อยากทราบว่าในตัวคนมีเทพฯ คุ้มครองมีลักษณะแบบไหน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nanthiya1, 11 สิงหาคม 2010.

  1. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    รับแล้วเป็นยังไง จิตวิญญาณถูกจิตวิญญาณที่มีพลังมากกว่าเข้าควบคุม จริงๆแล้วไม่อยากเขียนอะไรมาก ในนี้มีหลายรูปแบบตามแต่สัญญาเก่าที่เป็นมา เอาเป็นว่าจะอธิบายคร่าวๆพอเข้าใจ ว่าตามประสบการณ์ของตัวเองและคนรู้จักเทวดาหรือผีหรือจิตวิญญาณอีกโลกหนึ่ง เป็นกายทิพย์หรือกายละเอียดตามที่ได้เคยบอกไว้ จิตวิญญาณเป็นพลังงานคล้ายพลังงานแสง เทวดาหรือภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านั้น(เทวดาประจำตัว,องค์บารมี)มาใช้ร่างมนุษย์ด้วยสาเหตุต่างกันไป แต่ที่แน่ๆคือมันเป็นสัญญาเก่าที่ผูกพันกันมา ยิ่งบางคนเคยไปรับปากอะไรท่านในชาติก่อนยิ่งเลี่ยงไม่ได้ วัตถุประสงค์หลักคือคุ้มครองป้องกัน,ช่วยเหลือยามทุกข์ยาก(ถ้ากรรมไม่หนักเกินไป),ร่วมกันสงเคราะห์สัตว์ทั้งหลายและอาจรวมถึงการเผ่ยแผ่ธรรมสำหรับในชั้นสูงขึ้นไป โดยเฉพาะองค์บารมี หมายถึงต้องมาบำเพ็ญบารมีสงเคราะห์สัตว์ทั้งหลายด้วยกันทั้งทางโลกและทางธรรม
    เอาล่ะที่นี้เทวดาจะเข้าร่างมนุษย์ยังไง ในเมื่อมนุษย์มีจิตวิญญาณที่เป็นเจ้าของร่างอยู่แล้ว พลังงานคลื่นจะเข้าหาพลังงานคลื่นอีกตัวก็ต้องทำให้อยู่ในระดับคลื่นความถี่เดียวกันถึงจะจูนกันติด คนที่เทวดาจะมาเข้าจิตต้องโล่ง ไม่ใช่โล่งว่างเหมือนสมาธิ มันเป็นสภาพคล้ายจิตลอยไม่มีที่ยึดเหนี่ยว ตรงนี้ครูบาอาจารย์ท่านถึงพร่ำสอนให้ภาวนาเพื่อให้จิตมีที่ยึดเกาะมีฐานจิตมั่นคง ซึ่งไม่มีอะไรมาครอบงำได้
    คราวนี้กว่าพลังงานอีกตัวจะมาหาพลังงานอีกตัวก็ต้องมีการปรับคลื่นกันอยู่สักระยะไม่ใช่ปุ้บปั้บเข้าร่างได้เลย การปรับพลังงานให้มีความถี่เดียวกันเป็นผลให้ร่างๆนั้นเกิดอาการทางกายต่างๆกันไป ถึงประเด็นที่ว่าทำไมดิฉันไม่แนะนะ ต้องถามร่างทั้งหลายว่าอาการก่อนท่านลงนั้นสบายดีหรืออย่างไร มันเป็นทุกข์อย่างหนึ่ง แล้วจิตที่ขาดการภาวนาสร้างความเข้มแข็งในจิตเมื่อถูกครอบงำ จิตนั้นจะอ่อนแอลงตามธรรมชาติ ร่างบางคนถึงเบลอๆ รู้จักหลายคน บางคนก็จิตก็ติดเอาอาการของเทพที่เข้ามา บางคนบุคคลิกคล้ายเด็กไป ถามว่ามันดีมั้ย และพอเข้าแล้วแต่ละองค์มีท่าทางต่างไปอีก
    รู้จักคนนึงเป็นร่างเทพจีน แกรับเรียบร้อยไปแล้ว ซึ่งจะโดยเหตุใดไม่ทราบได้ เทพจะคะยันคะยอให้แกไปภูเก็ตตอนเทศกาลกินเจให้ได้ เหมือนเทศกาลรวมเจ้าจีน ไปแสดงอิทธิฤทธิ์กัน ด้วยแกเป็นผู้หญิง แกบอกกับเทพองค์นั้นว่า ขอไม่แทงได้มั้ย (พวกแทงเหล็กแหลมทั้งหลาย) เทพไม่ยอม แกต่อรองงั้นขอเล็กๆน้อยๆพอเป็นพิธี สงสารแกเถอะ นี่ล่ะถามว่าแกเป็นทุกข์มั้ย
    เทวดาที่มานั้นจะไม่สามารถเข้าได้เต็มตัวและบ่อยได้ตามที่ต้องการตราบใดที่ไม่มีการรับขันธ์ ถ้าไม่รับสัญญาเก่าผูกพันกันมา ยิ่งต้องมาบำเพ็ญบารมีมาโปรดโลกร่วมกันจะมาในรูปญาณแฝง ซึ่งยังดีหน่อย คือมนุษย์นั้นยังมีสติรู้ คือรู้ว่าจะโดนลง มีสติตลอดที่เทวดาเข้ามาแต่ห้ามไม่ได้เนื่องจากเทวดามีกำลังทางจิตมากกว่า ยกเว้นจะภาวนาให้จิตไม่ลอยมีที่ยึดเกาะ แล้วจะออกไม่ใช่เราอยากให้ออกท่านก็ออกตามใจเรา เมื่อจิตไม่เป็นอิสระถูกครอบงำมันก็ลำบากอย่างนี้บางทีขอแล้วท่านจะสงบลงแต่ไม่ออกซะทีเดียว อันนี้ก็มีวิธีบีบให้ท่านออก
    คราวนี้คงพอจะเข้าใจแล้วว่ามันเป็นทุกข์มั้ยเมื่อจิตไม่ใช่จิตของเรา ถูกดวงจิตอื่นมาครอบงำ ซึ่งจะเป็นเทวดาองค์ไหนมารไหนแล้วแต่สัญญาเก่า
    สำหรับถามว่าไม่ดีแล้วจะรับทำไม???
    ตอบคือไม่รู้เหมือนกันคะ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน แต่ถ้าใครมาทางสายธรรมที่มาถูกทางแล้วอย่าได้หลงทางเลยค่ะ เพราะการบำเพ็ญธรรมต้องอาศัยจิตของตัวเอง สำเร็จได้ด้วยจิตตัวเอง ส่วนใครชอบอยากมีอยากเป็น แม้ไม่อยากมีอยากเป็นแต่ต้องเป็นก็แล้วแต่วิบากกรรมของใครของมัน ส่วนใครที่จิตอ่อนอย่างเคสที่พี่นันทิยาเล่าให้ฟัง อันนี้ก็เข้าใจ คือมันต้องดูด้วยว่ารับไปเพื่ออะไร รับไปทำไม แต่ความจริงมันทำได้หลายแบบ ไม่จำเป็นต้องรับอย่างเดียว ไปครอบครูขอบารมีฤาษีพ่อแก่เป็นที่พึ่งคุ้มครองก็ได้ ซึ่งไม่มีภาระผูกพันทางจิตใดๆกับท่าน หรือไปไหว้ขอบารมีเทวดาหรือพระที่บารมีสูงๆคุ้มครองก็ได้เช่นกัน เหมือนที่คนสมัยก่อนทำกันเช่นลูกเลี้ยงยาก ลูกป่วยบ่อย เขาก็เอาลูกไปฝากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ดูแล ซึ่งก็หายป่วยเลี้ยงดูกันง่ายขึ้น
    มีของดีหรือมีครูจะรู้ได้อย่างไร
    ตอบคือ ครูสูงสุดของมนุษย์และหมู่เทวาคือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ ส่วนเทวดาคุ้มครองตัวต้องอาศัยการปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิถึงจะเห็นจะเจอด้วยตนเอง
    แล้วเวลาทำสมาธินั่งด้วยความว่างนั่งเพื่อความว่าง อย่านั่งเพื่อจะเห็นจะกลายเป็นจิตหลอกจิตไป ไอ้ที่เห็นน่ะไม่ใช่ของจริง ของจริงไม่เห็น เมื่อปฏิบัติบ่อยสมาธิเข้าที่เข้าทางจิตจะรับรู้ได้เองว่าท่านเป็นใครเพราะท่านจะมาสื่อด้วย
     
  2. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    อ้อ แล้วอย่างที่บอกค่ะว่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ใดเป็นเทพเป็นมารหรือมารในเทพขึ้นอยู่กับสัญญาเก่า ร่างทรงจึงมีหลายประเภท ทั้งดีทั้งไม่ดี รับแล้วมันทุกข์แน่ ร่างทุกคนรู้ๆกัน และหลายร่างเทพอาจารย์ไม่อยู่ด้วยแล้วถ้าร่างนั้นๆผิดคำสัญญาหรือทำผิดจุดประสงค์ที่ท่านมา คือเอาท่านไปทำมาหากินจนเกินเลยนั่นล่ะ
    โอเคถ้าใครบอกสิ่งศักดิ์ได้ช่วยคน ลงมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์เป็นกุศลกับเขา คือมันเหมือนดาบสองคม ในดีมีเสีย ในเสียมีดี แล้วแต่ใครจะมองมุมไหน ชอบแบบไหน หรือไม่ชอบแต่ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้สุดๆจริงๆต้องรับ ต้องดูอีกว่าเป็นอาจารย์ไหน
    เฮ้อ เคยเตือนเพื่อนคนหนึ่งอย่าไปรับเหมือนกัน แกมีรุ่นพี่คนหนึ่งชวนไปรับ ดิฉันพูดสั้นๆให้แกคิดโดยฝากเพื่อนอีกคนที่จะไปกับแก ไปเตือนว่า "ดูให้ดี ขันธ์ผีขันธ์ครู" ซึ่งครูในที่นี้ดิฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตัวเขา เวลาผ่านไปถึงรู้ว่าเขาตัดสินใจไม่ไป และฝากขอบคุณดิฉันผ่านมาทางเพื่อนอีกคนเพราะเรียนจบเราก็แยกย้ายกันไป ความจริงปรากฏต่อมาว่าบ้านเพื่อนรุ่นพี่คนนั้นเลี้ยงผีไว้เพียบ
    มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สื่อมาอยากให้เขียนเตือนสติเรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ไม่อยากเขียนค่ะ ไม่อยากยุ่งด้วย ยุ่งมากจิตมันเฟ้อ ที่ยอมตอบน้องying_pim เพราะเห็นว่าเคยคุยกันผ่านกระทู้นี้มาแล้ว อะไรเห็นที่รู้มาก็ว่ากันไป
     
  3. pk010209

    pk010209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    973
    ค่าพลัง:
    +2,634
    คุณโมกอธิบายเข้าใจง่ายดีค่ะ เราก็ไม่เห็นด้วยเรื่องรับขันธ์ มีพี่ทำงานคนนึงเค้าก็จะไปรับเหมือนกัน เค้าว่าเค้ามีองค์พระแม่กวนอิม ดูยังไงๆก็ไม่ใช่ เราก็เตือนเค้าไปแต่ไม่รู้ไปรับมารึเปล่า เพราะสถานที่เค้าไปไม่ใช่รับขันธ์ครูแน่นอน เรารู้สึกได้เพราะมันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องไปที่นั้นมาครั้งนึง ก็แล้วแต่กรรมของคนๆนั้น อย่างที่คุณโมกว่าละคะ
     
  4. โอ๊ตศ์

    โอ๊ตศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,107
    เราทุกคนก็มี ขัน(ธ์) กันแล้วคนละ 5 ใบ

    ^__________^

    แล้วแต่พิจารณา
     
  5. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    ดีคะคุณ โมก ธรรมะดีๆ ช่วยเตือนสติ ได้ดีจริงๆตุ๋ยชอบอ่านถ้ามีธรรมะดีๆ หรือประสพการณ์ดีๆ ก็เขียนมาเล่าใหม่นะคะ ตุ๋ยได้อ่านเรื่องที่คุณ อัคนีวาต ส่งมาก็ดีค่ะแต่รู้สึกว่าพระอินทร์ จะมัวไปสักหน่อย อันนี้ก็เป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมา ก็ว่ากันไป ตุ๋ยเคยสงสัยไปถามพระที่เป็นญาติ ที่ท่านปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ เรื่องเทวดามี รัก โลภ โกรธ หลง ก็จริงแต่อยู่ในขอบเขตของศิล จะต้องระวังตลอด ถ้าจิตหนักไปทางไหนก็จะตายทันทีเพราะเทวดมีกายทิพย์ที่ละเอียดกว่ามนุษย์ มนุษย์มีกายที่หยาบจึงคงทนรับสภาพต่างๆ ได้พวกเทวดจึงต้องคอยระวังตลอด ท่านจึงต้องพิจารณาว่าสิ่งที่ท่านทำลงไป จะคุ้มกับสภาพที่เป็นเทวดาของท่านหรือเปล่าเพราะท่านๆ ก็คงจะไม่อยากมาเกิดเป็นมนุษย์หรอกและสวรรค์ก็มีกฎหมายของสวรรค์เหมือนกัน อันนี้พระที่เป็นญาติอธิบายให้ฟัง ถ้าใครอยากรู้ก็ต้องไปพิสูจน์ เองให้เคลียไปเลยเนอะ แต่ตอนนี้ยังไม่เก่งที่จะพิสูจน์เองได้ตุ๋ยเป็นคนชอบสงสัยชอบพิสูจน์ จะอย่างไรก็ชั่งขอพิสูจน์ก่อนจริต มันชอบแบบนี้ผิดถูกบางก็ทำไป พระพุทธเจ้าอยู่ในใจอยู่แล้ว ก่อนจะรู้อะไรเราก็ต้องขอบารมีพระพุทธเจ้าเสียก่อน ก็แล้วแต่ท่านจะสงเคราะห์ พิสูจน์ไปพิสูจน์มาตกม้าตายก็ยกผลประโยชน์ให้กับตัวเองก็แล้วกัน
     
  6. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    อุส่าพิมพ์ เล่าความโง่ของตัวตุ๋ยให้คุณ ศิลามณี อ่านตั้งเยอะ พอจะส่งระบบขัดข้องหายหมด ก็คงต่อเริ่มพิมพ์ใหม่แต่ตอนนี้เอาที่อยู่วัดเซาะไพเราะให้ คูณ จิตอารีก่อนนะค่ะที่อยู่มีดังนี้คะ

    จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นท่างกรุงเทพฯ สระบุรี สระบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ถึงสามแยกพุแค
    เลี้ยวขวาผ่านช่องเขาขาด ไปทางเพชรบูรณ์ อ ชัยบาลดาล อ ศรีเทพ อ วิเชียรบุรี
    สังเกต ป้าย เทศบาลชับสมอทอด ทางขวามือ ให้เข้าถนนคู่ขนานด้านซ้ายมือมีปั้มน้ำมันเชลส์ จะมีแยกไฟแดงให้ เลี้ยวซ้าย เข้าซอย ซับสมอทอด วังพิกุล อ ไพศาลี เข้าซอยมาประมาณ 13 กม เลี้ยวซ้าย เข้าซอยวัดซับไม้แดงเก่า เลยวัดซับไม้แดงเก่ามาประมาณ 3 กม วัดซับไพเราะจะอยู่ซ้ายมือ วัดอยู่เชิงเขา สอบถามเส้นทางได้ เบอร์นี้คะ

    081-4226921 ก็ลองไปดูนะคะคุณจิตอารีเอาไว้ตุ๋ยกลับเมืองไทยช่วงเดือน ตุลาคม
    ตุ๋ยจะบอกอีกที่ในเวปนี้นะคะ
     
  7. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    หายเหนื่อยก็มาเล่ากันต่อคะ คุณศืลามณี ค่ะคุณพูดถูก ท่านเทพฯคงจะลำคาญทำไม่ดิฉันโง่อย่างนี้นะ ก็เลยดึงจิตไปคุยดว้ย ขนาดคุณอ่านก็ยังเข้าใจ ฉลาดก่ว่าตุ๋ยอีกนี่ไงสมาธิถึงไม่ไปถึงไหน พูดถึงความโง่ของตัวเอง ตุ๋ยก็มีเรื่องจะเล่าให้เพื่อนฟังเมื่อไม่นานมานี้ตุ๋ยไปบวชชีพรามที่วัดท่าชุง บ่ายวันนั้นตุ๋ยจะเริ่มฝึกสมาธิแบบมโนฯ ของวันแรกอาทิตย์นั้น ช่วงเช้ามืดของอาทิตย์ที่จะฝึก ตุ๋ยนอนจับอารมณ์สมาธิ ก็อยู่ในอารมณ์เคลิ้มไปเห็นท่านเทพฯมาหา แล้วเอากระดาษอะไรมาให้ก็ไม่รู้ แล้วพูดว่าวันนี้ตอนเที่ยงเกื่อบบ่ายเธอจะบรรลุธรรม พอตุ๋ยรู้สึกตัว ก็คิดว่าเราจะบรรลุธรรมอย่างไร หรือเราไปฝึกสมาธิแล้วจะบรรลุธรรมหว่า ก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ เพื่อนบอกว่าอยากจะไปไหว้หลวงพ่อเงินไหลมาเพราะครั้งที่แล้วไม่ได้มากราบ ตุ๋ยกับแม่และเพื่อนก็ไปกราบช่วงเที่ยงเกือบบ่ายพอดีพอกราบเสร็จก็มาที่รถพอสตาร์มันไม่ติด ตุ๋ยกับเพื่อนก็ งง ใหญ่เลยว่าอะไรกันเนี่ยเป็นไปได้อย่างไรรถยังใหม่อยู่เลย จะทำอย่างไรเนี่ย เขาจะฝึกสมาธิกันอยู่แล้ว ก็นึกถึงท่านเทพฯ ทำไมเป็นแบบนี้ พอสักพักก็มีผู้ชายมาช่วยเหลือ เช็ก แบตรี่เสื่อมผู้ชายคนนั้นก็ดีมากพาไปซื้อแบตรี่ใหม่ช่วยเหลือจนสำเร็จ แล้ววันนั้นตุ๋ยไม่ได้ฝึกสมาธิ แม่กับเพื่อนเขาไปฝึกกันตุ๋ยก็นั่งดื่มกาแฟรอนึกในใจ นี่หรือว่ะที่เราจะบรรลุธรรม สมาธิก็ไม่ได้ไปฝึกจะบรรลุธรรมได้อย่างไรพอแม่และเพื่อนออกมาก็เล่าเรื่องที่ท่านเทพฯบอกให้แม่และเพื่อนฟัง แล้วตุ๋ยก็บนกับแม่และเพื่อนว่า จะบรรลุธรรมได้อย่างไรสามธิก็ไม่ได้นั่ง แม่ก็เลยพูดว่าก็เองบรรลุทำรถไง โง่ไปได้ ตุ๋ยก็บอกจริงด้วยแม่ยังฉลาดกว่าตุ๋ยอีกเนอะ แม่และเพื่อนก็ขำตุ๋ยกันใหญ่ เล่าให้ฟังในความโง่ค่ะ
     
  8. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ต่ออีกนิดเรื่องขันธ์ ที่ว่ามานี้เน้นเรื่องรับขันธ์ของพวกมีองค์หรือญาณแฝงหรืออยากไปรับอะไรโดยไม่ดูให้ดีหรือเปิดญาณมั่ว ขันธ์ครูของพ่อแก่ตามงานไหว้ครูไม่เกี่ยว แล้วแต่อาจารย์เมตตาให้กันไป เพียงแต่อาจารย์ที่ดิฉันนับถือท่านจะไม่ทำให้ตามใจลูกศิษย์ต้องไต่ถามให้แน่ชัดเสียก่อน ซึ่งพวกที่มาจะเป็นคนในสายศิลปะและการแพทย์แผนไทยมารับมาครอบครูเพื่อเป็นศิริมงคล เพื่อความเจริญในหน้าที่การงานที่ว่า ถ้าไม่เกี่ยวอะไรกับสายงานนี้ท่านไม่ให้รับหรือครอบให้ ท่านว่าไม่รู้จะเอาไปทำไม มาในร่วมงานก็เป็นสิริมงคลดีแล้ว ส่วนขันที่ใช้เสร็จพิธีไหว้ครูก็แยกส่วนเก็บไป เงินในขันของอาจารย์ดิฉันไม่เกินสี่สิบบาท ท่านรวบรวมไว้พอถึงเวลาก็เอาไปทำบุญ
    เพื่อความเข้าใจเพิ่มเติม ต้องแยกแยะเรื่องเทวดาประจำตัวกับองค์บารมีให้ชัด เทวดาคุ้มตัวคนดีมีศีลมีธรรมหรือแม้ศีลไม่ครบแต่เป็นคนดีใช้ได้ก็มีทั้งนั้น ส่วนองค์บารมีเป็นมาจากสัญญาเก่าในอดีต ถ้าใครมีผูกพันกันมากับท่านจะด้วยรับปากรับคำอะไรกันมาหรือมาเกิดในชาตินี้เป็นมนุษย์ตามคำสั่งท่านให้ลงมาช่วยโลกมนุษย์ก็ว่ากันไป พวกนี้ถึงจะเรียกว่ามีองค์บารมีหรือเทพอาจารย์ เอาเป็นว่าคงพอเป็นที่เข้าใจกันแล้ว
     
  9. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    สำหรับพี่นันทิยาเรื่องที่มีองค์เยอะๆมาลงงานเดียวกัน คืองานบุญงานกุศลยิ่งเป็นงานบุญใหญ่ๆอย่างสร้างพระโดยเฉพาะพระองค์ใหญ่องค์สำคัญทางพระพุทธศาสนา,กฐินหรืองานเปิดสามโลก งานบุญใหญ่ที่มีการอัญเชิญเทวดามาร่วมงาน เรากล่าวเชิญท่านท่านก็ต้องมาค่ะ พวกที่มีญาณแฝงหรือเต็มตัวก็ต้องโดนลงไปตามระเบียบ
     
  10. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    เริ่มตั้งแต่ภาพหลวงตาตะปะสี ภาพรอยพญานาคที่อุโบสถ ในงานบุญที่วัด และแผนที่ไปวัดซับไพเราะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    สวัสดีคะ คุณโอ๊ตศ์ คุณจิตอารี..

    ขอบคุณ คุณโมกนะคะ ที่ฝากข้อคิดดีๆไว้ให้..

    คุณจิตอารี....ถ้าคิดถึงก็เข้ามาคุยกันบ่อยๆ ซี่..จะได้หายคิดถึงไง และ ขอบคุณนะคะ ที่คิดถึงคะ ศิลามณีก็คิดถึงคุณเหมือนกันละ โดยเฉพาะเวลาอ่านเรื่องของคุณนะ ที่คุณเล่าถึงประสพการณ์ที่ผ่านมา... ยังอ่านไม่จบ รอ แวบนะคะ ตามันลาย บวกกับสำนวนวัยรุ่นสุดๆเลย ;) ......

    คุณตุ๋ย บรรลุธรรม ที่คุณตุ๋ยเล่าศิลามณี ก็ยังไม่เข้าใจคะ แหะๆ โง่ด้วยคนนะคะ ... บรรลุธรรมจะไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องทำรถ หรือ ว่าเป็นคำผวน ไม่ทราบจริงๆคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2010
  12. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    คุณจิตอารีคะ ศิลามณี อ่านประสพการณ์ที่คุณเล่าจบแล้วนะ
    ......มาคะขอถามเลยละกัน...แล้วคุณจิตอารีมีโอกาสได้ไปหรือยัง......ไปกราบท่าน ที่จังหวัดลำพูนหรือยังคะ ถ้ายัง......สงกรานต์ปีหน้าลอง หาวันว่างไปเที่ยวลำพูนดูสิคะ

    แล้วอาการปวดหลังยังมีอยู่หรือเปล่าคะ ถ้ายังมีอยู่.....ศิลามณี ....ขออนุญาตแนะนำได้ไหม เอาฝักขมิ้นส้มป่อย ย่างกับไฟอ่อนๆ พอให้หอม แล้วใส่ลงในขันน้ำแล้วอาบ น่าจะหายนะคะ ........ยายเด็กดื้อ:p
     
  13. จิตอารี

    จิตอารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +223
    ไปมา แล้วว..2 ครั้งยังไปนั่ง มึน อยู่ ต่อหน้า ท่าน ตั้งนาน2 นาน ท่ามกลางแดด เปลี้ยงๆ จน เพื่อนต้อง มาลากให้เข้าไปในที่ล่มๆ เพื่อน บอกว่า นั่งไปได้
    ยังไง ตั้งนาน ร้อนจะตาย ชัก ##สงสัยต้องใช้ ส้มป่อย กับ ขมิ้น อย่างละ 10 โล แน่ เลย ถึงจะเอา อยู่ ขอบคุณค่ะ จาลองดู เจ้าค่ะ ว่าแต่ไปเอาสูตรมา
    จากไหน คะเนี่ยย...(ดื้อแต่ น่า ฮัก น่า ชัง นะ เจ้า):z2
     
  14. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    คุณโมกลูก ศิษย์ หลวงตาเหมือนกันเหรอ ชอบธรรมะคุณโมกจัง ตุ๋ยชอบทำบุญ นั่งสมาธิและสร้างพระร่วมกับเพื่อน เพื่อนที่ต่างประเทศเขาก็ชอบทำกันพอตุ๋ยกลับเมื่องไทยเพื่อนๆ
    เขาก็ฝากเงินมาทำบุญกัน มันเป็นความสุข ที่ได้ทำก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร ขอให้ได้ทำก็มีความสุขแล้ว คุณศิลามณี จะว่าแต่คุณไม่เข้าตุ๋ยก็ไม่เข้าใจต้องใช้ความคิดลึกๆ หน่อย คำว่าบรรลุทำ ก็คือว่ารถเรามันเสีย ก็ต้องเอาไปทำให้มันดีใช้ได้
    ไม่ใช้บรรลุธรรมในการนั่นสมาธิ ท่านเทพฯ เป็นอย่างนี้ชอบพูดเป็นในๆ ให้คิดอยู่เลื่อย
    มีครั้ง เมื่อต้นปีที่ไปคุยกับท่าน บ่อยๆ ท่านชวนไปอยู่กับท่าน หมายถึงเราหมดอายุขัยแล้ว
    ตุ๋ยก็ถามท่านว่า อ้าวถ้าดิฉันมาอยู่กับท่านบุญที่ดิฉันทำมาก็หายหมดละซิ ท่านก็บอกว่าไม่หายหรอก ยกกำลัง 2 ตุ๋ยก็ งง เอะไอ้ยกกำลัง 2 มันแปลว่าอะไร ก็เลยถามท่านแปลว่าอะไรยก กำลั 2 ท่านก็พูดว่า วิมาน บริวาน สมบัติ และอื่นๆจะเพิ่มเป็นสองเท่าตุ๋ยก็เลยเข้าใจ ก็ถามกับไปว่าที่ท่านต้องการให้มาอยู่ด้วย ก็เพราะสมบัติและสิ่งของพวกนี้ใช่ไหม
    ท่านก็พูดว่าท่านไม่ได้คิดแบบนั้นก็เธอถามเราก็อธิบายให้ฟัง ตุ๋ยก็เลยเข้าใจ ก็เลยขอโทษท่าน ท่านก็ยิ้มๆ (ชวนเทวดาทะเลาะเสียแล้วชิเรา) ก็นี่แหละเอามาเล่าให้คุณศิลามณีและเพื่อนฟัง คุณศิลามณีอ่านแล้วเข้าใจหรือยังละคำว่าบรรลุทำ
     
  15. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    คิกๆคักๆๆ คุณตุ๋ยนี่ เข้าใจละคะ บรรลุทำ ไม่ใช่บรรลุธรรม

    คุณจิตอารีคะ ขมิ้นส้มป่อยอย่างละ 10 กิโลใช้ได้เป็นปีๆๆๆเลยนะ เค้าให้ใช้ทีละฝักสองฝัก ย่างพอมีกลิ่นหอม หรือจะใส่น้ำอบไทยไปด้วยก็ได้

    สูตรได้มาจากไหนเหรอคะ จากครูบาอาจารย์นะสิ ท่านเคยบอกไว้ว่าถ้าปวดศรีษะ ปวดหลัง ปวดเอว ให้เอาน้ำขมิ้นส้มป่อยไหว้สา...เหมือนกับการล้างชำระกายทิพย์นะคะ

    เท่าที่ใช้ก็หายนะคะคุณจิตอารี แล้วอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ หรือ เดือนสองเดือนก็เป็นใหม่ ว่าแต่ไปลำพูนตั้ง 2 ครั้ง แล้วไปอธิฐานอะไรละคะ ทำไมถึงยังไม่หายมึนละคะ ทีหลังถามครูบาอาจารย์ด้วยสิก่อนจะไปนะคะ


    คุณจิตอารี นะ ศิลามณีขอต่อว่าหน่อยเถอะ เขียนภาษาไทยแบบผู้ใหญ่ได้ไหมคะ ไม่เอาเด็กๆนะ อ่านแล้วเวียนศรีษะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2010
  16. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    พระที่ปฏิบัติดี กินน้อย อยู่เจียม ปฏิบัติมาก พระที่สุปฏิปันโนนับถือทุกองค์ค่ะ
     
  17. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณโมกกับเพื่อนทุกๆ ท่านนะคะคุณโมกค่ะตุ๋ยสงสัยอยากจะถามคุณโมกว่า พวกผีทีตายไปแล้วแต่ยังไม่ครบอายุขัยท่านๆทั้งหลายเล่านี้สามารถไปสถิตกับสิ่งของได้ไหม มีเพื่อนตุ๋ยเขาทำสมาธิและสัมผัสได้ พวกตุ๊กตา หัวหุ้นทำผมมีพวกผีสถิตทั้งนั้นเขาก็จะมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ ตุ๋ยก็เลยสงสัยว่าสถิตแบบไหนเป็นพลังงานหรือเปล่าคุณโมกช่วยหน่อยนะคะรออ่านอยู่
     
  18. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ตอบพี่นันทิยา
    ได้ค่ะ อย่างพวกกุมารตุ๊กตาทองทั้งหลายก็เข้าข่ายนี้ เป็นดวงวิญญาณที่ตายก่อนอายุขัย เขาจับมาลงในรูปปั้นรูปหล่อ ให้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยการทำกุศลช่วยเหลือมนุษย์ แล้วตอนถ้ากุมารไหนพอมีวาสนาได้อยู่บ้านคนมีศีลมีธรรมปฏิบัติธรรมนับว่าโชคดีมาก ก็ดีกว่าที่เขาต้องไปเป็นผีร่อนเร่ แต่มีบางคนเอาไปใช้ผิดๆก็มี ขึ้นกับวิบากกรรมของดวงวิญญาณกุมารนั่นว่าจะเจอเจ้าของแบบไหน
    วิญญาณจะไปสถิตที่ใดมันต้องมีต้นสายปลายเหตุ ไม่ใช่หัวหุ่นทำผมจะมีวิญญาณร่ำไป กายหยาบของมนุษย์ในทุกส่วนทั้งผม เล็บ ฟัน ผิวหนัง กระดูกล้วนแต่เป็นสื่อวิญญาณทั้งสิ้นถ้าเจ้าของยังยึดมั่นถือมั่นห่วงในสังขารของตัว ดวงวิญญาณจะตามสังขารของตนเองมา
    มีเคสเกี่ยวกับผีๆเยอะพอสมควรทั้งมาให้เจอทั้งติดตามไปไล่ ไปเมืองนอกก็เจอ วิญญาณจะไปที่ใดต้องดูว่าจิตผูกพันกับที่ใด โดยเฉพาะจิตสุดท้ายก่อนตาย
    จิตสุดท้ายก่อนตายนี่สำคัญมาก ครูบาอาจารย์ท่านถึงพร่ำสอนให้ภาวนาเพื่อให้มีสติอยู่ตลอด เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเราจะตายเมื่อไหร่ถ้าภูมิธรรมของเราเจริญไม่ถึงขั้นนั้น
    เมื่อเรามีสติเราจะเลือกได้ค่ะว่าเราอยากไปที่ไหน ตอนที่ยังดีๆกันอยู่ก็ต้องหมั่นอธิษฐานค่ะว่าดวงจิตสุดท้ายในชาตินี้ปรารถนาจะไปที่ใดเมื่อละสังขารไปแล้ว อธิษฐานให้บ่อยทุกครั้งที่เราสวดมนต์หรือทำภาวนา เพราะสิ่งที่เราอธิษฐานจะถูกบันทึกในสัญญา บันทึกบ่อยเข้าติดหนึบ ก่อนเราตายสัญญาตรงนี้จะขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  19. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    สวัสดีคะ คุณอักษรพิฆาตคราวก่อนโน้น..... ศิลามณีเห็นคุณด้วยคะ เห็นตอนก่อนจะลืมตาตื่นตอนเช้า เป็นตัวอักษรวิ่งเรียบเป็นหน้ากระดาน เลยเอาจิตจับดู ตัวอักษรยิ่งชัดเจนมากขึ้น .... คุณส่งพลังจิตมาหรือเปล่าคะนี่:p
     
  20. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    อืมร์ ใช่คะเป็นตัวอักษร อ่านไม่รู้เรื่อง ...จิตสู่จิต เหมือนกันกับการรู้ด้วยจิตไหมคะ ช่วยอธิบายให้หน่อยได้ไหมคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...