ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ราชสีห์มันหมอบอย่างเดียว ฟลัดภาพพระรัวๆ สุ้ กะท่องคาถาปล่อยวาง แบบที่พวกมึงทำประจำ มันก้อได้ไปต่อสิวะ กุขรรม

 

ก๊ากก ใหญ่กว่านักอภิญญาอีกหรอ คืออาการมึงออกมากแล้วนะ มาปล่อยแสงที่นี่ พ่อแม่รุ้ยังวะ ควรบอกให้พาไปบำบัดนะมึง ก่อนจะกุ่ไม่กลับ

 

บางคนจิตใจยังต่ำอยู่มากครูบาอาจารย์เราสอนไว้ว่า..ถ้าเปลี่ยนทิฐิเขาไม่ได้ก็ให้เว้นเสีย.....บางโพสต์ของบางคนมีการเพ่งโทษมาที่เราด้วย..เมื่อมีการเพ่งโทษมาที่เราจิตเรารับรู้ได้ตลอดเวลา...ช่างน่าสงสารยิ่งนักสำหรับบางคน..


22.."จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

บางโพสต์คงไม่ใช่ข้อความของผมน่ะ ผมเห็นกระทู้เงียบเลยถามดู ผมออกและเข้ากระทู้นี้กระทู้เดียว เลยถามดู

 

.

มึงมีครุอาจารย์ด้วยอ่อ ฝึกเองบรรลุเอง ยกหางตัวเองอยุ่ทุกวัน โชว์ออฟไปทั่วว่ากุนี่เหนือใคร พล่านไปหัวเราะคนทู้โน้นทุ้นี้ เนี่ยะแหล่ะมิจฉาทิฐิมันแก้ยากเสียจิงๆ ควรเก็บความสงสารไว้สมเพชเวทนาตัวเองให้เยอะๆ ว่าอยุ่แค่นี้ ก้อควรเจียมตัวแค่นี้ อย่าสะเออะมองสูง ทั้งที่ไม่รุ้เรื่องอะไรของเขาสักนิด

 

Bus driver is hailed a hero after saving 16 children from a burning school bus

 

In Case You're Wondering, Here's Why Birds Don't Freeze in the Winter

 

หนุ่มฝรั่ง ชี้..ศาสนาพุทธเท่านั้น มีคำสอนทั้ง ๑๙ อย่างนี้ ที่ไม่สามารถพบจากศาสนาอื่นได้.....

๑.พระพุทธศาสนา ปฏิเสธว่า มีผู้สร้างโลก ถือว่าความเชื่อนี้ไร้สาระ ตรงข้ามโลกนี้ประกอบขึ้นจากเหตุธาตุทั้ง ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ประกอบกันขึ้นมา

๒.พระพุทธศาสนา ไม่ใช่ระบบความเชื่อที่จะใช้คำว่า Religion เพราะศัพท์นี้ หมายถึง ต้องมีความเชื่อในพระเจ้าผู้สร้างโลก

๓.จุดหมายปลายทางของพระพุทธศาสนา คือ ละกิเลสได้หมดแล้ว หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด หรือวัฏฏสงสาร ไม่ใช่ไปแค่ไปเกิดบนสวรรค์เท่านั้น

๔.พระพุทธเจ้า ไม่ใช่ผู้ปลดปล่อยสรรพสัตว์ให้รอด สรรพสัตว์ต้องช่วยตนเอง เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสและวัฏฏสงสาร

๕.ความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธเจ้า และสาวก คือ ครูผู้สอนและลูกศิษย์ ไม่ใช่ตัวแทนพระเจ้า และทาสผู้รับใช้

๖.พระพุทธเจ้า ไม่เคยให้สาวกใช้ความเชื่อโดยปราศจากปัญญามานับถือ ตรงข้าม ทรงสอนให้ใช้ปัญญา พิจารณาคำสอนก่อนจะเชื่อ และเห็นจริงด้วยตนเอง และผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ต้องนำคำสอนไปประพฤติและปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นด้วยตนเอง ไม่มีใครช่วยทำให้หลุดพ้น จากการเวียนเกิดเวียนตายได้ นอกจากให้แค่แนะนำ ชี้ทางที่ถูกต้องให้เท่านั้น

๗.คำสอนพระพุทธเจ้า เป็นสัจธรรมประจำโลก ที่เป็นและมีอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าทรงเป็นแต่เพียงผู้ค้นพบเท่านั้น พระองค์ไม่ใช่เป็นคนสร้างคำสอนขึ้นมา

๘.นรกในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่สถานที่กักขังสัตว์อย่างนิรันดร์ บุคคลทำบาปแล้ว ไปเกิดในนรก เมื่อพ้นกรรมแล้ว ก็สามารถกลับไปเกิดในภพที่ดีกว่าได้ และสัตว์ที่ได้ไปเกิดในภพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภพเทวดา ภพมนุษย์ ภพเปรตวิสัย ภพเดรัจฉาน ก็สามารถเวียนกลับไปเกิดในนรกอีกได้เช่นกัน

๙.พระพุทธศาสนา ไม่ได้สอนแนวคิดเรื่องบาปติดตัว เหมือนที่ศาสนาเทวนิยมสอน แต่สอนเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งมีทั้งกรรมขาว กรรมดำ และกรรมไม่ขาวไม่ดำ

๑๐.พระพุทธศาสนาสอนว่า มนุษย์และเทวดาทุกชีวิต มีศักยภาพที่จะบรรลุธรรมได้ ข้อสำคัญก็คือ ต้องใช้ความพยายามในการปฏิบัติ เพื่อชำระกิเลสให้พ้นไปจากจิตใจ พระพุทธเจ้าก็ทรงเป็นมนุษยสามัญธรรมดา ที่หลุดพ้นจากทุกข์ได้ เพราะการประพฤติปฏิบัติมาหลายภพหลายชาติ

๑๑.กฎแห่งกรรมของทุกสรรพสัตว์ เป็นตัวอธิบายว่า เหตุใดคนถึงเกิดมาแตกต่างกัน กฎแห่งกรรมเป็นตัวอธิบายถึงภพภูมิที่สัตว์พากันไปเกิด

๑๒.พระพุทธศาสนา เน้นให้แผ่เมตตากรุณาไปยังสรรพสัตว์ ทุกภพภูมิ ทรงสอนให้ละจากการประพฤติชั่วทั้งปวง คือ อกุศลกรรมบท ๑๐ และให้ประพฤติปฏิบัติแต่กุศลกรรมบถ ๑๐

๑๓.ธรรมะของพระพุทธเจ้า เสมือนแพ หลังจากบำเพ็ญเพียรจนดับทุกข์ได้แล้ว จะอยู่เหนือบุญและบาป ธรรมะทั้งปวงจะต้องไม่ยึดมั่นถือมั่น

๑๔.ไม่มีสงครามศักดิ์สิทธิ์ ในทรรศนะพระพุทธศาสนา การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การเบียดเบียนผู้อื่นด้วยเจตนา ผู้กระทำจะต้องรับกรรมทั้งสิ้น จนกว่าจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร การฆ่าในนามศาสนา ยิ่งกระทำมิได้ในพระพุทธศาสนา

๑๕.พระพุทธเจ้าสอนว่า กำเนิดสังสารวัฏ ไม่มีเบื้องต้นและที่สุด ถ้าหากสัตว์ยังดำเนินชีวิตไปตามอำนาจกิเลส ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ย่อมต้องเวียนเกิดเวียนตายต่อไป

๑๖.พระพุทธเจ้า ทรงเป็นพระสัพพัญญู (ผู้รู้ความจริงทุกเรื่องที่ทรงอยากรู้) และพระพุทธเจ้า มิใช่เทพเจ้าผู้ทรงมีอำนาจล้นฟ้า ดลบันดาลสร้างธรรมชาติต่างๆ ขึ้นมา

๑๗.การฝึกสมาธิ สำคัญมากในพระพุทธศาสนา แม้ว่าศาสนาอื่นๆ ก็มีสอนให้คนมีสมาธิ แต่มีพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่สอน วิปัสสนา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้รู้แจ้งว่า ทุกสรรพสิ่ง เมื่อมีการเกิด ย่อมมีการดับ

๑๘.หลักคำสอนเรื่อง สุญญตา) หรือ นิพพาน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในพระพุทธศาสนา ถือเป็นคำสอนระดับสูงของพระพุทธศาสนาด้วย เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายทั่วโลกธาตุ ไม่มีสิ่งใด เที่ยงแท้ถาวร มีแต่ปัจจัย ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบกัน สรรพสิ่งในโลก จึงตกอยู่ในภาวะอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา เหมือนกันหมด พระพุทธศาสนาจึงไม่สุดโต่งไปตามแนวศาสนาประเภทเทวนิยม หรือ ตามแนววัตถุนิยม ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ที่ต้องเวียนเกิดเวียนตาย จนกว่าจะบรรลุธรรม จึงจะดับเย็น เข้าสู่นิพพาน

๑๙.วัฏจักร หรือสังสารวัฏ เป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา ตราบใดที่สรรพสัตว์ ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส ก็จะเวียนว่ายตายเกิด ไปตามภพภูมิต่างๆ ตามแรงเหวี่ยงของกรรม ไม่สิ้นสุด จนกว่าจะบรรลุธรรม ดังนั้น ทุกสรรพสัตว์ จึงต้องช่วยตนเอง เพื่อพัฒนาไตรสิกขา ให้หลุดพ้นจากโลภะ โทสะ และโมหะ หรืออวิชชา เพื่อการหลุดพ้นจากสังสารวัฏให้ได้ ฯ


22.."จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

มีเรื่องจะเล่าให้อ่านครับ ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่ทราบว่าเป็นกายในกายรึเปล่าผมก็ไม่ทราบเรื่องธรรมะเกี่ยวกับพวกนี้เท่าไร คือตาเนื้อจะเห็นภาพเป็นอีกภาพหนึ่งไม่มีสี ส่วนอีกตาหนึ่งเห็นเป็นสี และมันก็สามารถสร้างภาพเพิ่มขึ้นแต่งเติมได้หลายๆภาพ นอกเหนือออกไปจากที่ตาเนื้อของเราเห็น มันสร้างภาพขึ้นใหม่หลายๆภาพได้เร็วมากครับ และมันก็ไม่มีขอบเขตในการสร้างภาพขึ้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร สับสนวุ่นวายมากครับ กลัวจะเป็นบ้าไปก่อน

 

ประโยคของท่านเล่าปัง เป็น ธรรมะชั้นสูงครับ แต่ติดบ่วงกรรมเวร และ ติดเล่นไปหน่อย ธรรมะเลยลดค่าลงไป กลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะ

ของท่านอื่น ก็มีบ้างประปราย แต่ยัง
อธิบายไม่ตรงหลักเท่าไหร่ เน้นด่าคนอื่นเสียมากกว่า ตามจิตที่ตกต่ำของแต่ละคน

แต่เราเน้นแค่เป็น ผู้ดู เท่านั้น
ไม่จำเป็นจะต้องไปแสดงเอง
รอดู เรื่องตลกของคนอื่น
ที่เค้าใส่อารมณ์ให้เราดู
เราดูแล้ว ก็อย่าไปคิดตาม
ปล่อยๆไปบ้าง ฝึกปล่อยวางไปในตัว

 

ท่อง พุทโธ แก้

เน้นอย่าคำภาวนาขาดหายเด็ดขาด
หากท่องต่อเนื่องได้สักสองสามชั่วโมง
จะถือว่าดีมากๆ ครับ

 

ผมรู้สึกว่า สติของท่าน เริ่มจะดีมากขึ้นแล้ว

ดูจากการพูดการจา ตอนนี้ ถือว่า
การฝึกอยู่กับตัวเอง เริ่มใช้ได้ดี
เพราะเมื่อก่อน พูดอะไรก็จะออกไป
แกแลคซี่อย่างเดียว

ตอนนี้เริ่มตามจิตทัน จะพูดอะไร สื่ออะไร
ก็จะคิดก่อน แล้วค่อยสื่อสาร
ถือว่า การฝึกจิตเริ่มใช้ได้เหมือนกัน

 

ท่าน จิตยิ้มว่าถูกแล้ว
ท่านส่งจิตออกนอก มากไปหน่อย
จะต้องฝึก ส่งจิต ให้อยู่แต่ในตัว
ในร่างกายของเรา ตรงท้องน้อย ยิ่งดี

 

แล้วก็ยังมี โรคของเวรกรรม ด้วยครับ
ให้ฝึก ขออโหสิกรรม ต่อผู้อื่นให้เป็นประจำ
จะช่วยลด กรรมเวร ลงได้

 

ใช่ พระรูปนี้ไหม

 

พระ สี่สาย ที่ผมแนะนำไป ท่านไปศึกษาหรือยังครับ

 

ไม่ต้องไป ย้อนแย้ง ครับ
ปล่อยให้มันเป็นไป ตามสภาพ
คนที่เค้าทำไม่ได้อีกเยอะ
เค้าอยากที่จะได้แบบคุณนี่แหละ
เดี๋ยวสักพัก พอคุณคุ้นชินพอ
เดี๊ยวมันก็จะกลายเป็น เรื่องปกติ
ของนักปฏิบัติกรรมฐานไป
ฝึกได้ดี กายทิพย์ จึงเกิดขึ้น
ไม่ต้องไปกลัว

 

หาก พระยาธรรม หาได้ง่ายขนาดนั้น
จอมมาร ก็คงจะชิงตัวไปแล้ว
จอมมาร ก็เป็น เจ้าสวรรค์ชั้นหนึ่งเหมือนกัน
ทำไมจะหาตัวไม่เจอ

แต่ พระยาธรรม ก็เคยเป็น จอมมาร
มาก่อนเหมือนกัน
เพราะฉนั้น จะต้องทันเกมส์ของ
จอมมาร อยู่แล้ว