เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

พระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ภาพนี้คุณชัยพล สินเจือเป็นผู้พิมพ์ถวายเมื่อครั้งเฉลิมพระเกรียติ ๗๒ พรรษามหาราชินี

ภาพนี้พระที่เฝ้าตู้วัตถุมงคลแจกให้มา

 

ภาพสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนี้เมื่อได้รับแจกมาแล้ว ทำให้ผมคิดได้ว่าในครั้งหน้าที่จะไปวัดศาลาดินอีกจะนำเหรียญพระนเรศวรรุ่นสู้ไปด้วย ตั้งใจไปให้หลวงพ่อท่านจารแล้วจะเอาไปเลี่ยมบูชาติดตัวไว้ วันนั้นไปกันสองคนกับทหารรุ่นน้องที่ทำงานที่ใต้เหมือนกัน ผมก็ส่งพานที่ใส่เหรียญสู้ของผมให้ท่านจาร ซึ่งในตามปกติแล้วการจารอักขระลงบนเหรียญท่านจะจารลงบนมุมบนซ้ายขวาและล่างซ้ายขวา แต่วันนั้นท่านจดๆจ้องๆอยู่นาน กว่าจะจารอักขระ นะ ชา ลิ ติ ลงตรงข้างพระกรรณซ้ายขวา ตามที่ผมขยายให้ดูนะครับ ด้านหลังท่านก็จารมุมบนซ้ายขวาเป็น นะ มะ และล่างซ้ายขวาเป็น พะ ทะ ตามปกติ

แต่ส่วนเหรียญของรุ่นน้องพอท่านหยิบจากพานขึ้นมาท่านก็พลิกด้านหลังขึ้นมาจารให้เฉพาะด้านหลังอย่างเดียว ทั้งนะ ชา ลิ ติ และ นะ มะ พะ ทะ เลย

อันนี้ที่ผมคิดเอาเองผมว่าหลวงพ่อท่านถึงพระองค์ท่านนะครับ

โดยเฉพาะด้านหลังเหรียญที่ จาร นะ มะ พะทะ เมื่อดูแล้วจำให้ดีนะครับอักขระชุดนี้ถือว่าท่านจารเห็นได้ชัดเจนกว่าภาพอื่นๆครับ<!-- attachments -->

 

อื้อฮือ เนื้อเงินซ่ะด้วย ผมมีวาสนาแค่เนื้อ ทองแดง....แหะๆ

 

เกร็ดเรื่องหลวงพ่อทรง
ผมยังมีรูปและเรื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อทรงอีกหลายรายการน่ะครับ เป็นของแจกฟรีซ่ะส่วนใหญ๋ แต่ผมก็ต้องทำงาน ทำมาหากินด้วยน่ะครับ เลยบางทีไม่ค่อยว่าง ของที่แจกฟรีมาน่ะ บางรายการดีมาก ฟลุกๆ ไปเจอเข้าล่ะ โดดเข้าใส่ได้เลยล่ะครับ วันนี้เวลามีน้อยผมขอขั่นด้วยเรื่องเบาๆของหลวงพ่อทรง ผมจะแซมเข้ามาเรื่อยๆ ให้พวกท่านมองเห็นภาพหลวงพ่อทรง ตามที่ผมสามารถจะกระทำได้

คราวหนึ่งผมไปวัดมอญตามปกติ พอจอดรถ ขณะเดินขึ้นบันได ก็เห็นเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งกำมือแน่ เดินลงบันไดมาสวนกับผม ที่พึ่งมาถึง ผมแกล้งทำเสียงดุๆ จิกสายตาหน่อย แล้วถามว่า "เอาอะไรมานั่น " เด็กมันตกใจรีบบอกว่ามาขอพระหลวงตา แล้วแบบมือให้ดู เป็นพระนักธรรมน่ะแหละ เหตุการณ์แบบเดียวกันเกิดที่บ้านหลานท่าน ต่างเวลา ต่างเหตุการณ์ ตอนผมไปหาท่าน ท่านก็กำลังนอนพักผ่อนอยู่ เด็กๆก็มาขอพระท่าน เดินออกมาจากห้อง ผมก็แกล้งจิกสายตา ขู่ๆไปอย่างนั้นเพราะอยากรู้ เด็กมันแบบมือให้ดู ก็พระนักธรรมอีก แสดงว่าพระนักธรรมนี่เป็นขวัญใจเด็กๆ และหลวงพ่อก็ชอบแจกเด็กอีกด้วย

มีน้องจากเมืองตากแกเขียนมาขอพระนักธรรมผม ผมส่งไปให้ พอได้แกรีบโทรมาว่า คุณพีพระที่ให้ผมน่ะ พอเลี่ยมเสร็จ เพื่อนที่โรงเรียนมันรู้ว่าเป็นพระนักธรรมของหลวงพ่อทรง มันมาขอกันใหญ่ เอาวางบนหัวแล้วขอให้สอบได้ ผมเป็นเจ้าของยังไม่ได้ขอเลยครับ ผมฟังแล้วได้แต่ขำ เออมันคงอยากได้ของมันมากน่ะ

มีอยู่คราวมีคนเหมามอเตอร์ไซด์มาจากวิเศษฯ และคนขับน่ะตามมานั่งอยู่ด้วย แบบแจมเองว่าอยากได้ตะกรุดมหาจักร ด้วยสำเนียงซื่อๆ แต่ดอกล่ะ เก้าร้อยบาท

 

ขออนุญาต เอารูปพร้อมอักขระ ที่พระคุณหลวงปู่ เมตตาจาร

มาให้ชมกันครับ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""'
ได้อ่านเรื่องของพี่พีแล้ว นึกขึ้นได้ครับ
มีคราวนึง ที่ผมไปกราบหลวงปู่ที่วัด จำได้ว่าไปกับคณะวัดเขาแร่ จ.สุโขทัย
มีชาวบ้านไปด้วย แกก็คงมีตังค์มาไม่มาก แต่อยากได้ตระกรุดของหลวงปู่ แกก็เข้าไปบอกหลวงปุ่ตรง ๆ เลยว่า
ไม่มีปัจจัยพอบูชา หลวงปู่ท่านก็เมตตาหยิบตระกรุด ราคา ๕๐๐ ๖๐๐ ให้ไปเลยครับ สองคนให้ไปคนละดอก

แกดีใจกันมาก อวดกันใหญ่ ไอเราก็ไม่มีปัจจัยบูชาเหมือนกันแต่เกรงใจหลวงปู่(แอบ..อิจฉา เล็กน้อย)

 

ขอเล่าเสริมจากคุณลุงพี(ขออนุญาติเรียกลุงน่ะครับ ถ้าไม่ถือ)

ติดตามอ่านกระทู้คุณลุงพีข้างต้น ที่ว่ามีคนถามหลวงปู่ว่าตระกรุดทำยากหรือป่าวแล้วท่านบอกว่าไม่ คงไม่แปลกอะไร เพราะตอนที่ผมเคยไปหาหลวงปู่ แล้วตอนนั้นข้างท่านมีตะกรุดมหาจักรวางใส่พานมากอยู่พอสมควร แถมถาดข้างๆก็เป็นเบี้ยที่กำลังจะทำก็เลยถามท่านว่าหลวงปู่ครับเบี้ยกับตระกรุดนี่ทำยากหรือป่าวครับ ท่านก็ตอบมาว่าไม่ยากหรอกถ้ามีของครบก็ทำได้ สารภาพตามตรงครับตอนไปก็อยากได้อยู่มาก ปัจจัยก็น้อยเพราะยังเรียนอยู่ ก็คงเหมือนพี่มิ่งเมืองกระทู้ข้างบนจะขอท่านก็เกรงใจ อีกอย่างเห็นมีอยู่มาก็เลยคิดว่าค่อยๆลอมเงินมาเอาทีหลังละกัน ตอนหลังไปกลับไม่มีเลยครับ หลวงพี่ที่วัดบอกหมดแล้ว แถมจะตามเก็บตอนนี้ก็หายากเหลือเกิน แถมราคาก็ไปไกลยากกับการที่เด็กมหาลัยจะออมเงินเก็บจิงๆครับ แต่ยังไงก็จะพยายามหามาให้จงได้ ขอบคุณครับ

 

ดีมากครับ ความเกรงใจเป็นคุณสมบัติของผู้ดีครับ ให้รักษาคุณสมบัตินี้ไว้ จะเป็นชายชาตรีที่ท่องไปได้ทั่วทุกแดน เพราะจะเป็นที่รักของมนุษย์ และ เทวดา ดีกว่ามีวัตถุติดตัวซ่ะอีกครับ

 

อันนี้ลุงของแจมด้วย...แหะๆ

ความเกรงใจเป็นของดีครับ ดีกว่าแขวนสมเด็จวัดระฆังแต่นิสัยกักขละหยาบคายอีกเชื่อผมเถอะ

มีอยู่คราวผมไปหาหลวงพ่อตามปกติ เป็นเวลาบ่ายๆ ต้นๆ ตอนนั้นหลวงพ่อยังรับแขกอยู่ข้างใน ท่านนอนหลับอยู่พอดี โปรดทราบว่าการนอนของหลวงพ่อ ไม่มีพิธีรีตรองมาก นอนตรงที่รับแขกน่ะแหละ นอนไขว่ห้างซ่ะด้วย กำลังหลับสบายอยู่ ที่นอนนี้รับแขกตรงนั้น ฉันตรงนั้น นอนตรงนั้น ปัดๆหน่อย มีอาสนะ ปูหน่อยเดียวนอนได้สบาย หมา แมวที่วัดก็เดินถากท่านไป ถากท่านมา บางทีแมวมานอนด้วยก็มี จัดว่าเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก หรือมีขั้นตอนเยอะ อันนี้ขนาดว่าท่านเป็นพระที่อาวุโสสูงสุด ท่านหนึ่งของจังหวัดอ่างทอง

ผมกราบท่านเสร็จ ก็เดินเลี่ยงไปห้องน้ำ กะว่าจะให้ท่านหลับให้สบายสักอีกชั่วโมง ส่วนผม ก็จะไปช่วยพระสวัดดิ์ท่านปั้มพระ หรือคุยกับหลวงพี่วิโรจน์ตามเรื่อง

เผอิญว่าตอนมาถึง มีลุงคนหนึ่ง ลักษณะเป็นคนต่างจังหวัด ผู้ใหญ่แล้ว ขับรถกะบะ มาถึงพร้อมผมพอดี พอมาเจอหลวงพ่อนอนอยู่ หลังผมกราบท่านแล้วผมก็บอกคุณลุงว่า ให้หลวงพ่อหลับซักแปปเถอะ อย่าพึ่งไปปลุกท่านเลย หลวงพ่อท่านเหนื่อยมาก คุณลุงแกก็รับปาก เออ

แต่พอผมออกมาจากห้องน้ำ เห็นหลวงพ่อท่านลุกมานั่งคุยอยู่กับแกแล้ว ผมเลยเข้าไปแจม ท่านก็ทักว่ามาแล้วเหรอ ผมก็ตอบว่าครับ เห็นหลวงพ่อหลับอยู่ หลวงพ่อตื่นพอดี

คุณลุงที่นั่งอยู่ก่อนก็บอกว่า ไม่ได้ตื่นหรอก ผมปลุกเองน่ะแหละ ( บอกตามตรงตอนนั้นผมฟังแล้ว ผมปิ้ด ฉุนกึกเลย ด้วยกิเลสส่วนตน ) เลยถามแกว่าอ้าวตกลงกันแล้วว่าจะให้หลวงพ่อหลับซ่ะหน่อย แกไม่ตอบยิ้มๆ แบบไม่มีอะไร แต่ทานโทษน่ะ ผมน่ะอยากจะหยิกซักหน่อย โตเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่มีมารยาท ไม่มีความเกรงใจผู้อาวุโสตามสมบัติของผู้ดี ญาติผู้ใหญ่ของท่านคงไม่ได้สั่งสอนมาให้รู้ถูกต้อง กลับทำตัวให้เด็กรุ่นหลังแบบผมมาดูถูกอีก

ผมหันไปมองหลวงพ่อ เห็นท่านยิ้มๆ ไม่มีทีท่าหงุดหงิดใดๆ ถ้าเป็นผมหลับกำลังสบายๆ แล้วมีคนมาปลุก ( ผมมีคนปลุกบ่อย ทั้ง ดึกดื่นเที่ยงคืน ทุก ๒๔ ชั่วโมง ตามหน้าที่ เป็นมาหลายสิบปีแล้วเขามีปัญหาโทรปลุกได้ทันที แต่ถ้าคนปลุกไม่มีเหตุอันควร อาจจะหงุดหงิดได้ ตามภาษาปุธุชน ) คงต้องคุยกันหน่อย แต่หลวงพ่อกลับลุกขึ้นมาแบบสติแจ่มใส มาสงเคราะห์พูดคุยกับเขาซ่ะอีก

ตกลงอีตาลุงแค่มานิมนต์หลวงพ่อไปฉัน แค่นั้นแล้วก็ลากลับ มีธุระแค่นี้จริงๆ บอกฝากพระก็ได้ สมุดนัดก็มี ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร จะรออีกสักครึ่งชั่วโมงหรือ ชั่วโมงก็ไม่สามารถรอได้ ต้องรีบปลุกท่านพระผู้เฒ่าขึ้นมารับใช้ สนองกิเลสตัวเอง แล้วก็ไป แกคงไม่รู้ว่า วันนี้แกทำอะไรไปบ้าง สมมุติ ถ้าหลวงพ่อเกิดเป็นพระอริยะบุคคลขึ้นมา แกจะซวยกว่าที่แกทำหลายหมื่น หลายแสนเท่า และกรรมนี้จะติดตัวไปอีกหลายชาติ

หลวงพ่อซ่ะอีก ยิ้มแย้มดี คุยกับผมต่อไป ผมยังกราบเรียนท่านว่า หลวงพ่อนอนต่ออีกหน่อย ผมจะให้นายหมีนวดให้ ท่านยิ้มๆ พยักหน้า เอนกายกายลงนอนต่อ แล้วกลิ้งขวดยาหม่องให้ นายหมี บอกทาขาให้ด้วย

หลวงพ่อท่านเจอคนประเภทนี้เยอะ ตอนปลายชีวิตของท่าน อายุของท่าน เลยไม่ยืนยาว ไม่งั้นถ้าถนอมท่านดีๆ ท่านจะอยู่ให้เรากราบไหว้อีกหลายปี ไม่ใช่มาไหว้ศพท่านแทน

มีคนมา " ใช้ " ท่านเยอะ แบบไม่เกรงใจ จะเอาโน่นเอานี่ แค่จะให้ท่านฉันเมื่อถึงเวลา ก็ไม่คิด พระที่รับใช้หลวงพ่อ บางทีมองตาปริบๆ ไม่กล้าพูดอะไร อันนี้ผมไม่ได้หมายถึง ญาติโยมทั่วไปที่ มีปัญหาแล้วมาขอบารมีท่านเป็นที่พึ่ง แต่จะมีคนอยู่ไม่กี่คนที่แจมเข้ามา แล้วมีความเห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง ลืมมองรอบข้างว่า คนเราต้องอยู่ร่วมกัน อลุ่มอะล่วยกัน เพราะมีเหนื่อยมีหิวเหมือนกัน หลวงพ่อท่านแก่แล้วไม่ใช่ซุปเปอร์แมน แต่แก่มาก แล้วป่วยเป็นมะเร็งด้วยครับ

ผมเคยกราบเรียนท่านถึงเวลารับแขก ไม่ได้เวลาหลวงพ่อนิมนต์นอนข้างใน ติดแอร์ นอนให้สบาย ถึงเวลาค่อยออกมา ท่านฟังเฉยๆ ไม่รับ หรือ ปฏิเสธ แต่ท่านอยากโปรดเขา ใครเอาอะไรมาให้เสก ท่านเสกให้ ใครมานิมนต์ ไกลถึงเชียงใหม่ ท่านก็ไป ไปแทบทั่วประเทศ ใครมานิมนต์ไปไหน ท่านก็ไป ใครจะบวชก็จะเอาท่านเป็นพระอุปปัฌาย์ บวชทีพรรษาหนึ่ง สามสี่ร้อยรูป เครื่องบวชกองอยู่เต็มหอสวดมนต์และในโบถส์ ใครมีปัญหาก็โทรมามือถือท่านได้ เบอร์ไม่หวง จดหลาอยู่ที่กระดาน ถามพระก็ได้ อยู่ที่ว่าเกรงใจท่านหรือปล่าว ถ้าโทรมา แต่ก็มีคนโทรมาบ่อยๆ ท่านก็รับพูดคุยแจ่มใสดี คนไกลบางคนไม่สดวกมาหาหลวงพ่อได้สดวก แค่ได้ยินเสียงหลวงพ่อ เขาคงสบายใจขึ้นเยอะ

ผมร่ายมายาว อยากจะพูดว่าแปลกใจ ที่ของๆท่านหายาก มันก็จริงซ่ะด้วย บางอย่างหายากมาก คนมีไม่ยอมออกตัวแล้ว ต่างคนต่างเก็บเงียบ ยิ่งเบี้ยนี่ มีน้องในเว็บบอกว่า แม้ตำรวจที่อ่างทองก็หา แต่หาไม่ได้ ผมเป็นงง (ผมก็ว่าจริง หาเบี้ยหลวงพ่อคำ หลวงพ่อนุ่ม ยังง่ายกว่าอีก ) คนที่มีปกติก็แค่มีคนล่ะตัว ตะกรุดก็หายาก แต่ยังพอมี อันนี้ไม่ทราบจะว่าอย่างไร ตัวใครตัวมันแล้วกันครับ...แหะๆ

 

<TABLE class=tborder id=post1336258 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">07-07-2008, 08:59 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#490 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พี เสาวภา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1336258", true); </SCRIPT>
สมาชิก


<IF condition="">
</IF>





</TD><TD class=alt1 id=td_post_1336258 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ผาแดง
ภาพสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนี้เมื่อได้รับแจกมาแล้ว ทำให้ผมคิดได้ว่าในครั้งหน้าที่จะไปวัดศาลาดินอีกจะนำเหรียญพระนเรศวรรุ่นสู้ไปด้วย ตั้งใจไปให้หลวงพ่อท่านจารแล้วจะเอาไปเลี่ยมบูชาติดตัวไว้ วันนั้นไปกันสองคนกับทหารรุ่นน้องที่ทำงานที่ใต้เหมือนกัน ผมก็ส่งพานที่ใส่เหรียญสู้ของผมให้ท่านจาร ซึ่งในตามปกติแล้วการจารอักขระลงบนเหรียญท่านจะจารลงบนมุมบนซ้ายขวาและล่างซ้ายขวา แต่วันนั้นท่านจดๆจ้องๆอยู่นาน กว่าจะจารอักขระ นะ ชา ลิ ติ ลงตรงข้างพระกรรณซ้ายขวา ตามที่ผมขยายให้ดูนะครับ ด้านหลังท่านก็จารมุมบนซ้ายขวาเป็น นะ มะ และล่างซ้ายขวาเป็น พะ ทะ ตามปกติ

แต่ส่วนเหรียญของรุ่นน้องพอท่านหยิบจากพานขึ้นมาท่านก็พลิกด้านหลังขึ้นมาจารให้เฉพาะด้านหลังอย่างเดียว ทั้งนะ ชา ลิ ติ และ นะ มะ พะ ทะ เลย

อันนี้ที่ผมคิดเอาเองผมว่าหลวงพ่อท่านถึงพระองค์ท่านนะครับ

โดยเฉพาะด้านหลังเหรียญที่ จาร นะ มะ พะทะ ให้ดูแล้วจำให้ดีนะครับอักขระชุดนี้ถือว่าท่านจารเห็นได้ชัดเจนกว่าภาพอื่นๆครับ<!-- attachments -->



</TD></TR></TBODY></TABLE>

อื้อฮือ เนื้อเงินซ่ะด้วย ผมมีวาสนาแค่เนื้อ ทองแดง....แหะๆ

สวัสดีครับพี่พี
เนื้อเงินเหรียญนี้ผมหาเอาช่วงหลังแล้วครับ เพราะตอนที่สร้างเหรียญสู้นี้ บอกว่าจะแจกทหาร-ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่3 จชต.ผมก็รอแจก(กะว่าทองแดงก็เอา) รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ หน่วยผมก็ไม่ได้รับแจก จนต้องหาเช่ากันเอง ตอนที่เช่านั้น ทองแดง 200 เงิน 1700 แล้วครับพี่


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อักขระในรูป เป็นอักขระ ที่เห็นประจำ ท่านจะใช้ประจำ คือ นะ ชา ลี ติ และ มะ อะ อุ

ลายมือท่านก็แบบนี้แหละ จำได้ ก็ใช่ ไปจารบนอะไรก็ใช่แน่ ว่าผ่านมือหลวงพ่อมาครับ

ขอบคุณที่นำมาโชว์

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ

 

คุณพีครับขออนุญาตนำรอยจารของหลวงปู่มาร่วมเผยแพร่ด้วยครับ

 

พี เสาวภา

" ตกลงอีตาลุงแค่มานิมนต์หลวงพ่อไปฉัน แค่นั้นแล้วก็ลากลับ มีธุระแค่นี้จริงๆ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร จะรออีกสักครึ่งชั่วโมงหรือ ชั่วโมงก็ไม่สามารถรอได้ ต้องรีบปลุกท่านพระผู้เต่าขึ้นมารับใช้ สนองกิเลสตัวเอง แล้วก็ไป แกคงไม่รู้ว่า วันนี้แกทำอะไรไปบ้าง ถ้าหลวงพ่อเกิดเป็นพระอริยะบุคคลขึ้นมา แกจะซวยกว่าที่แกทำหลายหมื่น หลายแสนเท่า และกรรมจะติดตัวไปอีกหลายชาติ "

พี่พีครับ

อันว่าความเกรงใจนี้ บางทีก็เป็นเรื่องของสามัญสำนึกเหมือนกันนะครับ หลวงพ่อทรง ท่านมากทั้งอายุ มากทั้งพรรษา มากทั้งวิชา ท่านต้องมานะพากเพียรปฏิบัติสักเพียงไร กว่าจะเป็นที่ยอมรับนับถือของญาติโยมนับหมื่นนับแสนได้อาศัยพึ่งพาบารมีท่าน แบบเท่าทุกวันนี้

เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่กว่าจะเติบโตย่อมใช้เวลาหลายสิบปีเพียงเพื่อจะให้คนหลายคน สัตว์หลายชนิด เข้ามาพึ่งพาร่มเงาหลบร้อน อาศัยกินผลไม้ หรืออาศัยทำมาหากินอยู่ใต้ไม้ใหญ่ต้นนี้ แต่คนบางคนหรือสัตว์บางอย่างได้อาศัยต้นไม้แล้วก็ยังเบียดเบียนต้นไม้ ตัดกิ่งไปขาย สัตว์กินแล้วยังขี้รดใส่ซะอีก แต่ต้นไม้ก็ยังคงเป็นที่พึ่งพากับคนและสัตว์ทั่วไป

เหมือนหลวงพ่อท่านก็สงเคราะห์ญาติโยมทั่วไปแบบไม่เลือกหน้า ข้อนี้ผมว่าท่านคงทราบล่วงหน้าแล้วนะครับ ว่านี้อาจเป็นการสงเคราะห์ญาติโยมครั้งสุดท้ายของท่านเพราะว่าในช่วงเวลาประมาณ 3 ปี (ปี 47-50 ) ท่านถึงยอมเปิดตัวให้นิตยสารแนวพระเครื่องนำเอาประวัติของท่านไปเผยแพร่ให้ญาติโยมทั่วประเทศได้รู้จักท่าน ทั้งที่ว่ากันตามจริงแล้ว แค่สงเคราะห์ญาติโยมใน จ.อ่างทองและข้างเคียงท่านก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อนอยู่แล้ว

 

ถ้าคำว่าพระอริยบุคคลที่พี่พีกล่าวถึงคือท่านที่ปฏิบัติตนสะสมบารมีมาจนถึงขั้น " อนาคตังสญาณ " คือรู้เหตุการณ์ต่อไปในอนาคตของ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ได้โดยไม่จำกัดกาลเวลา ที่เป็นหนึ่งใน ญาณทั้ง แปด ผมว่าท่านใช่นะครับ หรือท่านจะได้ญาณขั้นอื่นด้วยก็ไม่อาจทราบได้

ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนี้

เพราะว่าประสบการณ์ที่เกี่ยวกับหลวงพ่อทรง นั้นถ้าจะแยกกันให้เป็นประเภทแล้ว คงแบ่งได้สองประเภทคือ

1.ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก

2.ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับหลวงพ่อทรงเอง

อย่างประสบการณ์ที่เกี่ยวกับวัตถุมงคลหลวงพ่อทรงก็อาจเป็นเรื่องอธิฐานขอให้ท่านช่วยในเรื่องต่างๆ ที่เราขัดข้องอยู่ แต่ที่เรื่องนั้นๆสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีก็เพราะหลวงพ่อท่านทราบใช่หรือไม่ แม้ว่าผู้บอกกล่าวกับวัตถุมงคลของท่านจะอยู่ในสถานที่ ที่ห่างไกลจากหลวงพ่อทรง ท่านก็สงเคราะห์ผู้ที่เดือดร้อนให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี

หรือกับองค์หลวงพ่อทรงเอง กับเรื่องราวที่ว่าขับรถไปหาหลวงพ่อทรง แล้วหลวงพ่อท่านคอยอยู่ทั้งที่ท่านก็มีกิจนิมนต์อื่นและผู้นิมนต์ไว้ก็มารอรับอยู่แล้ว เมื่อไปถึงหลวงพ่อท่านก็สงเคราะห์ให้ แล้วท่านก็ไปกิจนิมนต์ของท่านต่อไป ซึ่งประสบการณ์นี้ก็เคยเกิดขึ้นกับผมเองด้วย

ส่วนอันเรื่องของกรรมนั้น สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ครับ

ข้อเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมคนเดียว นะครับ

 

<TABLE class=tborder id=post1340691 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:22 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#499 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เมืองสมุทร<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1340691", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 12:24 PM
วันที่สมัคร: May 2008
ข้อความ: 5
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 298
ได้รับอนุโมทนา 40 ครั้ง ใน 4 โพส
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 0



</TD><TD class=alt1 id=td_post_1340691 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->คุณพีครับขออนุญาตนำรอยจารของหลวงปู่มาร่วมเผยแพร่ด้วยครับ
<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

คุณเมืองสมุทรครับ

พอจะมีประวัติของพระสมเด็จเนื้อตะกั่วสักเล็กน้อยไหมครับ เป็นวิทยาทานครับ

ขอบคุณครับ

 

ตอบแทนเลย เพราะทันเห็นและมีอยู่องค์เหมือนกัน ใต้ฐานรูปหล่อ ห้านิ้ว

เป็นของศูนย์ครับ จะเห็นว่ามีโค้ดว่าต่ออายุ ตอกอยู๋เป็นโค้ดเดียวกับที่ตอกหลังเหรียญเศรษฐีเนื่อเงิน

ตอนผมบูชาพระเนื้อตะกั่วมา ตอนนั้นเป็นพระเพชรหลีก เพชรกลับ เห็นบอกว่าเป็นเนื้อ ของตะกรุด มหาจักร เลยสนใจ พระลำปาง ( ตอนนั้น ) ก็บอกผมว่าได้สองต่อน่ะ เป็นเนื้อของตะกรุดมหาจักร งั้นเอาก็เอา

แต่พอต่อมาหลายปี หลวงพี่ที่วัด ตัวจริง คุยกันเรื่องนี้ ท่านบอกไม่ใช่หรอกโยม เนื้อตะกรุดน่ะ ศูนย์เขาทำมา ....อ้าว .....แหะๆ แต่ช่างมันเหอะ หลวงพ่อจารให้แล้ว

พระสมเด็จนี่ก็เหมือนกันครับ สังเกตุให้ดี จะเหมือนพระเนื้อผงสมเด็จพิมพ์หนึ่ง พระเพชรหลีกก็เหมือนกัน เขาคงทำโดยหล่อตะกั่ว หยอดลงบนพิมพ์เหล็ก ต้นแบบพระผงน่ะครับหลังจากใช้พิมพ์พระผงแล้ว แล้วทำมากี่องค์ไม่ทราบครับ สมเด็จคงน้อยหน่อย เพราะเปลืองตะกั่ว

แต่หลวงพ่อจารมาให้แล้ว ก็ดีเหมือนกันน่ะครับ

 

คุณพีครับถ้าใต้รูปหล่อขนาดบูชาของคุณพีมีสมเด็จตะกั่วแบบนี้อยู่ด้วย แสดงว่ารูปหล่อบูชาของคุณพีเป็นเนื้อนวโลหะที่สร้างแค่ 16 องค์ครับเพราะสมเด็จตะกั่วนี้เป็นของศูนย์นะครับสร้างโดยใช้แม่พิมพ์ของสมเด็จหลังยันต์จินดามณีซึ่งเป็นสมเด็จเนื้อผงที่ศูนย์สร้างเหมือนกันครับ สร้างแค่ 216 องค์ ( เขาว่านะครับ ) แบ่งมาฝังใต้ฐานพระนวโลหะ 16 องค์เหลือให้บูชา 200 องค์ แล้วส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสวยครับเพราะเทติดไม่ค่อยเต็ม บางองค์หนามาก บางองค์บางไม่เท่ากันครับ เท่าที่เห็นองค์หนาๆ บางทีเอามาตอกโค๊ตเป็นสิบตัวเลยครับ เป็นโค๊ตเดียวกันแต่ตอกหลายๆ ครั้งครับ พระบูชาที่เป็นเนื้อโลหะรมดำธรรมดา จะไม่มีพระเนื้อตะกั่วนี้ฝังอยู่ครับ พระสมเด็จเนื้อตะกั่วนี้พอเขาประกาศให้บูชาผมก็ไปที่วัด เห็นเหลือนิดหน่อยครับเลยเลือกแบบที่ดูสวยกว่าเขาหน่อย แล้วมาให้หลวงปู่ท่านจารให้ครับ พอไปคร้งหลังจากนั้นก็ไม่เห็นมีแล้วครับ หรือผมดูไม่เห็นก็ไม่รู้ครับ พระบูชาเนื้อนวโลหะรุ่นนี้น่าจะมีตอกหมายเลขประจำองค์ทุกองค์นะครับ ผมเองก็ไม่เคยเห็นใกล้ชิดเพราะ เคยถามคนที่มีเขาเปิดราคามา หย่อนครึ่งแสนไปสิบพัน ผมเลยได้แต่แอบมองห่างๆ ครับ เหอๆๆๆ

 

รูปหล่อ ห้านิ้ว ศูนย์สร้าง

เหอๆ เจอแฟนพันธ์แท้ จะมากั้กๆ มั่วๆ ม่ายด้าย อายเขา

งั้นต้องมาดูของจริงกันไปเลย จากรูป รูปหล่อ ๕ นิ้ว นวะ ๑ ใน ๑๖ องค์ เดิมๆ ไม่กล้าล้าง กล้าเช็ด จากมือหลวงพ่อ ก็ตรงไปโต้ะบูชา วันนี้ยกมาให้แฟนพันธ์แท้ดู จ้า ส่องทั่วแล้ว ไม่มีเบอร์ตอกครับ


จากรูป ท่านจาร นะโมพุทธายะ ที่สังฆาฏิ


ที่ฐาน มีสมเด็จ เนื่อตะกั่ว ตามที่แฟนพันธ์แท้ว่า อย่างอื่นดูเอาเองน่ะครับ


ที่ฐานองค์ ๕ นิ้วธรรมดา จะไม่มีสมเด็จเนื้อตะกั่ว แต่มีเหรียญเต่ารุ่นแรก และอย่างอื่นน่ะครับ

อันนี้ถ้าต้องการดูกันละเอียด ค่อยมาเจาะกันอีกครั้งก็แล้วกันครับ เพราะรุ่นนี้ ไม่เห็นมีท่าทีเสริมออกมา ถ้ามีเสริม คงออกมานานแล้ว เพราะเหมือนหลวงพ่อมาก เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ครับ

 

สิวลีหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน


ขออนุญาติพี่พีนะครับลงแจมด้วยหน่อยคงไม่ว่านะครับ
พอจะมีแบ่งให้บูชาหลายอย่าง ทั้งพระเครื่องสายอ่างทองทุกอาจารย์และวัตถุมงคลของหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน โดยเฉพาะพระผงรูปเหมือน พระนักธรรมวัดสร้าง สิวลีห้ามจน พระเหล่านี้หลวงทรงท่านล้วนแต่ตั้งใจทำโดยท่านได้เด็ดและเก็บรวบรวมดอกไม้ที่ชาวบ้านถวายเวลาไปฉันที่ต่างๆมารวมรวมไว้ด้วยตัวของหลวงพ่อเองและยังโรยผงวิเศษของท่านที่ทำไว้ผสมลงไปทุกครั้ง มีแบ่งให้บูชาไม่มากนักเก็บไว้2-3ปีแล้วครับ พระทุกองค์รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ

 

สิวลีหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน

สนใจพระเครื่องสายอ่างทอง ติดต่อได้ที่ 083-6139417