เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    สมเด็จพลิกแผ่นดิน ศูนย์สร้างครับ คุณให้หลวงพ่อเสก มา ๔-๕ ครั้งแล้วไม่ต้องไปเขว๋แล้วครับ ของดี

    พระสิวลีแบบที่เล่า เขาขอพิมพ์กลับไป แต่ฝังตะกรุด ผมเข้าใจว่า ออกที่วัดครับ มีรูปให้ดุไหม

    พระสมเด็จฝังสิงห์งาแกะผมไม่มีครับ
     
  3. Maha Jakkraput sutta

    Maha Jakkraput sutta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +915
    ขอบคุณน้าพี

    ขอบคุณน้าพีครับที่ให้ความรู้ครับ
    ผมพยายามจะส่งรูปให้ดูครับผม
     
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    PICT2643.JPG PICT2644.JPG PICT2645.JPG
    พิมพ์ แหวกม่าน และ โพธิ์เก้าใบ พิมพ์พิเศษ สองหลวงพ่อ

    ผมขอออกตัวไว้นิดก่อนน่ะครับ ว่าผมเก็บวัตถุมงคลด้วยความชอบและเชื่อ ของๆหลวงพ่อทรงที่มีก็เก็บไว้แบบ เป็นตัวอย่าง แบบเจอถาดหนึ่งแปลกๆ ผมก็จะเก็บมาบ้าง เพื่อเป็นตัวอย่างเอาไว้ส่อง กันตกข่าว และเมื่อส่องก็ส่องด้วยความมันส์

    ผมไม่ได้มีพระหลวงพ่อมากแบบที่พวกคุณคิดหรอกครับ ที่มีอยู่ ถ้าแจกออกหรือขายไป ก็หมดตัวอย่าง เอาไว้เมื่อผมปลดเกษียณ เลิกทำงาน ชีวิตผมถ้าไม่รีบไปซ่ะก่อน ก็จะมีเหลืออยู่สามที่ครับที่จะไปในตอนนั้น คือ วัด สนามกอล์ฟ และสนามพระ และถ้าลูกมันไม่เอา ในตอนนั้น ผมอาจจะ แลก ขาย เปลี่ยน ออกไป เพราะตายไปแล้วคงไม่มีใครสนใจ แต่เวลานั้นยังมาไม่ถึง อีกนานพอสมควร เอาถึงเวลาก่อน อะไรก็อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ที่แน่ๆ ของที่มี ไม่เอาออกขายน่ะครับ ....แหะๆ อย่าถามมาเลย ขอบคุณครับ

    ผมเผอิญไปเขียนเรื่องเนื้อดินสอพอง ของอาจารย์ผม หลวงปู่พระครูบุญศรี ทีนี้ก็มีคนโทรมา หรือ PM มาบ้าง มาถาม อยากได้ หรือถามว่าที่มีอยู่ใช่หรือไม่ ผมก็เข้าใจน่ะ ครับ ผมเลยตอบซ่ะเลย เดี๋ยวเลยไปนานๆ จะลืมเพราะแก่...แหะๆ

    ผงที่มีผมเก็บไว้หลายปี ตอนหลวงปู่บุญศรียังอยู่ ท่านเด่นทางเมตตา โชคลาภมาก ออกแนวเสน่ห์ ( เหมือนหลวงพ่อทรง ) ผมเลยว่าจะทำพระขุนแผน และ ปิดตาถวายท่านแจก เลยเอาดินสองพองหลายถุง มาใส่กล่องปลาสติก ขนาดกล่องขนมปังใหญ่จนเต็ม เอาน้ำมนต์ใส่ ดินสอพองละลาย ใส่จนแน่นเต็มกล่อง น่าจะหนักหลายกิโลเหมือนกัน เมื่อแห้งก็ยกไปให้หลวงปู่ลงให้ ท่านเอาเหล็กจาร ลง ลบถมอยู่หลายเที่ยว แล้วเสกให้ ผมฝากท่านไว้หลายอาทิตย์ เมื่อเอากลับมา ผมก็ยกไปปลุกเสกอยู่เรื่อยๆ เสกมาหลายปี ผมไปหาท่านทุกอาทิตย์ นอกนั้นเมื่อไปเข้าพิธี ของ อ. อนันต์ผมก็เอาไปด้วยอีกหลายหน ตกลงจำไม่ได้ว่ากี่เสกกี่พิธี แต่ทำตามสันดานผม อันนี้พูดตรงๆ ถ้าทำของแบบนี้ ต้องเสกซ้ำจนจุใจ ให้มั่นใจว่าใครได้แจกไป ไม่ห้อยก้อนดินเปล่าๆ อาจารย์หลวงปู่ของผมท่านก็สนองให้เต็มที่ ท่านเสกให้หลายปีจนบอกว่า มันเยอะแล้วน่ะ

    มีคนที่มีตาใน บอกผมว่า ของเมื่อเป็นไสยศาสตร์ เมื่อเอาพุทธศาสตร์อาราธนาเข้าแทน ของเดิมจะหายไป อันนี้ฟังดูมีเหตุผล

    แต่การปลุกเสกของหลวงปู่ผม จะไม่ไล่ของเดิม แต่ของใหม่จะเข้าไปเคลือบของเก่า เสกกี่ครั้งก็จะเข้าไปเคลือบเท่านั้นครั้ง แล้วดวงสว่างจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉนั้นของจะไม่เต็ม เพราะไม่ได้เข้าไปไล่ ไม่ได้เข้าไปบรรจุ แต่เข้าไปพอกขึ้นเรื่อยๆ ของเก่าจะเป็นอย่างไรก็ยังคงอยู่ ผมถามท่านเองว่า เสกหลายๆครั้งดีกว่าไหมครับ ท่านว่าดี เสกหลายๆครั้งยิ่งดี ผมเลยถือโอกาศ ยกมาให้เสก จนถึงเวลาท่านใกล้ล่ะสังขาร พอเสกเสร็จ ( มีของคนอื่นวางอยู่ด้วย ) ท่านชี้มาที่ลังของผมแล้วบอกว่า มันเยอะแล้วน่ะ ( น่าจะหลายร้อยครั้ง ) ผมเลยรู้ว่า ถึงเวลาแล้ว ผมเลยไม่เอาไปทำพิธีที่ไหนอีก

    ผงส่วนหนึ่ง ผมเอาเส้นเกศาหลวงปู่มา ตัดเป็นเส้นเล็กๆใส่ ขอท่านลงให้พิเศษเพื่อบรรจุในพระกริ่งแพโบถส์น้ำ ผงนี้ก็เหลือเป็นขวดโหลกาแฟ เพราะทำเผื่อไว้เยอะ

    เมื่อผมมาพบหลวงพ่อทรง และแน่ใจว่าใช่แล้ว ตอนนั้นวัด พิมพ์พระไปได้ระยะหนึ่ง ผมจึงคิดว่า เอาผงทั้งสองอย่างมาทำพระหลวงพ่อทรงดีกว่า เพราะเดี๋ยวรอไป จะหาพระอย่างหลวงพ่อยากอีก ผมรอเมื่อทำพิมพ์แหวกม่านและ โพธิเก้าใบมา จึงจะทำพิมพ์รูปพระพุทธถวายหลวงปู่บุญศรี และหลวงพ่อทรง

    วันที่เอาผงพิมพ์ จึงเอาแท่นพิมพ์ติดทั้งสองพิมพ์ ผสมผงกับน้ำมันตั้งอิ้ว เป็นผงล้วนๆ ไม่มีผงอะไรผสมอีกเด็ดขาด ผงนี้ผมขอหลวงพ่อทรงท่านเสกซ้ำให้อีกหลายที....แหะๆ ( อดไม่ได้ )

    เมื่อผสมผงเสร็จ จึงเริ่ม พิมพ์ทั้งสองพิมพ์ หลวงพ่อก็นั่งอยู่ด้วย จำได้ว่าได้พระเป็นร้อยๆองค์ ผมไม่รอให้แห้ง เพราะทิ้งไว้ที่วัดเดี๋ยวปนกัน หายากอีก ผมแยกเอามาส่วนพิมพ์พิเศษฝังตะกรุด แล้วเอาพิมพ์ธรรมดากลับมาบ้าง

    ผมเอาส่วนของผมใส่ถาดเอามา เล่าเรื่องถวายหลวงพ่อ และขอให้หลวงพ่อเสกซ้ำให้อีกทีแบบพิเสษ ท่านทำให้แบบจุใจ แล้วผมจึงยกกลับบ้านทั้งถาดแบบหมาดๆอยู่ เมื่อแห้งก็แยกใส่กล่องไว้

    ที่เหลือทั้งหมด น่าจะหลักร้อยองค์ ผมทิ้งไว้ที่วัดหมด ถวายหลวงพ่อไปแจกดีกว่า เป็นทาน จำได้ว่าพอพระแห้งดี พระท่านก็เอารวมกัน ใส่ลังไปไว้ในหอสวดมนต์ให้หลวงพ่อเสก ซึ่งคงปนๆกัน และเสกซ้ำหลายครั้ง

    ตกลง หลังจากนั้นไม่ทราบว่าพระเนื้อนี้ไปไหน หลังจากเสกคงแจกไป บอกตามตรง ถ้าถามผม เพราะผมรู้ประวัติดี ไม่มีใครรู้ละเอียดเท่าผม ถ้าท่านได้แจกไป ท่านได้พระสองวัด สองหลวงพ่อไป มีเกศาของหลวงปู่บุญศรีใส่ลงไปบ้างประปราย ไม่ใช่เกศาหลวงพ่อทรงอย่างเดียว ของหลวงพ่อทรงจะยาวกว่าหน่อย ท่านได้ของดีไปครับ เป็นของสุดยอดของสองหลวงพ่อ ที่ทำแจก เสกมาจากเป็นผงหลายร้อยครั้ง แค่ผงก็เดินทางมาเป็นหมื่นๆกิโล เพราะเดินทางไปๆมาๆอยู่หลายปี

    PICT2654.JPG PICT2656.JPG
    เนื้อพระเมื้อผสมน้ำมันตั้งอิ้ว จะออกน้ำตาล เหลืองไม่ขาว พิมพ์จะติดชัดเจนเพราะดินสอพอง ละเอียด และอ่อน มีเส้นเกศาเล็ก ดำๆปนอยู่ หลวงปู่พระครูบุญศรีแม้จะอายุมาก แต่ผมท่านดกดำครับ เป็นเรื่องแปลกแต่จริง

    ใครได้ไปกรุณาตรวจดูของท่านน่ะครับ เพราะถ้าได้ไป ท่านเฮงสุดขีด ผมจะไม่โม้อะไรมากกว่านี้เพราะจะเชียร์อาจารย์ตัวเอง ท่านลองนำไปติดตัวดู และแขวนเดี่ยวองค์เดียวได้สบายครับ ไม่ลอง ไม่ทราบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2011
  5. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    เบี้ยท่านสั่นได้จริง..

    *-* ขออนุญาติเจ้าของกระทู้เล่าเหตุการณ์เบี้ยท่านสั่นได้จริงสักหน่อย จักเป็นบทความที่บันทึกไว้และเล่าสู่กันฟังในหมู่ลูกศิษย์หลวงพ่อ

    เรื่องเบี้ยท่านสั่นได้จริงนี้ผมเองก็เคยได้ยินมาจากผู้ใหญ่ท่านนึง

    เบี้ยแก้นี้ถือว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของผมเองที่ขาดไม่ได้ วันไหนลืมพกติดตัวทำให้ไม่สบายใจหรือนอนไม่หลับได้ทีเดียว เบี้ยแก้ที่พกติดตัวเสมอ คือ เบี้ยของหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร และเบี้ยของหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน สองสำนักนี้ถ้าพกไว้ ไปไหนไปกัน..

    วันนั้นมีโอกาสได้สนทนากับพระรูปหนึ่งซึ่งเคยพบท่านมาครั้งนึงแล้ว.และไม่ขอเอ่ยนามพระท่านนี้นะครับ แต่บอกได้ว่าอยู่ทางเหนือไม่ไกล้ไม่ไกลนี้เอง พระสงฆ์รูปนี้เป็นพระที่ฝึกพระกรรมฐานเป็นนิจ และเป็นพระที่เคยรักษาผู้ป่วยตามอัตภาพ วันนั้นผมได้สนทนากับพระคุณเจ้าหลายอย่างจนเลยเถิืดมาเรื่องเบี้ยแก้

    เลยได้ถามท่านว่าเบี้ยแก้นั้นมีคุณวิเศษอย่างไร พระท่านอธิบายว่าเบี้ยแก้นั้นมีคุณวิเศษมากมายนัก โบราณว่าฝอยท่วมหลังช้าง ประมาณมิได้ ถ้าผู้ใดเสกได้ถึงหรือทำได้จริง จะมีคุณวิเศษสูงสุดทีเดียว เบี้ยแก้นี้กันไข้ป่าหรือบรรเทาพิษไข้ได้ ต้านวิญญาณร้ายได้

    พอสนทนาเรื่ืองเบี้ยกันเนิ่นนานพอควร เกล้ากระผมเลยเอาเบี้ยแก้ที่เหน็บตัวประจำส่งพระท่านดู.. ท่านรับเบี้ยแก้ไปแล้วนำเบี้ยแก้ไปพนมมือไว้สักพัก ท่านลืมตาขึ้น ถามบอกว่าเบี้ยแก้นี้มาจากพระท่านใด ทำไมเบี้ยแก้นี้ประดุจมีชีวิตและสั่นได้..

    เบี้ยแก้ตัวแรกสั่นได้ประดุจดังมีชีวิต ส่วนเบี้ยแก้ตัวที่สองคล้ายๆกันแต่มีอานุภาพกันพิษได้ดี

    บทความที่ผมเขียนลงไปนี้ขอบันทึกไว้ในหมู่ลูกศิษย์ได้รับรู้กันว่าเบี้ยแก้นั้นมีดีอย่างไร

    ท่านใดมีเบี้ยแก้ไว้อย่าเก็บไว้เฉยๆ อย่าทิ้งอย่าขว้างเหมือนของไร้ค่า เช่ามาเก็บไว้ไม่ได้ประโยชน์ ถ้ามีเบี้ยแก้แล้วให้อาราธนาติดตัวอยู่สม่ำเสมอ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

    ถือว่าเบี้ยแก้นั้นเป็นของมหัศจรรย์ก็ว่าได้ทีเดียว ผมเจอเหตุการณ์จังๆหลายหนหลายครา ได้ไปทำงานหลายที เจอเหตุการณ์คนถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงห์ร้ายครั้ง เหตุการณ์ต่างๆสงบลงด้วยเพราะเบี้ยแก้นี้นับครั้งไม่ถ้วน

    จึงนำมาบอกเหล่าศิษย์ที่รักหลวงพ่อว่า ถ้าท่านใดมีเบี้ยไว้ครอบครอง ให้นำมาอาราธนาพกติดตัวให้สม่ำเสมอ เบี้ยแก้ถือเป็นสิ่งล้ำค่้าทางใจของผมไปแล้ว...

    *-* thaiput007@hotmail.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  6. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
     
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    กราบเรียนเชิญ คุณออยล์ และเจ้าของประสบการณ์ มาเล่าน่ะครับ ผมจะได้ไม่โม้คนเดียว แต่ขอความกรุณา ถ่ายรูปให้ดูด้วยน่ะครับ คิดว่าขอรูปเถอะ ลงลายเซ็นต์ สัญญลักษณ์ไว้ในรูปด้วยเลย กันคนก็อบเอาไปแอบอ้าง เผื่อในโอกาสหน้าเราจะได้รวมเล่ม พิมพ์ถวายหลวงพ่อกัน

    ที่จริงมีเรื่องเล่าอีก เขาโทรมาบอก แต่เมื่อเจ้าของเขายังไม่ได้เล่า ผมก็ไม่กล้าเล่า เพื่อยืนยัน ว่าเบี้ยหลวงพ่อนั้นมีชีวิต ด้วยการ ตั้งธาตุ ปลุกธาตุ หนุนธาตุให้เป็นขึ้นมา ต่างจากการปลุกเสกรูปพระพุทธ หรือ พระสงฆ์

    PICT2658.JPG PICT2659.JPG
    เบี้ยจั่น หลวงพ่อทรง

    เบี้ยจะเหมือนสิ่งมีชีวิต คุ้มครองผู้ครอบครอง และคนใกล้ๆ ในรัศมีหนึ่ง ตามกำลังของผู้บูชาด้วย ถ้าบูชามาก หมั่นปลุก ด้วยความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย รัศมีจะคลุมกว้างขึ้น ไม่ขึ้นกับขนาดตัวเบี้ย แต่ขึ้นกับกำลังใจของผู้บูชา เบี้ยแค่เป็นสื่อ

    นอกจากนั้น เบี้ยยังเชื่อมโยงต่อกับครูบาอาจารย์ในอดีต ที่หลวงพ่อ เรียนมา หรือ เชิญมา ครูบาอาจารย์เหล่านั้น รวมทั้งหลวงพ่อเอง เป็นบุคคลพ้นโลก เก่งในทางเบี้ย ทางปรอท เพราะสืบสายกันมา ท่านจะมาต่อวิชา ตามแนวของท่าน ตามแนวพุทธคุณ ไม่ใช่ไสย คอยคุ้มครองลูกศิษย์ หรือ ผู้ที่นับถืออยู่ ได้เต็มกำลัง เพราะไม่ใช่รูปสมมุติ ที่เคารพของพระศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พวกท่านต้องเกรงใจ เรียกว่ามีตัวช่วยเยอะ หลายองค์ เพราะหลวงพ่อท่านเชิญบารมีมาหมด มาเป็นกำลังมาหนุนเกื้อเคราะห์ กลับร้ายให้กลายดี มีฝอยท่วมหลังช้าง รับ รุก แก้ กัน

    และเมื่อไม่ใช่รูปเคารพ ที่เป็นพระพุทธ สามารถ พกติดตัวได้ คาดเอวได้ ใส่กระเป๋ากางเกงได้ถ้าจำเป็น ใส่กระเป๋าถือได้ เมื่ออาราธนา ขอติดตัว ไปได้ทุกที่ ไม่จำกัดสถานที่ เพราะเอาคอยไว้แก้ของต่ำของเขาที่จะมาทำเรา

    ของนี้ตามที่ผมศึกษามา เบี้ยนี้ไม่เสื่อมน่ะครับ เพราะไม่ใช่เสกด้วยไสยศาสตร์ คาถาอาคมอย่างเดียว แต่มาจากอภิญญาการหนุนธาตุ ของพระผู้พ้นโลกด้วยเมตตา จะแปลกกว่าของอย่างอื่น เพราะปรอท เขาเป็นของเหลว จะมีดีในตัวอยู่แล้ว เมื่อรับพลังเหล่านั้น เขาจะซึมซับไว้ได้ดี และสามารถ เต้น สั่น และปล่อยพลังนั้น ต้านออกมาได้อย่างรวดเร็ว

    แต่ตามธรรมชาติ ปรอทนั้นไหลได้ ชันนะโรงนั้น มีละลายได้ ชำรุดได้ เมื่อชำรุดหรือรั่ว ปรอทอาจจะไหลหนีออกมาได้ จะเห็นว่าเบี้ยเปลือยของอาจารย์รุ่นเก่าๆ สายอ่างทอง เช่น หลวงพ่อพัก หลวงพ่อนุ่ม หลวงพ่อคำ บางตัวปรอทจะไม่เต็ม เพราะไปเจอสภาพใช้แบบที่ว่า สัมบุกสัมบันหน่อย ปรอทรั่วออกไป ไม่ใช่ปรอทหนีเพราะเสื่อมน่ะครับ แต่ชันนะโรงชำรุด หรือ เปลือกหอยเบี้ยชำรุด ปรอทเขารั่วออกมาได้ ไม่ใช่ถูกเขาคัด ออกหรือเสื่อมแล้วปรอทหนีอย่างที่เข้าใจ

    ของแบบนี้ไม่เสื่อมครับ ถ้าจะเสื่อม ก็จะเสื่อมที่ใจท่าน ที่ขาดความมั่นใจในพระรัตนตรัย และพระอาจารย์ครูบาอาจารย์ผู้พ้นโลกทั้งหลาย ความมั่นใจนี้ ต้องมั่นใจแบบเต็มร้อย ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆ หรือ จะเสื่อมเพราะท่านเป็นคนไม่มีสัจจะ พูดไม่เป็นคำพูด พูดเรื่องไม่จริงได้ประจำ หรือละเมิดข้อห้ามร้ายแรง เช่นด่าแม่เขา ละเมิดคนที่มีเจ้าของที่เขาหวง ละเมิดศีลห้าเป็นนิจ ตัวท่านจะเสื่อม เทพยดา ครูบาอาจารย์ประจำตัวท่าน และประจำของศักสิทธิ์ พวกท่านเหล่านั้น เขาจะทิ้งท่านไป เพราะเหม็นเบื่อ ...

    แต่เบี้ยนั้นไม่เสื่อมครับ และไม่มีใครมาคัดออกได้ครับ ไม่เคยมีประวัติเล่ากันมาว่า เบี้ยสายอ่างทองของ หลวงพ่อซำ หลวงพ่อพัก หลวงพ่อนุ่ม หลวงพ่อคำ หลวงพ่อกลุ่ม หลวงพ่อโปร่ง ฯลฯ ครูบาอาจารย์ในอดีตที่เป็นสายต่อเนื่องมาในวิชาเบี้ยเหล่านี้และมีความผูกพัน รู้จักกับหลวงพ่อทรงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถูกผู้มีวิชาคาถาอาคมคัดให้เบี้ยแตก เสื่อมไปได้


    ถ้าจะมีก็ผู้ใช้คาถาอาคมพวกนั้นแหละที่ถูกพลังกระดอน สะท้อนให้ของที่ปล่อยมา ให้กลับไปหาตัวผู้ปล่อยออกมามากกว่า ด้วยกำลังแรงกลับที่มากกว่า เพราะฉนั้น เท่าที่ฟังมาศึกษามา พวกเล่นศาสตร์ดำจะกลัวเบี้ยแก้มาก ว่าจะมาล้างคาถาอาคม ของต่ำ คุณไสย ยาสั่ง วิชาของเขามากกว่า เพราะเบี้ยเขาปรับตัวเป็นรุกได้ ถ้ารู้เคล็ด เบี้ยบางอาจารย์เพียงขึ้นบ้านคนเหล่านั้น หรือ เข้าใกล้ ของเขาก็เสื่อมแล้ว เพราะครูบาอาจารย์สายดำเขาไม่สามารถเข้ามาใกล้ในรัศมีเบี้ย มาต่อวิชาสายดำที่ของเหล่านั้นได้ เพราะกลัวถูกกระทำ แล้วเบี้ยเขาจะล้างของให้เสื่อมไป ขาดสื่อ ขาดตัวเชื่อม ถ้าจะใช้ให้ได้ผลใหม่ เขาก็ต้องทำพิธีประจุใหม่ ยุ่งยากขึ้น เพราะของมันเสื่อม ไปแล้ว

    คนโบราณ ไปไหน มีเบี้ยผูกติดเอวไปตัวเดียวครับ ใจมั่น ไปได้ทุกที่ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เมื่อมีของดี ก้ออย่าไปอวดเก่ง ทำตัวเป็นอาจารย์ เสนอตัวไปช่วยเขาไปหมดคิดว่ามีของดี ให้ท่องไว้ว่า เหนือฟ้ามีฟ้า มีของดีแล้ว ทำตัวเงียบๆแบบหลวงพ่อจะดีกว่า....แหะๆ ไม่มีอะไรเก่งกว่ากรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  8. ผาแดง

    ผาแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,640
    ค่าพลัง:
    +10,719
    สวัสดีครับพี่พี

    เห็นว่าช่วงนี้กระแสเรื่องเบี้ยของ หลวงพ่อทรง ท่านมาแรง อันที่จริง แล้วทั้งพระและเครื่องราง ของหลวงพ่อทรง นั้นก็ตามที่พี่พีบอกคือ หลังจากสวดมนต์ไหว้พระตามปกติแล้วก็บอกกับท่านไปตรงๆนี้แหละจะให้ท่านช่วยอะไรบ้าง แต่คาถานี้ผมมาเพิ่มเติมให้นะครับ ผมได้มาเกือบยี่สิบปีแล้ว เป็นคาถาที่อารธนาเบี้ยสายของอ่างทอง เนื้อความของคาถาจะเป็นภาษาไทย จะต่างจากเบี้ยสายนครปฐม ที่เป็นภาษาบาลี เพราะเป็นคาถาของฤาษี ต่างที่ไม่ได้ขึ้นต้นด้วยโอมเท่านั้น จริง ๆ แล้วการสร้างเครื่องรางในทุกวันนี้ ล้วนเป็นวิชาของพระฤาษีทั้งนั้น เนื้อคาถาจะเป็นคำกล่าวถึงสรรพคุณของการบูชาเบี้ยนี้ติดตัว ซึ่งบางท่านอาจทราบแล้วก็ได้ คาถามีดังนี้ครับ


    เบี้ยแก้ตัวนี้ สำคัญนัก พ่อค้าแม่ค้าจักหมั่นไหว้บูชา จะไต่เต้าเจ้าสัว แสนทะนาน ลาภเต็มห้อง ทองเต็มไห ขุนนางใดมีไว้ในตัวดีนักแล จักให้คุณเป็นถึงท้าวเจ้าพระยาพานทอง ทรัพย์สินสิ่งของกองเต็มวัง อีกทั้งช้างม้าวัวควาย นับได้หลายเหลือ สิ่งอาถรรพ์ อาเภท อัปมงคลทุกข์ภัยพิบัติ ทั้งยาสั่งให้อันตรธานไปสิ้น ศัตรูปองร้ายให้พ่ายแพ้ภัยตัว ขึ้นโรงขึ้นศาลให้ปลอดภัยทั้งคดีความ สิงห์สาราสัตว์สารพัดร้าย ปืนผาหน้าไม้ ผีป่า ผีปอป ผีโป่ง ทั้งโขยง มิกล้ากล้ำกราย หากมีเหตุเภทภัย อันตรายใดๆจงบอกกล่าวเตือนว่าอย่าไปเลย


    เมื่อพิจารณาเนื้อคาถาจะเห็นได้ว่าเบี้ยจะเป็นเครื่องรางที่เมื่อบูชาแล้วครบเครื่อง โบราณท่านถึงบอกว่ามีเบี้ยคาดเอวตัวเดียวลุยได้ทุกที่ ท่อนนี้ครับ (หากมีเหตุเภทภัย อันตรายใดๆจงบอกกล่าวเตือนว่าอย่าไปเลย) จะสอดคล้องกับที่หลายท่านบอกว่าเบี้ยหลวงพ่อสั่นเตือนภัยได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  9. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ
     
  10. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,619
    คุณพีครับ แบบนี้จะใช่หรือเปล่าครับ ที่ตะกรุดมีเศษจีวรด้วยครับ ขอบคุณครับ
    ;20
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>



    ผมไปอ่านในกระทู้เก่าๆของพี่พีเห็นถามเรื่องเบี้ยแก้นี้อยู่ ไม่ทราบว่ามีใครตอบหรือยัง ผมจึงขออนุญาตพี่พีตอบก็แล้วกันนะครับ

    เบี้ยแก้นี้เป็นของหลวงพ่อผาดวัดไร่เท่าที่พบมาเป็นแบบนี้ออกจากวัด 300 บาทครับ
     
  11. มหาโอ๊ต

    มหาโอ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    753
    ค่าพลัง:
    +1,692
    อนุโมทนาครับ
     
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ขอบคุณครับ ทั้งถามและตอบ ผมไม่มีความรู้เรื่องเบี้ย สายหลวงพ่อผาดเลยน่ะครับ
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ขอบคุณมากครับพี่จ่า สำหรับความรู้

    และขอยืนยันด้วยอีกรายว่า เบี้ยเป็นวิชาสายฤาษีครับ พระฤาษีนี่ท่านมีมาก่อนพุทธกาลน่ะครับ แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศาสดาเอกพระบรมครู ก่อนจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ด้วยพระองค์เอง ก็มีพระอาจารย์เป็นฤาษีน่ะครับ หลายท่านด้วย และเมื่อพระพุทธองค์ท่านทรงบรรลุพระโพธิญานแล้ว บุคคลกลุ่มแรกที่ท่านระลึกถึง เข้ามาในข่ายพระพุทธิญาน และอยากจะไปโปรด ก่อนเพื่อนก็คือ พระฤาษี ที่เคยเป็นพระอาจารย์ของท่านมาน่ะครับ

    จะเห็นว่าความผูกพันนี้มี มาจากองค์พระบรมครู ในความผูกพันอันยาวนาน เมื่อ พระสัจจะธรรม ที่พระองค์ทรงเผยแพร่มากว่า ๒๕๕๑ ปี ที่เป็นมหาสัจจะธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกและคงทนที่ถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น เกรงว่าจะมีวิชาพระฤาษีติดตามมาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้น่ะครับ

    หลวงพ่อจง ท่านอาจารย์ใหญ่ ก็มีพระอาจารย์เป็นพระฤาษีน่ะครับ รูปบูชา หัวฤาษี ยังมีเป็นหลักฐานที่วัดหน้าต่างนอก ผมเคยกราบเรียนถามพระอาจารย์แม้นเรื่องนี้ ท่านพาไปเปิดห้องให้ดู ห้องพระบูชา พระฤาษี พ่อแก่ ครูดนตรี ตั้งอยู่เต็มห้อง แล้วท่านบอกว่าจะละลืมท่านพวกนี้ไม่ได้ เพราะเรามีเชื้อ

    อาจารย์หลวงปู่พระครูบุญศรีของผม ท่านก็มีวิชาฤาษีน่ะครับ คาถาที่ท่านมอบให้หลายบท จะมีคำว่า โอม ขึ้นหน้า และบางบทลงท้ายด้วย สวาหะ สวาโหม

    ที่จริงผมพอมีตำราเบี้ยอยู่ แต่เผอิญไม่ได้เรียนมา โดยตรง จึงไม่อยากจะเอามาโม้มาก ของแบบนี้ท่านไม่ให้มาเปิดเผยโดยตรง ท่านต้องไปหาเรียนเอาเอง แต่อยากจะสรุปว่า ท่านที่ถามมาถึง เบี้ย ตระกรุดเทพรัญจวน ตะกรุดมหาจักร ของหลวงพ่อทรง ท่านทำสำเร็จมาแล้ว แบบสำเร็จรูป ให้อธิษฐานเอาครับ เหมือนกดปุ่มเอาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  14. เมืองสมุทร

    เมืองสมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +5,767
    ช่วงนี้ประเด็นเรื่องเบี้ยแก้นี่ร้อนแรงจริงๆน่ะครับ สังเกตได้จากมีการถกกันหลายวาระ แหะๆๆ เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว (วันเสาร์ที่ 6 กันยายน) ผมได้มีโอกาสไปกราบพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ตามคำแนะนำของเพื่อน จริงๆแล้วผมก็ชอบที่จะไปกราบพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบน่ะครับ แต่ยิ่งเพื่อนคนนี้มาเล่าให้ผมฟังว่าพระอาจารย์ท่านสามารถ อาราธนาเพื่อดูพลังพุทธคุณในวัตถุมงคลได้ก็ยิ่งทำให้ผมกระตือรือร้นอยากจะไปเป็นเท่าตัว [​IMG] ระหว่างเดินทางไปวัดท่าน ก็ได้สอบถามประวัติคร่าวๆ ของพระอาจารย์จากเพื่อน แต่เพื่อนผมก็ไม่ค่อยทราบละเอียด รู้เพียงว่าท่านมีอาจารย์อยู่ทางเขมรและท่านชอบนั่งกรรมฐานโดยปฏิบัติทุกคืน เพื่อนผมเล่าว่า เคยไปลองของกับพระอาจารย์ท่านหลายครั้ง คือเอาวัตถุมงคลที่ไม่ได้เสกไปให้ท่านครวจดู โดยบอกท่านว่าผ่านการเสกมาแล้ว ท่านก็รู้ได้ว่า "ไม่ได้เสก" หรือเอาวัตถุมงคลที่ท่านไม่เคยรู้จักไปให้ท่านตรวจดูท่านก็รู้ได้ว่าผ่านพิธีพุทธาภิเษกหมู่ หรือ ว่าเป็นเสกแบบบินเดี่ยว ผมฟังแล้วก็ตื่นเต้น คิดว่าวันนี้คงได้รู้อะไรดีๆ แน่ๆ

    พอไปถึงที่วัดกราบนมัสการท่านเสร็จหลังจากสนทนากันพักหนึ่ง ผมก็เริ่มนำวัตถุมงคลออกมาให้ท่านช่วยดู จริงๆแล้ววันนั้น ผมก็นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ทรงไปหลายชิ้น แต่จะขอเล่าแต่เรื่องเบี้ยแก้น่ะครับ เพราะกำลัง ฮ๊อท !!! [​IMG] แหะๆๆ พระอาจารย์ท่านรับเบี้ยแก้จากผมไปจับอยู่ครู่เดียวก็คลายสมาธิ แล้วบอกว่า "อือ.....แรงดีจริง วิ่งขึ้นถึงหัวเลย" ผมก็เลยถามท่านต่อว่า ขึ้นถึงหัวเลยเหรอครับ ท่านก็บอกต่อว่า "พลังวิ่งขึ้นถึงหัว แล้วแผ่ลงคลุมทั่วตัว ป้องกันดีจริงๆ" หลังจากนั้นท่านก็ตรวจดูวัตถุมงคลอย่างอื่นอีกหลายชิ้น พอถึงเวลาจะกลับ ผมก็แกล้งถามท่านว่า ผมเอาเบี้ยแก้ใส่ในกระเป๋ากางเกงจะเสื่อมมั้ยครับ ( ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แก่ใจ [​IMG] ) พระอาจารย์เลยเผยมาอีกว่า "ไม่เสื่อมหรอก หลวงพ่อองค์นี้ท่านเสกจนมีพระอยู่ข้างในเบี้ยนี้เลย" ผมฟังแล้วก็นึกถึง เรื่องที่เคยได้ฟังมาว่า พระเกจิที่เก่งมากๆ สามารถเสกของจนเป็นกายสิทธิ์ได้ คือเสกจนมีองค์พระอยู่ข้างใน ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ละเอียดถ้าผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยน่ะครับเพราะฟังเขามาอีกที ตอนนั้นก็นึกเพียงแต่ว่าเบี้ยแก้ของหลวงปู่เรานี่ก็ไม่ธรรมดาจัดเป็นของกายสิทธิ์เหมือนกัน พอจะออกจากุฎิท่านพระอาจารย์ท่านพูดว่า "น่าเสียดายที่อาตมาไม่รู้จักหลวงพ่อทรง ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ไม่อย่างนั้น อาตมาต้องไปกราบท่านแน่ๆ"

    ท่านใดที่มีเบี้ยแก้ของหลวงปู่ขอให้รู้ไว้เลยน่ะครับว่า ท่านได้ครอบครองสุดยอดเครื่องรางอย่างหนึ่งไว้แล้ว ลองอาราธนาติดตัวดูครับ คุ้มครองตัวได้แน่นอน
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ค่อยๆมาทีล่ะเม็ดแล้วครับ...แหะๆ เนื้อหารายละเอียด อาจจะต่างกันไปบ้าง ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างสถานที่ ต่างบุคคล แต่ลีลาเหมือนกัน คือยืนยันพลัง สรรพคุณ อานุภาพ ของเบี้ยแก้ของหลวงพ่อทรง พระผู้เฒ่า ผู้สืบสายวิชาการทำเบี้ยของจังหวัดอ่างทอง และยืนยันว่าเบี้ยสายอ่างทอง มีชื่อเสียงเกรียงไกร มาตั้งแต่อดีตจากรุ่นปู่ เสียงร่ำลือมาจากคนในพื้นที่ มีพยานบุคคลยืนยันเพียบ

    พ่อคำ หน้า.JPG พ่อคำ หลัง.JPG
    เบี้ยพ่อคำ

    แต่ที่ดังสุดๆออกมานอกพื้นที่ ก็จะมีสามพระอาจารย์ คือ หลวงพ่อพัก ( แพงแล้วจะไม่กล่าวถึง ) หลวงพ่อคำ และหลวงพ่อนุ่ม เพราะเบี้ยมีปริมาณมากพอสมควร ประสบการณ์ ดีเด่น ครบทุกรส ทั้งบู้ มหาอุด แคล้วคลาด คุ้มครอง เบี้ยมีเอกลักษณ์ พอแยกได้จากผู้ชำนาญ จากเอกลักษณ์สีของเบี้ย ชันนะโรง ชันยาเรือ ที่อุดเบี้ย เมื่อเก่าขึ้นมาดูง้ายง่าย การฟังเสียงปรอทเมื่อเขย่า ของเก็ทำเบี้ยให้เก่าไม่ได้ ดูแล้วน่าเกลียด ดูเก้แท้ไม่ยากมาก ไม่เหมือนสายนครปฐม และสายวัดนายโรง ซึ่งดังมานาน ดังมาก่อนสายอ่างทองไกล ประสบการณ์ดีเด่นสุดยอด ด้านคุ้มครอง แต่ราคาก็แซงไปไกลสุดยอด และ สุดเอื้อม ต้องดูการถัก สีรัก ความเก่าจากข้างนอก และเสียงปรอท ยากกว่าการดูเบี้ยสายอ่างทอง ขอประทานโทษ ของเก็เพียบ ปลอมระเบิด ขนาดเบี้ยใหม่ๆยังมีเก็ ปล่อยนานๆไปใครจะแยกออกครับ แยกยังไงล่ะครับ เพราะคนถัก รักที่ทา ก็มาจากแหล่งเดียวกัน ที่สำคัญ ถ้าแท้ดูง่าย แต่ราคาก็ดูยาก เพราะสุดเอื้อมไขว่คว้า สำหรับคนส่วนใหญ่จริงๆ ไม่แน่ใจว่าถึงกระเสือกกระสนไปได้ของมา จะกล้าพก ติดตัวแบบสัมบุกสัมบันหรือไม่ กลัวของจะช้ำราคาตกนั่นแหละครับ

    พ่อนุ่ม หน้า.JPG พ่อนุ่ม หลัง.JPG
    เบี้ยพ่อนุ่ม

    สำหรับพระอาจารย์ทั้งสามองค์นี้ หลวงพ่อพัก หลวงพ่อคำและหลวงพ่อนุ่ม มีความเกี่ยวข้องกับหลวงพ่อทรงแน่นอน โดยเฉพาะหลวงพ่อนุ่ม จะไปนั่งเป็นพระอุปัชฌาย์บวชกุลบุตร กับหลวงพ่อทรง ตั้งแต่หลวงพ่อทรงยังหนุ่มๆอยู่ ไปเป็นพระคู่สวด ในห้องนอนส่วนตัวของหลวงพ่อทรงก็มีรูปบูชา ของหลวงพ่อนุ่มอยู่ ท่านที่อยากจะหาเบี้ย ดีๆ ไว้ใช้บูชาติดตัวจริงๆ แน่นอน ใช้สัมบุกสัมบันได้ ติดตัวไว้ป้องกันสรรพภัยได้รอบตัว ไม่ต้องกลัวช้ำ กลัวหาย แนะนำว่าให้หา เบี้ยสายอ่างทองไว้ เพราะราคาต่างกันไกลลิบลับจากสายนครปฐม และวัดนายโรง แค่หลักพันต้นๆ และกลางๆ

    ให้ระดับเซียนเหยียบเมฆท่านเล่นของท่านไป ในสายนครปฐมและวัดนายโรง เพราะเห็นคุยกันแต่ละที พูดกันแต่หลักหลายหมื่นถึงหลักแสนเหมือนเรื่องธรรมดา พวกเราหาได้สักหมื่น บางทีแทบกระอัก เอาไว้กินดีกว่า ก็ให้พวกพระเดชพระคุณ บรมเซียนท่านเล่นในกลุ่มของท่านไปก็แล้วกัน ซื้อๆ ขายๆ กันเองน่ะครับดี เงินทองไม่รั่วไหล...แหะๆ

    มาเล่นสายอ่างทองกันดีกว่า ของมี พอหาได้บ้าง เห็นอยู่เรื่อยๆ ดูง่ายกว่ากันเยอะ และที่สำคัญ สรรพคุณไม่เป็นรอง สายใดๆในประเทศนี้เด็ดขาด เอามาเทียบแบบนักมวย ปอนด์ต่อปอนด์ ในด้านคุณภาพและราคา จะดีกว่าทุกกลุ่มด้วย เพราะถูกกว่าเยอะ พกติดตัวไว้ ไม่หนักเอว เอาติดบ้านไว้ อาราธนาดีๆ ก็คุ้มครองได้ทั้งบ้านอีกซ่ะด้วย ฉุกเฉิน อยู่ไกล หาหมอ ไม่ทันก็ใช้รักษาโรคบางประเภทได้อีก เขาใช้กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ เพราะตอนนั้นหาหมอยาก โม้มาซ่ะเยอะ เป็นคนอ่างทองก็ไม่ใช่...อิอิ แต่ของเขาดีจริงๆ ก็ต้องว่าตามนั้นจ้า

    ยืนยันอีกเรื่องคือเรื่องการพกเบี้ยแก้ ในกระเป๋ากางเกง ผมพกมาซ่ะนาน ควักมาให้หลวงพ่อทรงท่านเสกซ้ำ ท่านก็ไม่ว่าอะไร ผมถามท่านเองด้วยว่าหลวงพ่อผมพกในกระเป๋ากางเกงน่ะครับ ท่านบอกเองว่าไม่เป็นไร เสกให้อีกทีซ่ะอีก

    อาจารย์หลวงปู่พระครูบุญศรีของผมน่ะ ท่านบอกเลยว่าของๆท่าน รูปท่านพกในกระเป๋าสตางค์ได้ ใส่ในกระเป๋ากางเกงได้ นั่งทับได้ พอผมดันถามท่านว่า ทำไมได้ครับ ท่านสวนกลับทันทีว่า รูปพระเจ้าอยู่หัวทำไมยังพกได้ล่ะ ผมตอบไม่ได้ครับ...แหะๆ เลยทำตามท่านว่ามาตลอด เป็นเด็กเป็นเล็ก อย่างไปอวดรู้กับผู้ใหญ่ ท่านจะหมั่นไส้เอา...แหะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2008
  16. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
    ครั้งแรกผมไม่กล้าพกเบี้ยแก้ในกระเป๋ากางเกงครับ
    แต่เมื่อเห็นลุงพีแนะนำอย่างนี้ ผมก็กล้าแล้วครับ
    สาธุ
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295

    ถ้าตะขิดตะขวงใจแล้วใจมันวอก

    ก็แขวนเอวครับ เหน็บไว้ที่เอวก็ได้

    หรือแขวนคอไปเลยครับ ไม่หนักหรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2008
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2008
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    อ้าว พึ่งมาบอก พวกกัน น่าจะบอกก่อนซ่ะหน่อยครับ...แหะๆ โดยเฉพาะพิมพ์รูปเหมือน น่าติดตัวที่สุด เพราะหลวงพ่อชอบ ชอบว่าเป็นรูปเหมือนของท่านรุ่นแรก และทำเองที่วัดกับมือท่าน

    พระผงที่บอก หลวงพ่อแจกฟรีทั้งนั้นครับ โดยเฉพาะรูปเหมือน ท่านแจกไปเยอะมากด้วยความเมตตา

    ทางวัดคงได้แจกไปช่วยบูชาบำรุงวัดน่ะครับ ดีซ่ะอีก ได้บำรุงพระศาสนา

    ไม่เห็นมีพระนักธรรม คงหมดไปก่อนล่วงหน้าแล้วน่ะครับ...แหะๆ

    กาลเวลาจะพิสูจน์ ระหว่างของทำมาแจก กับ ของทำมาขาย ว่าของสิ่งไหนจะเป็นที่ต้องการ ให้เห็นว่าสัจจะธรรมของทานแห่งความเมตตาของหลวงพ่อในของที่แจกฟรีๆที่ไม่ต้องการเงินตอบแทน กับ ของจากการค้าขายโดยไม่ชัดเจนว่าเงินไปหยุดที่ไหน ว่าใครจะเที่ยงธรรมกว่ากัน และบุญไหนจะไปได้ไกลกว่ากันครับ

    ของฟรีที่ตอนแจก ไม่มีการโฆษณาเพราะหลวงพ่อแจกฟรี ในขณะของที่ทำขาย โฆษณากัน โครมๆ เป็นที่รู้จักกันไปทั่ว ทั้งในนิตยสารและในเว็บ แล้วแบ่งให้วัดหน่อยหนึ่ง หรือเอาตังค์วัดมาสร้างก่อนก็มี แล้วจองหรือขายใช้หนี้ หลังหลวงพ่อท่านล่ะไปแล้ว ผมถึงนำมาเขียนแข่งกับเขาบ้าง เพราะของใกล้หมดไปแล้ว อยากให้พวกที่นับถือหลวงพ่อจะได้ทราบว่ามีของฟรีๆแบบนี้ ทำให้พวกทำขายกลุ่มหนึ่งเดือนร้อน มากล่าวหาผมว่าเอาอะไรมาเขียน ของนี้อยู่ดีๆก็โผล่ขึ้นมา ถ้ามีอยู่จริง ทำไมไม่รู้มาก่อน ....แหะๆ ก็ไม่รู้พวกมันไปอยู่รูไหน ก็ออกจากรูมาพิสูจน์ก็ได้ครับ รออยู่ ...อิอิ ว่าของไหนจริง ของไหนเก็

    อันนี้ไม่รวมหลังท่านแจก แล้วคนอยากได้ แล้วมีคนได้ไปเอามาขายน่ะครับ เพราะคนล่ะเรื่องกัน กับดีซ่ะอีกที่หลวงพ่อล่ะสังขารไปแล้ว ยังมาช่วยสงเคราะห์เขาได้อีกครั้ง

    เขาขายไป ก็จะได้เงินไปเลี้ยงตัวเขากับครอบครัว คนได้ของไปก็เอาไปคุ้มตัว เพราะถ้าไม่อยากได้ เขาคงไม่ซื้อ หลวงพ่อท่านก็ได้อานิสงฆ์ทานอีกต่อ และมั่นใจว่า ของแจก จะกระจายไป ไม่ไปอยู่กับใครที เยอะๆ เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เพราะเขาทำไว้แจกคนล่ะ องค์สององค์ อาจจะมีเอาไปฝากเพื่อนบ้าง ญาติบ้าง ห้าองค์ สิบองค์ ท่านก็ให้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2008
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ตอนก่อนหลวงพ่อจะล่ะสังขารระยะหนึ่ง มีเรื่องวุ่นวายในวัดหลายเรื่องครับ มาทะเลาะ มาด่ากัน หน้าหลวงพ่อก็มี ท่านก็นั่งนิ่ง ( ใจคงปลง ) ไปสร้างหนี้ไว้ก็มี (เยอะ ) คนนอกต้องการเข้ามาบริหาร ลาภสักการะ ของที่วัดก็มี ( ท่านบ่นให้ฟัง ) จะเป็นผลประโยชน์ของคนใกล้ชิดต่างกลุ่ม และ คนพื้นที่ทั้งสิ้น และทุกคนต่างมีเหตุผลที่ดีของตัวเอง ที่จะสนับสนุนแนวคิดของตัว

    สังขารท่านจะเครียดหมองลง เห็นได้ชัดเชน ยกเว้นก่อนวันล่ะสังขาร สองสามวัน แต่สติท่านดีและนิ่งและรู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดอยู่ตลอด สมศักดิ์ศรี นักวิปัสสนา แต่ก็คงเบื่อหน่ายเต็มที บางทีท่านชอบหนีไปเที่ยวไกลๆ ถ้าผมเห็นท่านว่าง แล้วเอ่ยปากชวนล่ะก็ ท่านคว้าย่ามขึ้นรถไปทันที นั่งไขว่ห้างกระดิกหัวแม่เท้าสบายใจ ผมว่าถ้าท่านหนุ่มอยู่สักหน่อย คงแบกกลด หนีเข้าป่าไปแล้วครับ

    ในอดีตจำพ.ศ. ไม่ได้ครับ คุณแม่เล่าว่า พระอาจารย์ของคุณแม่ผม ท่านพ่อลี แห่งวัดอโศการาม ถ้าที่วัดมีเรื่องวุ่นวายมาก คุณหญิง คุณนายเยอะ เพราะท่านดัง ( ที่ไหนดังจะมีเรื่องวุ่นๆ เหมือนวัดหลวงพ่อทรงเหมือนกัน เพราะคนมันเยอะ ต่างจิต ต่างใจ )มีเรื่องเช่น เอาของมาถวายเช่นทุเรียน จะให้ฉันทันที มาแล้วจะให้ทำโน่น ทำนี่ ท่านรำคาญมากๆเข้า พออีกเช้าเห็นท่านคว้ากลด เดินหนีไปตามถนนสุขุมวิท ลูกศิษย์ไปตาม ท่านเดินหนี เข้าทุ่งนาหายไปเลย ที่วัดก็สั่งให้พระรองดูไป ส่วนท่านหายไปนานหลายเดือน พอสมควรแก่เวลาท่านก็กลับ ....แหะๆ ต้องแบบนี้ครับ พระปฏิบัติ ปฏิบัติชอบ

    หรืออาจจะเป็นบทสุดท้าย ของพระอริยะบุคคล เมื่อจะเข้าแดนวิสุทธิ์นั้น เศษกรรมต่างๆ ก็คงจะมารุมเร้าทุกทิศทาง ทั้งโรคร้ายเองก็รุมเร้า เพื่อทดสอบจิต ปราการด่านสุดท้าย ก่อนเข้าแดนเกษม ที่ท่านติดๆไว้ จะได้ ใช้เขาให้หมด เพราะเมื่อเข้าไปแล้ว จะหมดกิจ หมดหนี้สินกันซ่ะที ....นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...