอรสพระเจ้าอโศกมหาราช) พร้อมด้วยคณะ คือพระอริฏฐเถระ พระอุทริยเถระ พระสัมพลเถระ และพระหัททสารเถระ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ ลังกาทวีป ในรัชสมัยของพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ กษัตริย์แห่งลังกาทวีป (ปัจจุบันคือประเทศศรีลังกา)
    ทั้ง ๙ สายที่พระเจ้าอโศกส่งมานั้น ล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงคุณวิเศษอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสายที่ ๘ พระโสณะและพระอุตตระเถระนั้น คือต้นตำนานแห่งหลวงปู่โลกอุดรในประเทศไทยเราจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งผู้ปฏิบัติจำนวนมากยังให้ความเชื่อถือว่า แม้บัดนี้เป็นเวลาเนิ่นนานกว่าสองพันปีแต่พระอุตตระเถระก็ทรงทรงสังขารอยู่เพื่อโปรดพุทธศาสนิกชนคนมีบุญ ให้เข้าถึงพระสัทธรรมเป็นการสืบพระศาสนาต่อไปจนครบ ๕ พันปี ก็นับเป็นอีกหนึ่งพระคุณแห่งองค์พระเจ้าอโศกที่ได้ส่งพระอรหันต์ผู้ทรง อภิญญาสูงสุดมายังดินแดนแห่งนี้จนเป็นที่มาแห่งตำนานโลกอุดรในสยามประเทศ หนึ่งใน #พระอรหันต์ เจ้าผู้ทรงปฏิสัมภิทาญาณ ซึ่งมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิคู่กับหลวงปู่อุตตระเถระหรือหลวงปู่โลกอุดร ก็คือ “พระโสณะเจ้า” ท่านนี้ก็เป็นหนึ่งในคณะ #โลกอุดร เช่นกัน แต่ประวัติเรื่องเล่าของท่านค่อนข้างน้อยกว่าหลวงปู่พระอุตระเถระมาก ในปัจจุบันหากจะหารูปของหลวงปู่พระโสณะ ต้องไปดูที่วัดอโศการาม ท่านพ่อลีท่านสร้างคณะโลกอุดรไว้ครบถ้วนทั้งสามองค์ คือ พระอุปคุต พระอุตตระเถระและพระโสณะ พุทธศาสนาเข้ามาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งก็คือบริเวณจังหวัดนครปฐม โดยสันนิษฐานจากการพบตราพระธรรมจักร ที่นักโบราณคดี สันนิษฐานกันว่า น่าจะอยู่ในช่วงประมาณ พ.ศ.236 สมัยเดียวกันกับพระจ้าว #อโศกมหาราช ส่งพระโสณะ และพระอุตตะระมาประกาศพระศาสนา แต่พม่าก็สันนิษฐานว่า มีอยู่ที่เมืองสะเทิม ภาคใต้ของพม่า แม้ จะมีความขัดแย้งกันเรื่องหลักฐานที่ต่างฝ่ายต่างอ้างก็ตาม พุทธศาสนาก็ได้เข้ามาสู่สุวรรณภูมิแล้ว นำโดยพระโสณะและพระอุตตะระ พระเถระชาวอินเดีย เดินทางมาเผยแผ่พุทธศาสนาในแถบนี้ จนเจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ ตามยุคสมัยต่อไปนี้
    1. สมัยทวารา\วดี ผืนแผ่นดินจุดแรกของ อาณาจักรสุวรรณภูมิ หรือที่เรียกกันว่า “ แหลมทอง ” ซึ่งท่าน พระโสณะกับพระอุตตะระได้เดินทางจากชมพูทวีป เข้ามาประดิษฐานนั้น จดหมายเหตุของหลวงจีนเหี้ยน\จัง เรียกว่า “ #ทวาราวดี ” สันนิษฐานว่าได้แก่ที่จังหวัดนครปฐม’ เพราะมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่างๆ เช่น พระปฐมเจดีย์’ ศิลารูปพระธรรมจักร เป็นต้น’ ปรากฏว่าเป็นหลักฐานประจักษ์พยานอยู่’ พระพุทธศาสนาที่เข้ามาในครั้งนี้ เป็นแบบเถรวาทดั้งเดิม’ พุทธศาสนิกชนได้มีความศรัทธาเลื่อมใส บวชเป็นพระภิกษุจำนวนมาก’ และได้สร้างสถูปเจดีย์ไว้สักกา\ระบูชา เรียกว่า สถูปรูปฟองน้ำ เหมือนสถูปสาญจีในอินเดีย’ ที่พระจ้าว\อโศกทรงสร้างขึ้น ศิลปะในยุคนี้เรียกว่า ศิลปะแบบทวาราวดี’
    2. สมัยอาณาจักรอ้ายลาว พระพุทธศาสนาในยุคนี้เป็นแบบมหายาน’ ในสมัยที่ ขุนนาง\เม้ากษัตริย์ไทย’ ก่อนที่จะอพยพเข้ามาสู่ประเทศไทยปัจจุบัน ครองราชย์อยู่ในอาณาจักรอ้ายลาว’ ได้รับเอาพระพุทธศาสนามหายาน ผ่านมาทางประเทศจีน’ โดยการนำของพระสะมะณะทูตชาวอินเดียมาเผยแผ่’ ในคราวที่พระเจ้า\กะนิษกะมหาราช ทรงอุปถัมภ์ การสังคายะนาครั้งที่4 ของฝ่ายมหายาน ณ เมืองชะลันธะระ’ พระสะมะณะทูตได้เข้ามาเผยแผ่ พระพุทธศาสนาในเอเชียกลาง’ พระเจ้า\มิ่งตี่กษัตริย์จีน ทรงรับพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่ในจีนและได้ส่งทูตมาเจริญสัมพันธไมตรีกับอาณาจักรอ้ายลาว
    เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    พระมาลัยท่องแดนนรก

    Dharma World
    Nov 6, 2023
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    โยมทองแดง โยมผู้มีกระแสจิตอันแรงกล้า ศิษย์หลวงตามหาบัว

    ปู่ดอน station
    Nov 9, 2023

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน พระอริยสงฆ์แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ท่านมีลูกศิษย์ที่เป็นโยมคนหนึ่งซึ่งมีกระแสจิตแรงกล้ามาก มากจนสามารถหยุดรถทั้งคันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนได้เพียงแค่กำหนดจิตส่งไปหารถคันนั้นอึดใจเดียว โยมคนที่ว่านี้บ้านอยู่จังหวัดจันทบุรี แกมีชื่อว่า “โยมทองแดง”..
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ๑๕๔.นางไม้กตัญญู ผจญภัยบนดอยสูง

    thamnu onprasert
    Nov 18, 2023
    เรื่องราวลี้ลับของผีนางไม้กตัญญซึ่งมาช่วยเหลือส่างอุ่นเปิงไว้ในขณะที่เขาประสบปัญหาอยู่กลางดง.

     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    อาจารย์ยอด : พิธีกวนข้าวทิพย์ [น่ารู้]

    อาจารย์ยอด
    Nov 15, 2023

     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    เรื่องพิสดารนิพพานกลางอากาศ

    หลวงตา
    Nov 22, 2023
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    อาถรรพ์คำสาปเจ้าแม่กาลี

    thamnu onprasert
    Nov 23, 2023
    เรื่องราวอาถรรพ์คำสาปของเจ้าแม่กาลีที่นำความตายอย่างน่าสยองมาสู่นายทหารหนุ่มชาวอังกฤษสองคน.

     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    "ถ้าไม่ออกไปจากที่นี้" ข้าจะฟันเจ้าให้ขาด.!! "เป็นสองท่อน" ปาฎิหาริย์เดินธุดงค์ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

    PATIHARIY - ปาฏิหาริย์ Channel
    Nov 8, 2023
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    luangtapunIntawangso.png
    ประวัติ
    พระครูวิจิตรสมณคุณ(หลวงปู่พันธ์ อินทรวังโส
    )
    ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2460 ที่บ้านใหม่หนองบัวรี อ.พิมาย(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอำเภอชุมพวง) จ.นครราชสีมา บิดาของท่านชื่อ นายอินทร์ เนาว์ถึง มารดาของท่านชื่อ นางแก้ว เนาว์ถึง ท่านมีพี่น้องรวมกัน 4 คน ท่านเป็นคนที่ 4 ในวัยเด็กของท่านได้ช่วยบิดาและมารดาของท่านทำนาและเรียนหนังสือจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เมื่อท่านอายุได้ 20 ปี ในปี พ.ศ. 2480 ท่านได้ทำการอุปสมบทที่วัดใหม่หนองบัวรี โดยมีอุปัชฌาย์นามว่า หลวงพ่อพูน จันทโชติ วัดใหม่หนองบัวรี เมื่อท่านเป็นพระภิกษุท่านได้รับฉายาว่า อินทรวังโส ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดใหม่หนองบัวรี ท่านได้ศึกษาจนจบนักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก ตลอดจนท่านได้ศึกษาวิชาอาคมและการรักษาโรคด้วยสมุนไพรจากพระที่มีชื่อเสียงในอำเภอพิมายและต่างอำเภอในสมัยนั้น โดยเฉพาะหลวงพ่อพูน ผู้เป็นอุปัชฌาย์ของท่าน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2502 กิ่งอำเภอชุมพวงได้ยกสถานะเป็นอำเภอชุมพวง ในปี
    พ.ศ. 2507 ท่านได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่หนองบัวรี ท่านได้ทำหน้าที่ดูแลพระสงฆ์ตลอดจนให้การศึกษาแก่ประชาชน พระ เณร ในปี พ.ศ. 2508 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ในปี
    พ.ศ. 2510 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะอำเภอ พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามพระครูวิจิตรสมณคุณ ในปี
    พ.ศ. 2516 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอ พระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม ในปี
    พ.ศ. 2518 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอ พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม ท่านได้ทำหน้าที่ปกครองพระสงฆ์ในเขตที่ท่านรับผิดชอบตลอดจนการสนับสนุนทางด้านการศึกษาแก่ ประชาชน พระ เณร อีกทั้งยังสร้างสาธารณประโยชน์ทางด้านวัตถุให้แก่อำเภอชุมพวงมากมายด้วยกัน รวมถึงการเป็นที่พึ่งทางกายและใจของประชาชน พระ เณร ที่ได้มาขอความช่วยเหลือจากท่าน จนกระทั่งท่านมรณภาพวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 รวมอายุ 75 ปี 55 พรรษา
    :- MEDIA=facebook]1557547414399529[/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2023
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    พราหมณ์เกิดเป็นหมา

    หลวงตา
    Nov 21, 2023
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ๒๙๑.ปราบผีเมืองแวน ธุดงค์ป่ารัฐฉาน

    thamnu onprasert
    Nov 27, 2023
    เรื่องราวลี้ลับของผีเมืองแวนซึ่งพระภิกษุหนุ่มจากเมืองไทยได้พบเจอ

     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    หลวงปู่จาม นั่งสมาธิใต้น้ำ

    หลวงตา
    Dec 1, 2023
    นั่งสมาธิใต้น้ำ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ประลองฤทธิ์ให้ศิษย์ดู

    ปู่ดอน station
    Nov 23, 2023

    หลวงพ่อปาน ได้พาคณะลูกศิษย์เดินจาริกธุดงค์เข้าไปในป่าใหญ่ ท่านได้พบกับตาปะขาวคนหนึ่ง และแล้วศึกประลองอิทธิฤทธิ์อันดุเดือดเลือดพล่านก็ปรากฏขึ้น โดยไม่มีใครยอมใคร…ทุกอย่างไม่ใช่ภาพมายา แต่มันคือเรื่องจริง!..
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,793
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    หลวงปู่ตื้อ ธุดงค์

    หลวงตา
    Nov 26, 2023
    หลวงปู่ตื้อ ธุดงค์

    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม

     

แชร์หน้านี้

Loading...