ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

มีพระอริยะเจ้า มาหา มาส่องดูท่าน
เห็นท่านทำเรื่องดีๆ อยู่ ท่านมาอนุโมทนา

 

อาการอย่างนี้ เค้าเรียกกันว่า ตาทิพย์ ครับ
สามารถมองเห็นสิ่งที่เป็นทิพย์ได้
เมื่อจิตใจนิ่งๆ ไม่มีภาระอะไร
หรือเริ่มปล่อยวาง เรื่องราวรอบกายได้

 

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนใช่มั้ยครับ ท่าน nilakarn ถูๆไถ่ๆไป

 

กำลังศึกษา เรื่องสติปัฏฐาน 4 อยู่ครับ

 

นอนเช้าครับท่านเล่าปัง กำลังหาความรู้อยู่ครับ อยากจะมีวิชาทะลุมิติไปไหนมาไหนเหมือนกับเขาบ้างครับ

 

ต้อง หัดสังเกต คุณลักษณะ
และ โทษ ของการทะลุ แต่ละ
ชนิดที่ มี และ เปนไป

ถ้าแยกไม่ออก จะกลายเปน

MiniMangaNibiru

สังเกตไหม หากเปนความคิด
ตอนตื่น คิดซ้ำกี่รอบก้ได้ ทุก
ครั้งที่คิด จะสมจริงเฉพาะตอน
จมไปในความคิด0% 100% พอ
ใครตบบ้องหู ก้จะเหมือนช้างหลุด
จากหล่ม(ยังมี ไหลกลับไปใน
ความคิดหลายหน กว่าจะ พ้น
ออกมาได้)

สังเกตไหม หากเปนฝันแท้ๆ ที่ไม่
ใช่กึ่งหลับกึ่งตื่น มันจะฝันได้หน
เดียว และ ในฝันมักไม่ใช่ตัวตน
ปัจจุบัน จบฝันก้มักจำไม่ได้ จะฝัน
ซ้ำอย่างใจก้ไม่ได้....ที่ได้คือ
ใช้คิดทับ

ทีนี้ ทะลุแบบ ฝึกได้....

จะ เห็นซ้ำได้เฉพาะตัวละคร
องค์ประกอบเดิม จะรีรัน รีเพลย
สะโลวโมชั่น กรอหน้ากรอหลัง
ไม่ได้

จะ ไม่แตกประเด็น ไปเรื่อย
เหมือนไฟล่ามทุ่ง จนล้าก้านคอ
ขมับ สมงสมอ

แยก จำแนก คุณลักษณะ และ
โทษ ให้ได้

เวลา มีความพ้นอำนาจ จมคิด
เจตนาใส่บัญญัติทับอาการ
ไหวๆ ซ่านๆ ซ่าๆจะได้ไม่โดน
คิดว่าฝึกได้ตามบัญญัติภาษา
จำเพาะ ห้ามเปลี่ยน ห้ามคิด
ขึ้นเองจะได้ ไม่โดนหลอก
ให้ฝึก แบบถูกร้อยจมูก อุปทานหมู่

 

“ดูกรอานนท์ สิ่งที่ให้สัตว์โลกเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏสงสารทรมานทุกข์อยู่ในนรกแลกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานแล้วๆ เล่าๆ ไม่รู้สิ้นสุดนี้มิใช่สิ่งอื่นคือตัวกิเลสแลตัณหา ล่อลวงให้ดวงจิตของสัตว์ทั้งหลายมิให้พ้นทุกข์ภัยในวัฏฏสงสาร แลมิได้ถึงพระนิพพานได้ ถ้าผู้ใดมิได้รู้กองแห่งกิเลสแล้ว ผู้นั้นก็จักประสพภัยได้รับทุกข์ในอบายภูมิทั้ง ๔ มิได้มีเวลาสิ้นสุดดูกรอานนท์ จงจับตัวตัณหาให้ได้ ถ้าจับได้แล้ว เมื่อตัวต้องทุกข์ก็จักเห็นได้ว่า ตัวเป็นอนัตตา ถ้าจับไม่ได้ก็เห็นตัวเป็นอนัตตาไม่ได้ บุคคลทั้งหลายที่มาเป็นสานุศิษย์แห่งพระตถาคตนี้ก็มีความประสงค์ด้วยพระนิพพาน การที่จะรู้ว่าดีหรือชั่วกว่ากันก็แล้วแต่กิเลสเป็นผู้ตัดสิน ด้วยว่าพระนิพพานเป็นที่ปราศจากกิเลสตัณหา ถ้าผู้ใดเบาบางจากกิเลสตัณหา ผู้นั้นก็เป็นผู้ดียิ่งกว่าผู้ยังหนาอยู่ด้วยกิเลสตัณหา ผู้ใดตั้งอยู่ในนิจศีลคือศีล ๕ ผู้นั้นชื่อว่ายังหนาอยู่ด้วยกิเลส แต่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บางจากกิเลสได้ชั้นหนึ่ง ถ้าตั้งอยู่ในอุโบสถศีลคือ ศีล ๘ ได้ชื่อว่าบางจากกิเลสได้ ๒ ชั้น ถ้ามาตั้งอยู่ในทศศีล คือศีล ๑๐ ผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าบางจากกิเลสได้ ๓ ชั้น ผู้เข้ามาตั้งอยู่ในศีลพระปาติโมกข์คือศีล ๒๒๗ ผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าบางจากกิเลสได้ ๔ ชั้น ผลอานิสงส์ก็มีเป็นลำดับขึ้นไปตามศีลนั้น ผู้ที่มีศีลน้อยอานิสงส์ก็น้อย ผู้ที่มีศีลมากอานิสงส์ก็มากขึ้นไปตามส่วนของศีล บุคคลที่มิได้ตั้งอยู่ในศีล ๕ ถึงจะมีความรู้ความฉลาดมากมายสักเท่าใดก็ดี ก็ไม่ควรจะกล่าวคำประมาทแก่ผู้ที่มีศีล ๕ ผู้ที่มีศีล ๕ ก็ควรยินดีแต่เพียงชั้นศีลของตน ไม่ควรที่จะกล่าวคำประมาทในท่านผู้ที่มีศีล ๘ ผู้ที่มีศีล ๘ ก็ควรยินดีแต่เพียงศีลของตน ไม่ควรที่จะกล่าวคำประมาทในท่านที่มีศีล ๑๐ ผู้ที่มีศีล ๑๐ ก็ควรยินดีอยู่ในชั้นศีลของตน ไม่ควรจะกล่าวคำประมาทในท่านที่มีศีลพระปาติโมกข์ ถ้าแลขืนกล่าวโทษติดเตียนท่านที่มีศีลยิ่งกว่าตน ชื่อว่าเป็นคนหลง เป็นคนห่างจากทางสุขในมนุษย์แลสวรรค์ แลพระนิพพานแท้ ...”

พุทธโอวาทคิริมานนทสูตร


**ร่ำลากันด้วยบทธรรมคิริมานนทสูตร**


22.."จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

พุทธบริษัท ถกกันเปนวงกว้าง...ว่า..

ปาฏิโมกข์สีลมีกี่ข้อ......

แม้นแต่ มหาเถระเอง ก้จนใจ
ไม่มีหลักฐานใดในชั้นพระไตรปิฏก
ระบุโต้งๆว่ามี เท่านั้นเท่านี้ข้อ

พระสูตร ใดที่ปรากฏ ประดุจเอา
สันติยัดใส่พระโอษฐ์ ร้อยแก้วจ๊ะจ๋า
สบัดสำนวนดุจพวกไพร!(ไม่มี มะเอก
หน่าคราฟ)เพื่อที่จะวัดข้อ แบ่งแยก
สังฆมณฑล

คนแต่งพระสูตรปลอม ไปหาหลวง
ปู่มั่นถามหลวงปู่มั่น "เอะมีสีลกี่ข้อ...."

หลวงปู่มั่นตบหน้าหงาย

"เรามีสีลหนึ่ง" ( มะอึง จะกราบ ไหม? )

 

ยากจัง ไปแบบมั่วๆตามสไตล์ตัวเองดีกว่าครับ ขอบคุณครับ

 

เขามีแต่ จะ พูดว่า เอ้ย ง่ายหวะ

คนที่ พึ่งตนเปน เหนกรรมเปน
ของตัว อะไรปรากฏเพราะตน
เพียร

เขามีแต่ จะ พูดว่า เอ้ย ง่ายหวะ


ส่วน การให้ผู้อื่นแสดงธรรม สอนสั่ง
แล้วเรา ไปทำตาม.....วันหนึ่ง เขาออก
อาการผลิกผัน ล้มลง

คนฟังคำสอน ก้พลอยล้มไปด้วย

นะ

สู้เอง ล้มเอง ยืนเอง เขามีแต่ จะ
พูดว่า เอ้ย ง่ายหวะ

ไปฟังเขา สู้ตามๆเขาไป เขาล้ม
...อิฮ่าน เราพลอยต้องล้มไปด้วย
.......คิดว่าง่าย แต่จริงๆคือ ทำใน
สิ่งที่ไม่มีวันมีคำว่า สำเร็จด้วยตน
เองโดยชอบ....แล้ว โทษใคร!?

 

ท่านสงบ ช่วยขยายความ "ตัวสังขาร" ให้ละเอียดขึ้นอีกหน่อยได้ไหมครับ กระผมยังไม่ค่อยเข้าใจ มันเหมือนตัว เห็น จำ คิด รู้ ที่หลวงพ่อสด วัดปากน้ำบอกเอาไว้หรือเปล่าครับ แล้วมันแตกต่างจาก ตัวกายสังขารอย่างไรครับ

ถ้าผมพิจารณาอสุภะแล้ว จะเห็นตัวอวิชชา(ความหลง)ได้อย่างไร และเมื่อเห็นตัวอวิชชาแล้ว จิตจะละวางความหลงได้เองเลยหรือเปล่าครับ

หมายเหตุ ผมได้รับคำตอบจากท่านสงบ ในห้องข้อความส่วนตัวแล้วครับ

 

ฮือฮา “ตัวกินมด” ออกสเต็ป “ไทเก๊ก” พร้อมไฝว้ ขนาดเหยี่ยวยังกลัว-ยอมบินหนี

 

อายุยังน้อย มีเวลาก็ไปออกกำลังกายเยอะๆ ไม่มีอะไรก็วิ่งมันในห้องแหละฟังเพลงไปด้วยให้เหงื่อออกเยอะๆ

ถ้าที่เป็นอยู่มันขัดขวางการดำเนินชีวิตก็ไปหาหมอ อยู่กทม.ก็ไปรพ.พระมงกุฏ บางทีมันอาจมีฮอร์โมนอะไรที่มันสูงไป เคยเจอเคสนึง รู้สึกเหนื่อยตลอด ไปเจอคนบ้าบอกว่ามีโน่นนี่ ต้องแก้กรรม เลยลากไปตรวจร่างกาย ผลคือเป็นโรคเกี่ยวกับไทรอยด์ กินยาแล้วก็ปกติดี

ส่วนเว็บนี้ก็มาอ่านขำๆ คนมโนแรงมันเยอะ อ่านข้อความคนสี่ห้าบรรทัดก็บอกได้ว่าคนนั้นคนนี้เป็นยังไง เล่าเป็นฉากๆ มั่วไปสิบถูกซักสอง คนจิตอ่อนก็ร้องว้าวกันแล้ว เป็นผู้วิเศษ เป็นเจ้าแห่งน้ำ ตอนนี้ที่ กทม.เค้าต้องการน้ำอยู่กำจัดฝุ่น แล้วเป็นไง ไอ้พวกนี้เงียบกริ๊บ จนเค้าต้องไปทำฝนเทียมกันเอง

 

เข้ามาห้องนี้แมร่งคิดว่าหลุดมาอยู่จักรวาลมาเวล มีผู้เหนือกว่านักอภิญญาทั้งปวง เจ้าแห่งน้ำ พระยาธรรม พระศรีอาริย์ เจ้าหญิงแอนโดรเมด้า เกิดมาเพื่อมารับใช้พระยาธรรม

ถ้าเว็บนี้มีภาคภาษาจีน ก็คงมีเง็กเซียนฮ่องเต้ พระยูไล หงอคง พระถังซัมจั๋งเข้ามาชัวร์

เหมือนเป็นเว็บปลดปล่อยให้คนพวกนี้ มีเยอะ มาแล้วก็ไปหรือบอกว่าจะไปแล้วก็เข้ามาใหม่ นายนที นายhotleaque นายsnakejoke หนึ่งดึงโบ มณีส่องแสง อะไรพวกนี้แหละ พวก mutant ทั้งนั้น mutantเก่าไปเดี๋ยวmutantใหม่มา

 

นอนๆอยู่มันมาเองท่าน ช่วงนี้เป็นบ่อย บังคับไม่ให้มันเกิดก็ไม่ได้