ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ตื่นรู้โดยฉับพลัน !!!

ทำสมาธิ เชื่อมจิตวิญญาณ สู่ความสำเร็จ
19 มิ.ย. 2021​

 

คลื่นความถี่ในตัวคุณ อยู่ระดับไหน?

9 พ.ค. 2021​

 

เตรียมพร้อมเข้าสู่ ยุคพลังงานใหม่

23 ก.ย. 2020​

 

วิธีเดินทางกลับบ้าน (นิพพาน)

5 เม.ย. 2021​

 

"รัก โลภ โกรธ หลง" ทรงอำนาจ
มนุษยชาติ จึงเกิดโทสะจริตร้าย

Club Friday Show จิตดี - ฟางเส้นสุดท้ายร้องไห้กลางรายการ [Highlight]i

​

จิตดีระเบิดกลางรายการ! ลาออก เพราะพุทธอภิวรรณ เปิดใจครั้งแรก ที่ Praew Talk (EP/41 : 3/3) 28 ก.ย. 2020

 

"ธรรมกาย" คือ จิตเดิมแท้,จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์


​

คำสอนของท่านเว่ยหล่าง (พระสังฆปริณายกแห่งนิกายเซนองค์ที่ 6)

“….อาตมาก็จะได้กล่าวแก่ท่านทั้งหลาย ถึงเรื่องตรีกายของพระพุทธเจ้าแห่งจิตเดิมแท้สืบไป เพื่อท่านทั้งหลายจะสามารถเห็นกายทั้งสามนี้ และจะเห็นแจ้งในจิตเดิมแท้อย่างชัดเจน จงตั้งใจฟังให้ดี และว่าตามดังๆ พร้อมกันทุกคนเหมือนที่อาตมาจะว่านำ “ด้วยกายเนื้อของเรานี้ เราขอถือที่พึ่งในธรรมกายอันบริสุทธิ์ (คือกายแก่น)ของพระพุทธเจ้า…”

ท่านผู้คงแก่เรียนทั้งหลาย กายเนื้อของเรานี้ อาจเปรียบได้กับโรงพักแรม, ดังนั้นเราจึงไม่สามารถยึดเอาเป็นที่พึ่ง, ในภายในจิตเดิมแท้ของเรา เราอาจหาพบกายทั้งสามนี้ และเป็นของสาธารณะทั่วไปสำหรับทุกคน แต่เนืองจากใจ (ของคนธรรมดาสามัญ) ทำกิจอยู่ด้วยความรู้ผิด เขาจึงไม่ทราบถึงธรรมชาติแท้ในภายในกายของเขา ผลจึงเกิดขึ้นมีว่าเขาไม่รู้จักตรีกายภายในตัวของเขาเอง (มิหนำซ้ำยังเชื่อผิด) ว่าตรีกายนั้น เป็นสิ่งที่แสวงหาจากภายนอก, ท่านจงตั้งใจฟังเถิด อาตมาจะแสดงให้เห็นว่าตัวท่านเอง ท่านจะพบกายเป็นปรากฏการณ์ อันแสดงออกของจิตเดิมแท้ อันเป็นสิ่งไม่อาจพบได้จากภายนอก…”

“จิตเดิมแท้ของเราเป็นของบริสุทธิ์ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงการแสดงออกของจิตนี้ กรรมดีกรรมชั่วเป็นเพียงผลของความคิดดีและคิดชั่วตามลำดับฉะนั้น ภายในจิตเดิมแท้ สิ่งทุกสิ่ง (ย่อมบริสุทธิ์จริงแท้) เหมือนกับสีของท้องฟ้ากับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ซึ่งเมื่อเมฆผ่านมาบัง ความแจ่งนั้นดูประหนึ่งว่า ถูกทำให้มัวไป แต่เมื่อเมฆเคลื่อนไปแล้ว ความแจ่มแจ้งกลับมาปรากฏอีก และสิ่งต่างๆ ก็ได้รับแสงมาส่องมาเต็มอย่างเดิม. ….จิตชั่วเปรียบกับเมฆ ความรู้แจ้งแทงตลอดและปัญญาของเราเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ตามลำดับ เมื่เราพัวพันอยู่กับอารมณ์ภายนอก จิตเดิมแท้ของเรา ก็ถูกบดบังไว้ ด้วยความรู้สึกที่ติดรสของอารมณ์ ซึ่งย่อมจะปิดกั้นความรู้แจ้งแทงตลอดและปัญญาของเราไว้มิให้ส่องแสงออกมาภายนอกได้

แต่เผอิญเป็นโชคดีแก่เราอย่างเพียงพอ ที่ได้พบกับครูผู้รอบรู้ละอารีที่ได้นำธรรมะอันถูกต้องตามธรรมาให้เราทราบ จึงสามารถกำจัดอวิชชาและความรู้ผิดเสียได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา จนถึงกับเราเป็นผู้รู้แจ้งสว่างไสวทั้งภายในและภายนอก และธรรมชาติแท้ของสิ่งทั้งปวงปรากฏตัวมันเองอยู่ในภายในจิตเดิมของเรา นี่แหละคือสิงที่บังเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ได้เผชิญหน้ากันกับจิตเดิมแท้ และนี่แหละคือสิ่งซึ่งเรียก ธรรมกายอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า…”

ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/ธรรมกาย

หมายเหตุ ตรีกาย พระกายทั้ง ๓ ของพระพุทธเจ้าตามคติพระพุทธศาสนา นิกายมหายาน ได้แก่ ๑. ธรรมกาย (พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า) ๒. สัมโภคกาย (กายทิพย์หรือกายละเอียดของพระพุทธเจ้า) และ ๓. นิรมาณกาย (กายที่เป็นขันธ์ ๕ และปรากฏแก่มนุษย์ทั่วไป ซึ่งบางทีเรียกว่า รูปกาย).

 

สมาธิเชื่อมจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์

18 มี.ค. 2021​

 

บทเพลง : พระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้า | อมรภัทร เสริมทรัพย์ | คอนเสิร์ตคุณพระช่วยสำแดงสด ๖
การดู 4,275,687 ครั้ง 13 ส.ค. 2019

พบแล้ว!!คนที่ร้องเพลงประกอบมหัศจรรย์พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก

การดู 13,558,961 ครั้ง 12 ม.ค. 2017
​

 

การคัดแยก คนดี-คนเลว ออกจากกัน

Under the Dome - Trailer
การดู 8,160,970 ครั้ง 23 พ.ค. 2013
​

สถานที่เกิดเหตุมหันตภัย

วันที่ 30 มกราคม เวลาเช้า 9.00 น. อันเป็นเวลาฝึกสมาธิ ดรุณีน้อยเอี้ยนอี๋ (เทียนไฉ) ก็ได้ถอดจิตติดตาม พระอาจารย์จี้กง ไปดูสถานที่เกิดเหตุมหันตภัย ต่อไปดังนี้

ขณะนั้น ลมมหาประลัยโหมมาทั้งสี่ทิศพร้อมกัน ตึกใหญ่ ๆ ที่ยังมิได้พังทลายทั้งหมด ท่ามกลางแรงระเบิดและแสงไฟโชติช่วง ได้พังคลืนลงมาทั้งหมด เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แม้แต่ต้นไม้ขนาดสิบคนโอบรอบ ก็ถอนรากถอนโคนล้มระเนระนาด ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในสายตาล้วนเป็นสภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก

แล้วเธอก็ได้เห็นหมู่บ้านใหม่แห่งหนึ่ง ตรงกลางเป็นพุทธสถาน บ้านเรือนที่อยู่ในรัศมีโดยรอบหลายร้อยเมตร ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วงเรืองรอง ผู้คนที่อยู่ในพุทธสถานและภายใต้การห่อหุ้มของแสงสีม่วง พ้นภัยโดยทั่วกัน ส่วนที่อยู่ห่างไกลออกไป แต่เป็นคนที่มีจิตใจดี ดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะดลใจให้เขาวิ่งเข้ามาหลบภัยในพุทธสถานด้วย

โลกภายนอกมืดมิดไปทั่ว ไม่มีแสงสว่างจากไฟฟ้าหรือดวงไฟจากสิ่งใดเลย สายฟ้าแลบพร้อมกับฟ้าคะนอง หยดน้ำสีแดง ๆ เหมือนสายฝน แต่มิใช่โกรกลงมาจากฟ้า แต่ละหยดมีน้ำหนักเหมือนเศษแก้ว กลิ่นเหม็นเอียนจัดเหมือนยาพิษร้ายแรง มันทะลุผ่านอิฐ หิน ปูน เหล็กกล้า และ ทุกอย่าง แต่ที่น่าอัศจรรย์ คือ เมื่อมันหยดลงมาบนรัศมีครอบที่เป็นสีม่วง มันจะสลายตัวหายไปจนหมดสิ้น ในตำหนักพระมีพระพุทธประทีป 3 ดวง บนแท่นบูชาสาดส่องประกายไฟอยู่สว่างไสว

ไม่นานต่อมา เธอก็ได้เห็นพื้นดินแยกออกเป็นร่องลึกใหญ่ทั่วไป ผีนรกทั้งหลาย กรูกันออกมาจากรอยแยกเหล่านั้น ทุกคนดูกระเหี้ยนกระหือรือ พอเห็นศัตรูคู่อาฆาตลูกหนี้ในชาติก่อนของเขา ก็ฉุดกระชากตัวลงไปในร่องลึกใต้ดินโดยทันที โดยไม่มีการพูดจาต่อรองใด ๆ เป็นภาวะที่ผีคร่ำครวญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่ำร้องโดยแท้ สยองขวัญยิ่งนัก พระอาจารย์จี้กง บอกหนูเอี้ยนอี่ ว่านั่นคือ การหักล้างบัญชีครั้งใหญ่ ในรอบหกหมื่นปีที่ผ่านมา

ทันใดนั้น เธอก็เห็นสถานที่แห่งหนึ่ง ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วงเหมือนกัน แผ่รัศมีรอบวงค่อนข้างมัวหมองเหมือนถ้ำและเหมือนบ้านเก่า ภายในบริเวณไม่มีแท่นที่บูชาพระ มุมหนึ่งในบริเวณนั้น มีไหวางเรียงอยู่หลายใบ ไหทุกใบมีฟองเหมือนน้ำและเหมือนน้ำมัน ผุดขึ้นจนล้นออกมา ฟองเหล่านั้นมีสีแดงเรื่อ ๆ ให้ความรู้สึกที่ไม่สบายใจเลย บนผนังบ้านติดยันต์เต็มไปหมด ดูอึมครึมน่ากลัว พระอาจารย์จี้กง บอกว่า ที่นั่นเป็นเมืองในม่านเมฆจอมปลอม เป็นถ้ำมารที่ปีศาจมารร้ายจำแลงไว้ล่อใจคนโลภหลงให้เข้าไปติดกัน

ไม่นานนัก เธอก็เห็น พระศรีอาริย์ปลอม ลอยลงมาจากฟากฟ้า หัวเราะร่า ร้องเรียกผู้บำเพ็ญอนุตตรธรรมและคนทั้งหลาย ที่ยังไม่ทันได้ไปหลบภัยในพุทธสถานที่แท้จริงว่า ให้ติดตามเรามา เจ้าจะหลบเลี่ยงภัยพิบัติได้ อีกทั้งแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ให้แสงสีม่วงห่อหุ้มพวกคน ให้พ้นจากการทำลายของฝนพิษได้

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาตะโกนเรียก ผู้บำเพ็ญธรรมที่หลบภัยอยู่ในตำหนักพระ ภายใต้ครอบแสงสีม่วงให้ตามไป จะได้ยกระดับและมอบหมายตำแหน่งงานธรรมชั้นสูงให้ ใครก็ตาม ที่หลงเชื่อตามไปในครั้งนี้ ก็จะไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกต่อไปโดยแท้จริงแล้ว คนที่เข้าพุทธสถานแล้ว ภัยพิบัติมิอาจเข้ามาทำลายได้เลย เมื่อถึงเวลานั้น คนที่บำเพ็ญธรรมจงพึงระวังตัวให้รอบคอบทีเดียว

ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/rwm-kha-thanay-1/kha-thanay-phra-xrhant-ci-kng

 

อวิชชา แห่งกายทิพย์

7 ก.ค. 2021​

 

"แบตเตอรี่" เป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เมื่อเกิดภัยพิบัติ

แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต 48V100Ah ตัวใหม่ล่าสุด จากแดดเสรี เหมาะกับอินเวอร์เตอร์ ที่ใช้ไฟ 48Vทุกยี่ห้อ
​

สาส์นจากปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)

เขียนโดย Unknown ที่ 22:15 ป้ายกำกับ: สถานที่หลบภัยพิบัติ ผ่านทางทิพย์นิมิต พระอาจารย์เพลิน นนทโก ให้แจ้งต่อผู้ศรัทธาในปู่ใหญ่ หลวงปุ่เทพโลกอุดร ว่าในอีก ประมาณ....ปี ข้างหน้านี้ จักเกิดภัยพิบัติอันใหญ่หลวงต่อมวล มนุษยชาติทั่วโลก ขอให้ลูกหลานทุกคนจงพากันเตรียมตัว ร้บสถานการณ์ให้ดี

โดยให้มีสติอันมั่นคงอย่าวิตกกังวล จงพา กันเร่งบำเพ็ญภาวนาทำสมาธิฝึกฝนพลังจิตให้เข้มแข็ง และ ให้พากันหาสถานที่อันสงบในป่าเขา แหล่งที่ห่างไกลความเจริญ ปลูกต้นไม้ให้มาก ๆ ล้อมรอบที่พักอาศัย แล้วบำเพ็ญภาวนา เก็บกักตุนเสบียงไว้ใช้ในยามขัดสนอันมีปัจจัยสี่ เช่น เครื่อง นุ่งห่ม อาหารแห้ง ยารักษาโรค หากผู้ใดมีเงินขอให้เปลี่ยน เป็นของมีค่าอย่างอื่น เช่น ทองคำเป็นต้น อย่าฝากธนาคาร อย่าซื้อหุ้น ให้ฝังดินไว้ ทำแผนที่ลายแทงไว้ในพื้นที่ที่ห่างไกล กรุงเทพฯ เชื้อเพลิง (พลังงาน) ให้พากันกักตุนแบตเตอรี่แห้ง เป็นต้น อย่าห่วงทรัพย์ในเมืองหลวง จงพากันไปหาที่ปลูกสร้างที่พักไว้ ตามวัดป่า วัดเขาในชนบท ตามถ้ำต่าง ๆ จึงจะพากันรอด จากภัยพิบัติ จงเร่งบำเพ็ญภาวนา

ผ่านกระแส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2539
ณ ธรรมสถานวงษ์จิต
บ้านนาคำน้อย หมู่ 7
ตำบลบ้านก้อง อาเภอนายูง
จ้งหวัดอุดรธานี 41380

 

เต้าหู้โฮมเมดทำมือโบราณ
(ต่อไปเนื้อสัตว์ จะมีพิษจากเชื้อโรคต่างๆ กินไม่ได้)

27 เม.ย. 2020​

โม่หินไซส์ใหญ่ ขนาดหน้ากว้าง 8" กว่าๆ เกือบ 8.5"

ที่มา

 

ความวัวยังไม่ทันหาย เกษตรกรร้อยเอ็ดโอด พบหมูป่วยตายยกคอก ฟาร์มเดียวนับร้อยตัว



เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดโรคระบาดซ้อนวัว พบหมูป่วยตายยกคอกทั้งฟาร์ม ที่ธวัชบุรี เสียหายเกือบ 3 แสนบาท

ปศ.จว. รับว่าเป็นโรค PRRS ที่เคยปรากฏเคยระบาดใน 5 อำเภอ แนะพบเหตุหมูเริ่มป่วยรีบแจ้งเพื่อเข้าระบบเยียวยา เพื่อให้เข้า จนท.เข้าไปควบคุมไปฝังทำลายแล้ว สามารถจะได้รับเงินช่วยเหลือร้อยละ 75% ของความเสียหาย ตามเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ สำหรับเกษตรกรรายย่อย ที่เลี้ยงหมูรายละไม่เกิน 500 ตัว แต่หากหมูที่ตายโดยไม่แจ้งก่อน แม้จะกลบฝังเอง โดยไม่แจ้ง จนท.ไม่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือ

นายกาญจน์ นองนุช กำนัน ตำบลธงธานี อ.ธวัชบุรี ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายแก้ว พลฮุย ผช.ผญบ.งิ้ว หมู่ 5 ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี ร้อยเอ็ด ลงสำรวจความเสียหาย และดูอาการของลูกหมู ในฟาร์มหมูแห่งเดียว ที่ตั้งอยู่กลางทุ่ง นอกหมู่บ้าน หลังจากที่ก่อนหน้านั้น รับแจ้งจากเจ้าของฟาร์มหมู่ ว่าหมูในคอกเกิดอาการติดเชื้อโดยไม่ทราบเชื้อและชื่อของโรคดังกล่าว ซึ่งเมื่อเกิดอาการป่วย ตัวจะเริ่มเป็นสีแดงทั้งตัว แล้วเกิดเป็นตุ่มแดงตามตัว จากนั้นไม่นานก็จะเกิดผิวช้ำเขียว เริ่มต้นที่ใบหู แล้วลามไปทั่ว แล้วมีอาการเหนื่อยหอบ ไม่กินอาหาร จากนั้นจะนอนซม ไม่ยอมลุก แล้วมีเลือดออกจมูก ไม่นานก็ทยอยเสียชีวิต โดยไม่มีทางรักษาแม้เจ้าของคอกจะหายามารักษาก็ไม่หาย และทยอยตายไปวันละหลายตัว จนกระทั่งล่าสุด เหลือเพียงลูกหมูเพียง 6 ตัว ที่มีอาการหนัก และไม่มีทางรักษา

นางสำลี มโนศรี อายุ 58 ปี เจ้าของฟาร์มหมู เจ้าของคอกกล่าวว่า หมูทั้งหมดกว่า 20 คอก เป็นหมูขุนหลายขนาด รวมทั้งหมูแม่พันธุ์ 5 ตัว รวมแล้ว กว่า 100 ตัว เกิดมีอาการป่วยประมาณไม่ถึง 1 เดือน ก็ทยอยตายทุกวัน และล่าสุด หมูแม่พันธุ์ของคอกก็ตายไปอีก 5 ตัว หลังเกิดเหตุป่วยตาย ได้ประสานแกนนำชุมชน แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์มาดูอาการ มีการเก็บเชื้อเพื่อการตรวจสอบติดเชื้อโรคอะไร และสงสัยว่าจะเป็นโรคติดเชื้อมาจากวัวที่กำลังระบาด แล้วแพร่เชื้อมาสู่หมูหรือไม่ เพื่อที่จะได้ป้องกันให้ถูกวิธี แต่หลังจากรอผลการตรวจเชื้อก็ปรากฏว่า หมูในฟาร์มก็ยังตายทุกวัน จนกระทั่งล่าสุดเหลือ เพียง 8 ตัวเท่านั้น ที่มีอาการย่ำแย่ และมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตทั้งหมดในไม่ช้า

เจ้าของฟาร์มกล่าวว่า ฟาร์มของตน มีหมูหลายขนาด ทั้งรุ่น เพิ่งอย่านม 24 ตัว/อายุ 1 เดือน 12 ตัว/ รุ่น 2 เดือน 52 ตัว/ รุ่น 3 เดือน 7 ตัว/ แม่พันธุ์ 4 ตัว/ พ่อพันธุ์ 1 ตัว รวมแล้ว 100 ตัวพอดี ตอนนี้เหลือเพียง 8 ตัว ที่นอนรอความตาย หากตายหมดก็คงจะต้องปิดฟาร์ม ซึ่งค่าเสียหายรวมแล้วประมาณ เกือบ 300,000 บาท ซึ่งตอนนี้ได้แจ้งให้แกนนำชุมชนรายงานไปยังสำหนักงานปศุสัตว์จังหวัด เพื่อหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือเยียวยา โดยหลังจากปิดคอกชั่วคราวสักระยะหนึ่ง เพื่อทำการตากคอก และฆ่าเชื้อแล้ว ก็จะกลับมาลงทุนอีกครั้ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะได้รับความช่วยเหลือ ตามที่ร้องขอความช่วยเหลือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหรือปศุสัตว์ได้หรือไม่

ซึ่งนายกาญจน์ นองนุช กำนัน ตำบลธงธานี อ.ธวัชบุรี ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคเพื่อบันทึก รายงานปศุสัตว์จังหวัด ทราบว่าเป็นฟาร์มเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาแบบรุ่นต่อรุ่น เกิดมาก็เห็นฟาร์มนี้แล้ว และจากสอบสวนเจ้าของฟาร์มยืนยันอ้างว่า ไม่เคยเอาหมู ที่อื่นมาเลี้ยงผสมในฟาร์มมาก่อน

ส่วนสาเหตุจากการสอบสวนที่มาของโรค น่าจะเกิดจาก 2 สาเหตุคือ จากการที่เมื่อไม่นานมีชาวบ้านรายอื่นในหมู่บ้านได้ซื้อลูกหมูมาจาก อ.เสลภูมิ หลายตัว ในราคาตัวละ 1,700 บาท มาฝากเลี้ยงในฟาร์ม และก็ป่วยตายไปหมดแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุของการเกิดโรค และกระจายเชื้อจนตายเกือบหมดคอก และอีกสาเหตุอาจจะเกิดจากการซื้อเนื้อหมูที่ติดเชื้อมาบริโภค ทำให้ติดเชื้อ ซึ่งได้ส่งผลการสอบสวนโรคให้กับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เพื่อประเมินสถานการณ์ หลังเกิดการตายขึ้น ส่วนการที่หมูในคอกป่วยตายทุกวัน ก็ได้เข้ามาควบคุมห้ามไม่ให้นำเนื้อไปแปรรูปจำหน่ายเพื่อการบริโภค และควบคุมให้ทำการฝังทำลายซากทั้งหมด ด้วยการใช้ทั้งรถขุดและคนขุดหลุมฝังทั้งหมด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ ในเขตตำบล ซึ่งมีฟาร์มหมูขนาดใหญ่ อยู่ 3 แห่ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ด้านนายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สอบสวนโรค ทราบว่า สาเหตุของการเกิดโรคและแพร่เชื้อโรคในสุกร น่าจะเป็นโรคที่เรียกว่าเพิส หรือ PRRS. ซึ่งเป็นโรคระบาดที่เกิดกับทั้งผิวหนังและระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเกิดการแพร่ระบาด เมื่อต้นปีนี้

จากการที่มีพ่อค้านำลูกสุกรจากนอกพื้นที่ จากจังหวัดชายแดน เข้าพื้นที่ 400 ตัว มาเช่าฟาร์มพักเพื่อขายในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยไม่ได้รับอนุญาตการเคลื่อนย้ายสัตว์โดยผ่านการตรวจโรคก่อนตามกฎหมาย ซึ่งปรากฏว่า ทำให้เกิดการติดเชื้อกระจายไปยังฟาร์ม 6 แห่ง ใน 5 อำเภอ คือ อ.ศรีสมเด็จ/อาจสามารถ/เชียงขวัญ/โพนทอง อำเภอละ 1 และ อ.เมือง 2 ฟาร์ม ซึ่งทางปศุสัตว์ได้ดำเนินคดีกับผู้นำเข้าโดยผิดกฎหมายไปแล้ว

และล่าสุดกลับพบว่ามีการระบาดเพิ่มในเขต อ.ธวัชบุรี อีกแห่ง ซึ่งได้เร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บตัวอย่างเชื้อมาตรวจพิสูจน์ ให้เกิดความชัดเจน ซึ่งจะทราบผลใน 3 วัน

ซึ่งในระหว่างรอผลตรวจเชื้อเพื่อให้เกิดความชัดเจนนั้น ได้กำหนดให้ อ.ธวัชบุรี เป็นอีก 1 พื้นที่ เฝ้าระวังและควบคุมโรค เพิ่มจากเดิม 5 อำเภอ เป็นพื้นที่คุมเข้ม โรคระบาดสุกร ซึ่งแม้โรคนี้ไม่ระบาดสู่คน ก็ควบคุมห้ามการจำหน่ายและบริโภคเด็ดขาด

และหากใครพบว่าสุกรในคอกผิดปกติ ให้รีบแจ้งกับ จนท.ปศุสัตว์ ตรวจสอบและลงทะเบียนสัตว์ป่วย เพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือ ตามเกณฑ์ที่กำหนดของกรมปศุสัตว์ ถ้าสุกรป่วยแจ้งลงทะเบียนไว้ แล้วเสียชีวิต ก็สามารถจะได้รับความช่วยเหลือเยียวยา หลังป่วย แล้วมี จนท.ปศุสัตว์ เข้าไปควบคุมฝังทำลายแล้ว ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือร้อยละ 75% ของราคาสุกร ตามเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ ที่กำหนดให้ความช่วยเหลือ สำหรับเกษตรกรรายย่อย เจ้าของฟาร์มที่เลี้ยง ไม่เกิน 500 ตัว แต่หากฟาร์มไหนหมูที่ตาย โดยไม่แจ้ง จนท.ก่อนก็จะไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือ

ที่มา https://www.matichon.co.th/region/news_2757216

 

ฟ้าทะลายโจร : ประโยชน์และข้อควรระวัง

21 มี.ค. 2019​

 

มหาภัยพิบัติมา "ต้องรอด" บทเรียนแรก น้ำท่วมปี 54

8 ก.ค. 2021​

 

นิมิตภัยพิบัติ ซาร่า ฮอฟแมน ผู้ฟื้นจากความตาย

4 ก.ค. 2021​

 

I make 220v dynamo Generator from E-bike Motor

12 มิ.ย. 2021​

 

อย่างนี้ ไม่น่าทิ้ง เครื่องสำรองไฟมีดีหลายอย่าง

28 พ.ค. 2021​

 

รวมทุกเพลง "อลิส ธนัชลักษณ์"

รวมทุกเพลง "อลิส ธนัชลักษณ์" | The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season2 13 ก.ค. 2020​

 

รวมทุกเพลง "ผิงผิง สรวีย์"

รวมทุกเพลง "ผิงผิง สรวีย์" | The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season2 | one31 13 ก.ค. 2020​

 

รวมทุกเพลง "โตโต้ ธนเดช"

รวมทุกเพลง "โตโต้ ธนเดช" | The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season2 | one31 13 ก.ค. 2020​

 

รวมทุกเพลง "แอ๊ค โชคชัย"

รวมทุกเพลง "แอ๊ค โชคชัย" ฟังกันแบบยาวๆ | The Golden Song เวทีเพลงเพราะ | one31 22 เม.ย. 2020​