แล้วเรา คือ อะไร?...../ใคร....?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 4 สิงหาคม 2009.

  1. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เอ้าแล้วทำไมคนฉลาดไม่แสดงความฉลาดออกมาละไอ้ฉลาด
     
  2. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เอาแบบฉลาดบริสุทธิ์นะฉลาดแบบโง่ๆก็ไม่เอา
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เอ็งคงไม่คิดว่า เด็กป 1 จะเห็นความฉลาดของ ปริญญาเอก ด้วยคำพูดของเขาได้หรอกมั้ง

    อย่างมากก็คาดเดาไป
     
  4. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อย่าเอาคำพูดเดิมๆมาใช้ มันซ้ำแล้วลุง ที่ผมถามก็รู้อยู่ว่าลุงไม่ตอบหรอกลุงก็บอกว่าไปปฏิบัติแล้วถ้าผมไม่ฟังแนวปฏิบัติหรืออาการจากลุงแล้วผมจะรู้ได้ไงว่ามันถูกหรือผิด เดี๋ยวมันก็เหมือนผมนั่งสมาธิแบบไอ้ตาบอดลักควายนะสิครับ
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ทุเรส จริงๆ ปฐมฌาณ ยังไม่กล้า ไม่อาจหาญที่จะพูด

    ตัวเองมีธรรมอะไรสักอย่างที่ชัดเจนเป็นผลทางใจ แล้วหรือยัง

    ถ้ามีแล้วมันจะไม่มีอาการแบบนี้ มันจะรู้ว่า ธรรมแต่ละอย่างเป็นอย่างไร

    ดังนั้น ถ้ายังไม่รู้ก็ให้ศึกษาต่อไป แล้วอย่ามาเถียงกับนายขันธ์อีก

    เพราะเอ็งยังมีเหตุผล อันตื้นเขินเกินไป
     
  6. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แล้วทำไมลุงไม่พูดละครับ ผมกำลังรอฟัง แต่คำสัปดนของลุงไม่เอาครับ
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เอ็งนี่เป็นคน พูดไม่รู้เรื่อง ทิฎฐิมานะนี่ให้มันเบาๆ ลงหน่อยนะ

    หัดฟังให้มากๆ หน่อย

    แล้วก็ย้อนกลับไปอ่านซะ ว่า ข้าถามเอ็ง ไม่ใช่ให้เอ็งถามข้า

    ว่า ปฐมฌาณ เป็นอย่างไร

    แต่ถ้าไม่กล้าตอบก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ต้องมาย้อนถาม เพราะว่า เรื่องปฐมฌาณ นี่ข้าพูดมาไม่รู้กี่รอบแล้ว
     
  8. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    ใจเย็น ๆ ครับ..คุณkengkenny..

    แต่ดู..วลีลุงแกแล้ว..ก็น่าโกรธอยู่หรอก..คุณโกรธหรือเปล่า..แต่ผมไม่..ก็มันไม่เกี่ยวกับผม..เพราะเราไม่อยากไปเกี่ยวมันมา..

    คุณกะ..จะเกี่ยวให้ลุงแกตอบ..แล้วใช้คำแก่ที่ตอบ..บีบคอแกหรืองัย..

    คุณกะ..ว่า..พุทธพจน์นี้ชัดเจนแล้ว..แกค้านไม่ได้แง่ม ๆ ..ตอบมา..ถูกบีบตายคามือคุณแน่ ๆ ..ว่างั้น..

    พอแกไม่มาตรงล็อดคุณ..ก็ไม่รู้จะไปเค้นคอตรงไหน..ละซิ

    แล้วทีนี้..คุณโกรธหรือเปล่า..แต่ผมไม่..ก็เพราะผมไม่เกี่ยว..
     
  9. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เอ้านึกว่าจะตอบครับ ถามผมอยู่หรอกหรือ ครับ
    ที่ผมรับรู้นะครับในปฐมฌาน หรือเปล่าไม่รู้เพราะไม่เคยระบุมันไปถึงไหนก้อไปครับ
    ผมภาวณา แบบกำหนดลมหายใจเข้าออก บริกรรมกำกับทุกอาการของการเข้าว่าพุท และออกว่า โธ ครับ ผมไม่รู้จริงๆว่าตรงไหนเป็นอารมณ์ของปฐมฌาน เพราะไม่เคยสังเกตุจึงได้ถามลุงไงครับ ตอนเริ่มก็ปกติคือ ลมหายใจที่รู้สึกนั้นชัดเจนเช่นเดียวกับคำบริกรรมภาวนา รู้การเคลื่อนที่ของกองลมตั้งแต่ปลายจมูกไปจนถึงสุดลิ้นปี่ครับ และทุกครั้งที่หายใจเข้าและออกคำบริกรรมไม่ขาดไม่เกินกำหนดลงพร้อมกันทุกการเคลื่อนที่ครับ คือ บางครั้งรับรู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นภายนอกก็มีแวปๆบ้างแต่ส่วนใหญ่ก็อยู่แค่ตรงนั้นลมหายใจและคำบริกรรมภาวนา ไปเรื่อยๆจน ความละเอียดของกองลมมันละเอียดมากจนแทบไม่รู้สึกพร้อมคำบริกรรม เดี้ยวหลุดดึงจับ ตลอดเวลา แต่ความละเอียดของกองลมที่จับอยู่นั้นละเอียดกว่าตอนแรกมากครับ เอาแค่นี้ก่อนครับยังมีไปอีกไกลครับ แนะนำมาได้เลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2009
  10. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ปรุงมากไปครับมันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ อกุศล ที่จะคิดเปล่าๆครับ ผมจะเอาอะไรไปบีบแกครับ มีสติ ครับ ต้องมีสติ พิจารณาอะไรต้อง พิจารณาให้จบครับอย่าพึ่งตัดสิน ผมก็ไม่เคยตัดสินใครอย่างนั้นครับ คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม เพราะผมไม่ใช่ นักปริยัติ แบบนั้นครับ และผมก็ไม่เคยโกรธลุงเค้าเลยสักครั้งเดียว เชื่อหรือไม่ก้แล้วแต่ นะครับ เอาไว้ให้ท่านได้บางอย่างแล้วเห็นวาระจิตผมท่านก้อจะเข้าใจว่า ทำไมผมต้องโกรธลุงด้วย ไม่มีเหตุผลเลยครับ อีกอย่างครับถ้าคุณ จีโอ สังเกตผมและการเจรจาของผมมาตั้งแต่ต้นหรือทุกๆครั้ง จะเห็นว่าผมไม่มักจะนำพุทธพจน์มากล่าวครับ อันนี้เพราะอะไรครับ ลอง โยนิโสมนสิการ ดูครับ ไม่เป็นไรนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2009
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    [​IMG]
    [music]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=15424[/music]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2009
  12. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ขอบคุณท่าน จี โอ ครับ ที่หวังดีเตือน สติครับ ขอบคุณครับ
     
  13. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    ผมจะเป็นไร้...

    ก็ผม..ไม่ได้ว่า..และ..ก็ไม่ได้คิด..นี้ครับ

    แต่ให้ดู..

    ดูแล้วไม่มีอะไร..ก็แล้วครับ..

    ก็อย่างว่าแหละ..ผมยังไม่ได้อะไร..ยังต้องเช็ก..ใจ..เรื่อย ๆ ..ทุกขณะ..

    ทุกการคิด..ทุกการพูด..ทุกการกระทำ..ว่าสิ่งเหล่านี้..กระพื่มออกจาก..อะไร..

    ออกจากโกรธ..หรือ..ออกจากโลภ..ส่วนจากความหลง..ยังจับไม่ทัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2009
  14. zeedhama

    zeedhama Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +48
    นิวรณ์ กับ ปฐมฌาน เป็นศัตรูกัน

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
    มีกล่าวไว้ว่า

    ไอ้นิวรณ์กับปฐมฌานเป็นศัตรูกัน
    ถ้าขณะใดอารมณ์ของนิวรณ์นิดหนึ่งอย่างใดอย่างหนึ่งมีขึ้นในจิต
    เวลานั้นกำลังของสมาธิจะสลายตัวทันที

    เวลาใดที่จิตระงับจากนิวรณ์ นิวรณ์ไม่ฟู สงบ
    เวลานั้นกำลังจิตสมาธิเป็นปฐมฌานทันทีเหมือนกัน
    โดยไม่ต้องภาวนา ไม่ต้องทำอะไรเลย

    ถ้านิวรณ์ไม่ฟูขึ้น ปฐมฌานก็เข้ามา
    ถ้านิวรณ์มา ปฐมฌานก็ไป
    แลกกันไปแลกกันมาอย่างนี้
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านคคห.ที่๖๕ครับ
    มีแต่คนเห็นจิต หาจิตจนเจอ ผมเป็นผู้น้อย ยังหาจิตไม่เจอ ยังหาอะไรที่มันเป็นเราเป็นของเราไม่ได้สักอย่างเดียว...(ก็มัวแต่คิดที่จะค้นหาจิตที่แท้จริง...ก็จะพบแต่อาการของจิตอยู่ร่ำไป/...เมื่อหยุดเป็นก็เห็นเหตุแห่งทุกข์ได้...ให้เพ่งรู้ต่อไป โดยไม่ต้องเที่ยววิ่งดูอาการของจิตเพื่อค้นหาจิต/...เมื่อหยุดที่เพ่งรู้อยู่ที่รู้เท่านั้น/...เมื่อนั้นธาตุรู้(จิต)ที่กำกับด้วยสติก็จะปรากฏให้รู้(จักทุกข์)..ให้เห็น(เหตุแห่งทุกข์)...สงบตั้งมั่นไม่หวั่นไหวต่อสิ่งที่ผ่านมา/ผ่านไป...ในขณะนั้นจิตก็อยู่ส่วนจิต/...ขันธ์๕ก็อยู่ส่วนขันธ์๕...รู้ปรากฏประจักษ์ขึ้นโดยไม่มีที่ต้องคิดสงสัย/...ผู้ที่ยังมีคิดสงสัยอยู่นั้น..ยังเข้าไม่ถึงหรอกครับ)

    ใครมีประสบการณ์มีภูมิธรรม ก็แสดงออก ให้ผู้น้อยได้ศึกษาหน่อยแล้วกัน...(ในพุทธวจนะและครูบาอาจารย์นั้น ท่านทั้งหลายเหล่านั้น สอนทั้งวิธีและประสบการณ์มามากจนตามอ่านไม่ไหว/...ท่านทั้งหลายเหล่านั้นต้องการเพียงเพื่อให้พวกเราลงมือปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนากันแบบจริงจังเสียที/...โดยเอาชีวิตเข้าแลกเลยครับ...)

    เจริญธรรม
    เจริญในธรรมเช่นกัน..

    ;aa24
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านคคห.ที่๖๗ครับ
    เห็นแต่ทิฏฐิ กับอาการจิต ส่วนจิตยังไม่เคยเห็นได้ข่าวว่าอวิชชาเขาเอาไปซ่อนไว้
    เราเองก็ไม่เคยเห็นจิต เหมือนกัน...(เมื่อเห็นทิฐิ/เห็นอาการของจิตได้...ย่อมทวนกลับมาดูผู้รู้(จักทุกข์)..ผู้เห็น(เหตุแห่งทุกข์)ซะ โดยหยุดพฤติแห่งจิตที่ปรุงกิเลส/..หรือกิเลสปรุงจิต...เมื่อจิตที่มีสติกำกับย่อมกดอวิชชาไว้ได้ชั่วคราว/...เรา(จิต)ก็จะประจักษ์ขึ้นมาให้รู้ ให้เห็นแจ่มชัดครับ)

    ได้ยินมาว่า ใครได้เคยเห็นจิตที่เป็นธรรมธาตุที่หลุดพ้นจากอวิชชา
    แม้เพียงหนึ่งขณะจิตก็คือได้เห็นพระนิพพาน บรรลุเป็นพระโสดาบัน
    จริงไหมใครรู้ช่วยบอกหน่อย...(เพียงแค่รู้(จักทุกข์) แค่เห็น(เหตุแห่งทุกข์)เป็นครั้งคราว ยังไม่จัดว่าบรรลุถึงหรอก/..เป็นแค่รู้ทางที่ถูก เห็นทางที่ถูกเท่านั้น/..ทำให้เกิดความมั่นใจเต็มส่วน...โดยไม่ลังเลที่เดินไปตามทางนั้น)

    ;aa24
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เล็งเห็นมโนว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา

    ท่านคคห.ที่๗๓ครับ ท่านท่านยกมานั้น ผมขออนุโมทนานะครับ
    แต่ว่า!!! ท่านควรบอกที่มาที่ไปให้ชัดเขนด้วยครับ
    สืบเนื่องจาก..เมื่อเทียบลงกับพระสูตร(สุตะ)และที่มาในแหล่งอื่นแล้ว
    เช่นในหนังสือสวดมนต์แปลของ พระศาสนโศภน แห่งวัดมกุฏกษัตริยารามแล้ว
    แหล่งที่กล่าวถึงอนัตตสัญญามาทั้งหมดนั้น ไม่ได้พูดถึงจิตนะครับ
    ...เป็นการกล่าวถึงอายตนะภายใน๖และภายนอก๖ที่ก่อให้เกิดวิญญาณ๖เท่านั้น
    ที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตนของเรา

    ดังที่ผมจะยกพระบาลีในเหตุแห่งทิฐิ๖
    (ว่าด้วยอายตนะภายใน๖และภายนอก๖)มาเทียบเคียงให้พิจารณาดูครับ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งทิฏฐิ ๖ ประการเหล่านี้. ๖ ประการ เป็นไฉน?
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนในโลกนี้ ผู้ไม่ได้สดับ ไม่เห็นพระอริยะทั้งหลาย
    ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยะ ไม่ได้รับแนะนำในธรรมของพระอริยะ
    ไม่เห็นสัตบุรุษ ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไม่ได้รับแนะนำแล้วในธรรมของสัตบุรุษ

    ย่อมพิจารณาเห็นรูปว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นอัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นอัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณาเห็นสัญญาว่า นั่นของเรา เราเป็นนั้น นั่นเป็นอัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณาเห็นสังขารทั้งหลายว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นอัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณาเห็นรูปที่เห็นแล้ว เสียงที่ฟังแล้ว กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่ทราบแล้ว
    อารมณ์ที่รู้แจ้งแล้ว ถึงแล้ว แสวงหาแล้ว ใคร่ครวญแล้วด้วยใจว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั้นเป็นอัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณาเห็นเหตุแห่งทิฏฐิว่า นั้นโลก นั้นอัตตาในปรโลก
    เรานั่นจักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืนคงที่ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
    จักตั้งอยู่เสมอด้วยความเที่ยงอย่างนั้นว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นอัตตาของเรา.

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนอริยสาวกผู้สดับแล้ว ผู้เห็นพระอริยะทั้งหลาย
    ฉลาดในธรรมของพระอริยะ ได้รับแนะนำดีแล้วในธรรมของพระอริยะ
    เห็นสัตบุรุษ ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ได้รับแนะนำดีแล้วในธรรมของสัตบุรุษ
    ย่อมพิจารณาเห็นรูปว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณา เห็นเวทนาว่านั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณาเห็นสัญญาว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณาเห็นสังขารทั้งหลายว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา
    ย่อมพิจารณาเห็นรูปที่เห็นแล้ว เสียงที่ฟังแล้วกลิ่น รส โผฏฐัพพะที่ทราบแล้ว
    อารมณ์ที่รู้แจ้งแล้ว ถึงแล้ว แสวงหาแล้ว ใคร่ครวญแล้วแล้วด้วยใจว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา

    ย่อมพิจารณาเห็นเหตุแห่งทิฏฐิว่า นั่นโลก นั่นตน ในปรโลก
    เรานั้นจักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน คงที่ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
    จักตั้งอยู่เสมอด้วยความเที่ยงอย่างนั้นว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่นนั่นไม่ใช่อัตตาของเรา
    พระอริยสาวกนั้นพิจารณาอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่สะดุ้ง ในเพราะสิ่งที่ไม่มีอยู่.

    และพระบาลีที่มาใน๖. ฉฉักกสูตร (๑๔๘)...ดังนี้

    [๘๒๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิปทาอันให้ถึงความดับสักกายะ ดังต่อ
    ไปนี้แล
    บุคคลเล็งเห็นจักษุว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นรูปว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นจักษุวิญญาณว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นจักษุสัมผัสว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา

    เล็งเห็นเวทนาว่า นั่นไม่ใช่ของเราไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นตัณหาว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นโสตะว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ...
    เล็งเห็นฆานะว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ...
    เล็งเห็นชิวหาว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ...
    เล็งเห็นกายว่า นั่นไม่ใช่ของเรา...
    เล็งเห็นมโนว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นธรรมารมณ์ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นมโนวิญญาณว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นมโนสัมผัสว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นเวทนาว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา
    เล็งเห็นตัณหาว่า นั่นไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา ฯ

    \พระไตรปิฎก\พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ - พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๖...ฉฉักกสูตร

    ;aa24
     
  18. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    พี่ธรรมภูต รู้จักหลวงปู่มั่นไหมครับ หลวงปู่มั่นเป็นพระอรหันต์ใช่ไหมครับ และหลวงปู่จันทร์ แห่งวัดบรมนิวาส รู้จักไหมครับ เป็นพระอรหันต์ใช่ไหมครับ และเจ้าคุณโฮม แห่งวัดสระปทุมหรือวัดปทุมวนาราม เป็นพระอรหันต์ใช่ไหมครับ ผมได้ความรู้เรื่องการทำสมาธิมาจากที่วัดสระปทุมครับ พระที่เป็นพระอาจารย์ผมมีหลายรูปครับแต่ล้วนอยู่ที่วัดสระปทุมทั้งหมดครับ ผมเกิดที่วัดสระปทุม(หลังวัดนี่แหละ)เคยเห็นเคยพบพระสุปฏิปันโนหลายรูปในวัยเด็กแต่ไม่รู้จัก เพราะความเยาว์วัยแต่ตอนนี้ผมระลึกได้แล้วว่าที่แท้หลวงปู่หลวงพ่อท่านก็เคยไปที่วัดสระปทุม ตั้งแต่ก่อนผมเกิดจนถึงตอนผมเกิดแล้วจนโตก็มี ครับ คำสอนนั้นเป็นของหลวงปู่จันทร์ ครับ และท่านก็เป็นสหธรรมมิกของหลวงปู่มั่นครับ แล้วท่านพี่ธรรมภูตรู้จักไหมครับวัดสระปทุม ตอนนี้ก็มีหลวงพ่อถาวร เป็นพระเถรด้านวิปัสสนา ผมก็เคยร่วมบุญสร้างสถานปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์ท่านนี้ในวัยเด็ก เช่นเดียวกันกับชาวชุมชนหลังวัดสระปทุมทุกผู้ทุกคนในเวลานั้น สมัยก่อนยังไม่มีอะไรต่างคนช่วยกันลงแรงขนทรายและอิฐหนอนมาช่วยกันปู แต่ทุกวันนี้ผมย้ายจากที่นั้นแล้วแต่ผมก็ไปวัดนี้ทุกครั้งที่คิดถึงอดีต ไปนั่งสมาธิครับ ที่ผมถามก็เพราะอยากจะบอกว่าพระอรหันต์เขาไม่มุสาเพื่อทำให้ตนดูดีกว่าผู้อื่นครับ แต่ถ้าหากคิดว่าหลวงปู่จันทร์ท่านไม่ได้เป็นพระอรหันต์ก็สุดแล้วแต่ แต่ถึงยังไงท่านก็เป็นพระผู้มีศีลบริสุทธิ์ ดังนั้น การเชื่อถ้าไม่มีปัญญาไตร่ตรองได้เองนั้น ก็ต้องเลือกที่จะเชื่อครับ ผมจึงไม่เชื่อในคำกล่าว ของพี่ ครับ ถ้ายังเห็นความเป็นอัตตา ตัวตนอยู่ คิดว่าเป็นของตนอยู่ ทางสายผมเรียกว่ายังไม่บรรลุธรรมนั้นครับ ยังไม่เสร็จกิจ และเรียกไม่เห็นธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2009
  19. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    [​IMG]

    หลวงตาพระมหาบัว กล่าวถึงหลวงปู่มั่นกับท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ

    หลวง ปู่มั่น เคารพท่านมากนะ เคารพท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ พูดคำไหนๆ แย็บออก รู้ทันที ท่านพูดด้วยความเคารพเลื่อมใส ด้วยความเทิดทูนจริงๆ คือท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ท่านหนักทั้งปฏิบัติด้วย ทั้งปริยัติด้วย ท่านเป็นแบบฉบับได้ เฉพาะอย่างยิ่งทางด้านปริยัตินำกัมมัฏฐาน คือ หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์

    [​IMG]
    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

    จาก “สังฆรัตนะ” โดย หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

    ____________________________________
    ขอเชิญพิมพ์หนังสือประวัติและธรรมะหลวงปู่เหรียญ
    เพื่อแจกในงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่

    เผื่อพี่ธรรมฑูต ไม่รู้จักครับ
     
  20. worathepj

    worathepj Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +71
    อาจารย์ผมสอนว่า "ธรรมะพระพุทธเจ้าตัดก็ขาด ต่อก็เกิน ท่านสอนมาพอดีแล้วเป็นมัฌชิมปฏิปทา แล้ว" ขอสรุปง่าย ๆ ผมไม่ชอบเข้าใจอะไรให้มันยาก
    เราคือจิต (มีสภาพจำ และ รู้)
    ที่ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเราคือ ขันธ์ 5 (แยกเอาเอง) รวมถึงสรรพวัตถุในโลกทั้งหมด
    สมบัติของเราคือ กรรม และ จิตที่ได้ฝึกมาดีแล้ว(อริยะทรัพย์เท่านั้นนะ มรรค 4 ผล 4)ส่วนนิพพานถ้าถึงผลที่ 4 สุดท้ายก็จะถึงเอง ยกเว้นได้โสดาบันและมีทิพจักขุญานจะรู้จักนิพพาน ผมไม่อธิบายเพราะไม่ถึง
    ปล. คำแนะนำสำหรับผู้ปฏิบัติทุกท่าน หากท่านกำลังคิดว่า นรกสวรรค์ไม่มี หรืออยู่ในอก ในใจ ไม่เชื่อเรื่องภพชาติ หรื อเวรกรรม หมายหัวได้เลยว่ากำลังรู้มากกว่าพระพุทธเจ้า
    โพสต์มานี่เพราะ ผมสังเกตุมาหลายท่านเมาตำรากันจัง แถมเมาผิดตำราด้วย พระไตรปิฏกมีหัดเอามาศึกษาดูบ้างครับ ไม่ได้เหน็บแนมใคร แต่ไม่อยากให้คนที่ไม่รู้เรื่องจริง ๆ หลงเป็นมิจฉาทิฐิแต่เริ่มต้น เพราะผิดแต่เริ่มนี่มันจะผิดไปตลอด จำไว้อย่างเก่งหรือรู้เกินกว่าพระพุทธเจ้า พวกนิพพานสูญอ่ะ ลงนรกไปเยอะแล้ว สูญของท่านหมายถึงสูญจากกิเลส ที่เหลือค้นคว้าเอาเองครับ ..... มีบางคนไม่พอใจผมโพสต์ ไม่แปลก เพราะเห็นไม่ตรงกับท่าน ผมไม่สนใจครับ แค่ผมเห็นตรงตามพระพุทธเจ้าสอนก็พอแล้วเวลาผมลงนรกคนพวกนี้ไม่ได้ลงไปช่วยผมนี่หว่า ...(ฮาร์ดคอร์ไปหน่อย อภัยด้วย)
     

แชร์หน้านี้

Loading...