ใครชอบตะกรุดเชิญทางนี้ครับ

งามมากครับ ^^ ยินดีที่เข้ามาเยี่ยมเยียนนะครับ ^^

 

ผมพลาดไปซะแล้ว รู้สึกว่าจะอยู่ใกล้วัดศาลาปูนรึเปล่าครับ ผมผ่านไปหลายครั้งไม่เคยทราบเลยครับ

 

ผมเพิ่งเริ่มสนใจเก็บตะกรุด มาเมื่อต้นปีนี้เองครับ ขอความรู้นิดนึงครับ ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่
ผมอยากทราบว่าสายวิชาตะกรุดที่มีชื่อเสียงมีกี่สายหรอครับ แบ่งเป็นภูมิภาคเลยได้ไหมครับ

 

ไปมานานแล้วน่ะครับ แต่อยู่ใกล้กันครับ วัตถุมงคลท่านใช้ได้ผลจริง เมตตาดีแน่ ตามแผนที่นะครับชัวร์ *-*
https://www.google.co.th/#hl=th&output=search&sclient=psy-ab&q=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C&oq=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C&gs_l=hp.3...2469.2469.0.4250.1.1.0.0.0.0.172.172.0j1.1.0...0.0...1c.ZOB3xxkHpVs&pbx=1&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_qf.&fp=ddd490a8592615ff&bpcl=35466521&biw=1366&bih=571

 

สวัสดียามเย็นครับทุกท่าน
วันนี้ผมเอาตะกรุดมหาระงับพิสดารของ หลวงพ่อเหลือ วัดขอนชะโงก จ.สระบุรี
มาให้ชมกันอีก
ดอกนี้เป็นตะกรุดขนาด 5 นิ้วครึ่ง ขนาดกำลังดีพอกผงมหาระงับ ถักเชือกลายจรเข้ขบฟัน
สวยงามเข้มขลังมากๆครับ หลวงพ่อท่านทำเองทุกขั้นตอน

ก่อนลากลับได้สนทนากับหลวงพ่อ ท่านว่าการจะจารได้แต่ดอกหนึ่งนั้นก็ต้องดูฤกษ์ยาม
ตั้งแต่การตีตาราง ก็ต้องบริกรรมคาถาเป็นจุดๆ ละเอียดสุดๆ ไม่ได้จารเขียนไปเรื่อยๆ นับว่าสมกับที่รอคอยจริงๆครับ ^^

 

โชว์อีกชุดครับ
ตะกรุดรัตนมาลา หลวงพ่อเหลือ วัดขอนชะโงก จ.สระบุรี

 

สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน วันนี้ผมเอาตะกรุดสัมพุทเธปราบหงษา
ของหลวงพ่อเหลือ วัดขอนชะโงก จ.สระบุรี มาให้ได้ชมกันอีก
ตะกรุดดอกนี้เป็นตะกรุดไตรมาส 55 สร้างเพียงไม่กี่ดอกเท่านั้นครับ

 

สวัสดีค่ะ
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาไปทัวร์บุญมาค่ะ..
วัดห้วยเงาะ ปัตตานี กราบหลวงปู่เขียวค่ะ...
ท่านเมตตามาก ได้รับพรและหลวงปู่พรหมน้ำมนต์ให้ค่ะ ก่อนกลับ
ท่านมอบวัตถุมงคลให้ค่ะ เป็นตะกรุด หนุมาน 108
ซึ่งตระกูล ไทยรุ่งเรือง สร้างถวาย
ช่วงนั้นมีหน่วยทหาร เข้ากราบหลวงปู่ ด้วยค่ะ (ซึ่งมาประจำการดูแลความปลอดภัยผลัดเปลี่ยนกำลังพล) ท่านมอบดอกเล็กให้ทหารบอกว่า (วันนี้ห้ามใช้ก่อน)ให้ใช้วันรุ่งขึ้น
นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย หลวงปู่เขียวท่านเมตตามากค่ะ เลยได้รับมาอีก 1 ดอกเล็กด้วย
(ดอกนี้ต้องนำเลี่ยมพกติดตัวเวลาเดินทางพื้นที่เสี่ยง):d
รับจากมือหลวงปู่เขียว....

 

แขวนเอวเดี่ยวอยู่ครับ ดอกเดียวจบครบถ้วนกระบวนความ



ตะกรุดหนังเสือหลวงพ่อทบยุคต้น ปี พ.ศ. 2500 มีหนังเสือ แผ่นอลูมิเนียม แผ่นทองแดง ขนาดยาว 5 นิ้ว กว้างเกือบ 1 นิ้วครับ

ตะกรุดหลวงพ่อทบแบ่งเป็น 3 ยุค คือยุคต้นสร้างก่อนปี - 2500
ยุคกลางสร้างปี 2501 - 2509 และยุคปลายสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 - 2519





ภาพขนเสือที่ทะลุเชือกถักตะกรุด




ตะกรุดหนังเสือหลวงพ่อทบ มีแผ่นอลูมิเนียม และไส้ทองแดง



ตะกรุดหนังเสือหลวงพ่อทบ ตะกรุดไส้ทองแดง พันด้วยหนังเสือดอกนี้ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2500 เป็นตะกรุดจากหนังเสือที่พรานคล้อย พรานป่าบ้านวังโป่ง ได้นำหนังเสือโคร่งที่ยิงได้พร้อมทั้งลูกหมีอีก 2 ตัวเอาไปฝากกับท่านขุนรัตนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ในขณะนั้นท่านขุนจึงได้มอบหนังเสือโคร่งผืนนี้ให้กับท่านปลัดวิโรจน์ พรหมประเสริฐ เพื่อนำไปถวายให้กับหลวงพ่อทบ โดยให้หลวงพ่อเป็นธุระทำเป็นตะกรุดให้หลวงพ่อทบท่านจึงลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกให้อย่างเข้มขลังที่สุด โดยสร้างได้หลายสิบดอกด้วยกัน

จากนั้นจึงได้นำมาให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแจกให้กับหัวหน้าส่วนราชการต่างๆในจังหวัดเพชรบูรณ์ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ ผู้บังคับการตำรวจ ผู้บัญชาการทหารในจังหวัดเพชรบูรณ์ ฯลฯ เพื่อไว้คุ้มครองตัวจากโจรผู้ร้าย และผู้ก่อการร้ายซึ่งกำลังทำการปราบปรามอย่างแข็งขัน โดยเพื่อให้นอกจากคุ้มครองตัวแล้วยังมีจุดประสงค์เพื่อให้มีตบะเดชะมหาอำนาจในการสั่งการลูกน้องที่ร่วมงาน






แผ่นอลูมิเนียมดีอย่างไร


ตะกรุดโลกธาตุหรือตะกรุดดับธาตุไฟ เป็นตะกรุดที่ใช้แผ่นอลูมิเนียมหม้อไฟที่ใช้ในพิธีฌาปนกิจศพของคนสมัยก่อน หม้ออลูมิเนียมจะใส่ถ่านไฟนำหน้าศพและจะมีพิธีดับไฟนรก เมื่อเวลาทำพิธีเสร็จแล้วหม้ออลูมิเนียมก็ยังคงทิ้งไว้ที่ป่าช้าตามเดิม หลวงพ่อทบท่านเล็งเห็นถึงความสำคัญของหม้ออลูมิเนียม ท่านจึงให้ลูกศิษย์นำมาตัดเป็นชิ้นๆเพื่อสร้างเป็นตะกรุด หรือ ชาวบ้านที่ทราบถึงพุทธคุณของตะกรุดนี้ก็จะไปหามาให้หลวงพ่อท่านทำตะกรุดให้(ถึงขนาดต้องแย่งกับพวกทำลูกโป่งสวรรค์เลยครับ) ตะกรุดโลกธาตุหรือตะกรุดดับธาตุไฟ เมื่อธาตุไฟถูกดับเสียแล้ว ปืนไฟก็ไม่สามารถทำงานได้ เรื่องมหาอุด ชะงัดนักแล ของดีที่ไม่ควรมองข้าม

ดังนั้นตะกรุดหนังเสือดอกนี้จึงมีครบทั้ง หนังเสือมหาอำนาจ ตบะเดชะ แผ่นอลูมิเนียมโลกธาตุหรือดับธาตุไฟ และเมตตา มหานิยมจากแผ่นทองแดงครับ

 

ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน หนังสือพระเล่มที่ 3 ที่พี่ชายคนโตมาให้อ่านคือ ประวัติหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ที่คุณสุธน ศรีหิรัญเขียน ทำให้ไปทำบุญที่วัดกลางบางแก้ว รวมทั้งไปเจอในงานเผาหลวงปู่เพิ่ม และไปหาท่านที่กระทรวงมหาดไทยได้รูปหล่อท่านอาจารย์นำ และเหรียญหลวงปู่คลิ้งภปร.มาด้วยแต่พี่ชายขอเรียบ และความใฝ่ฝันเลยคือตะกรุดหน้าผากเสือ เพราะอ่านแล้วเยี่ยมสุดๆ ทำได้องค์เดียวคือหลวงปู่บุญ คุณสุธน เคยนำหน้าผากเสือไปให้หลวงปู่เพิ่มเพื่อเสก ให้หลวงปู่เพิ่มไม่เสกให้บอกว่า ไม่มีตบะ เหมือนหลวงปู่ใหญ่(หลวงปู่บุญ) ขนาดหลวงปู่เพิ่มได้เรียนวิชาจากหลวงปู่บุญทุกอย่างและได้สืบสานการสร้างแทบจะทุกอย่าง ทั้งยาจินดามณี เบี้ยแก้ ตะกรุด ขมิ้นเสก ผงจินดามณี แต่ยังไม่ยอมทำตะกรุดหน้าผากเสือ ย่อมแสดงว่าตะกรุดหน้าผากเสือของหลวงปู่บุญสุดยอดจริงๆ

รวมทั้งถามคุณสุธน ว่าจริงไหมที่หลวงปู่เพิ่มไม่ยอมเสกตะกรุดหน้าผากเสือ คุณสุธนบอกว่าจริง เหตุผลเพราะ เสือเป็นสัตว์ที่มีตบะและส่วนมากจะตายโหง วิญญาณจะยังอาฆาตพยาบาท ดังนั้นผู้นำหนังเสือมาทำต้องมีตบะ ข่มวิญญาณเสือให้ยอมรับกฏแห่งกรรม และรับความเมตตากรุณาจากอาจารย์ผู้เสก โดยอาจารย์ผู้เสกจะแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลผลบุญและผลสมาธิภาวนา ทำให้เค้าไปเกิดภพภูมิที่ดีเลิกอาฆาตพยาบาทยอมรับกฏแห่งกรรม และยังอวยพร อวยชัยให้ผู้สวมใส่ตะกรุดนั้นๆ ด้วย ซึ่งหลวงปู่เพิ่มท่านบอกว่าท่านไม่มีตบะเหมือนหลวงปู่ใหญ่ครับ คุณสุธนกล่าว

เหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงต้องจัดหากันหน่อย แต่ดูไม่เป็น เลยยอมแบบมีใบประกาศรางวัล ไม่ได้ตั้งใจหาแบบที่ 1 ครับแต่เลือกไม่ได้เพราะหาทางกูเกิลก็มีแต่ติดรางวัลที่ 1 เลยยอมอดค่าขนม หยุดบูชาพระซักหลายเดือนหน่อยครับ เฮ้อ!!!!



ตะกรุดหน้าผากเสือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ขนาดยาว สองนิ้วครึ่ง ถักเชือกคลุมหัวท้ายลงรักแดง





ภาพการถักเชือกมีรอยห่างของเชือกทำให้เห็นหนังเสือและขนเสือตามลูกศรที่ชี้




ขนเสือทะลุเชือกที่ถักออกมาครับ

 

สุดยอดครับผม
นานนานมาที สมใจเลยครับ เต็มอิ่มจริงจริง บ่ทันว่างถ่ายรูปอวดครับผม
ขอเป็นผู้ชมก่อนละกันครับ

 

สุดยอดเลยครับ แต่ล่ะดอกเห็นแล้วตาลุกวาวเลย (ping-love

 

อนุโมทนาบุญด้วยคนนะครับ อยากไปกราบหลวงพ่อสักทีเหมือนกัน ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลย ตะกรุดดูสวยมากๆครับ

 

สวัสดียามเช้า วันนี้ผมเอาตะกรุดที่ไม่ค่อยได้พบเห็นเท่าไหร่มาให้ชมกัน
ตะกรุดดอกนี้คือ "ตะกรุดกันกระทำ" ของหลวงพ่อเหลือ วัดขอนชะโงก จ.สระบุรี

พุทธคุณก็ไปตามชื่อเลยครับ คือ กันกระทำคุณไสย คุณอะไรที่ไม่ดี แนวเดียวกับเบี้ยแก้
แต่เป็นตะกรุดครับ

 

แค่จะมาร่วมแจมด้วยนะครับ..ที่พอมีอยู่

 

แต่ละดอกงาม ๆ ทั้งนั้นครับ

 

สอบถามพี่ๆด้วยครับ ผมได้ตระกรุดมาดอกหนึ่งเจ้าของเป็นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเขาบอกว่าเป็นตระกรุด อาจารย์ตั๊ว วัดซับลำใยเป็นคนสร้างและเสก แล้วไปขอบารมีหลวงปู่หมุ่นช่วยเสกด้วย ได้มาก่อนที่อาจารย์ตั๊วจะออกวัตถุมงคลในนามหลวงปู่หมุนครับ อยากทราบว่าตระกรุดอะไรครับยาว 4 นิ้ว

 

ตะกรุดเก่า ๓.๕ นิ้ว เนื้อทองเหลือง สายพิจิตร วัดท่าฬ่อ

เห็นตัว "ร-ร"(อะ สวย ชอบ) ช่วงนั้นตังค์ไม่มีเลย ได้อธิษฐานบอกหลวงปู่ไว้

พอดีมีสถานการณ์บ้างอย่างคลาดเคลื่อน เลยได้ไว้

 

ปฐมนาม ปฐมบท แห่งตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อโพธิ์ จ.พิจิตร

" ตะกรุดอยู่ คนอยู่" แคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยอันตรายต่างๆ ทั้งปวง

ตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า จ.พิจิตร ยาว 5 นิ้ว กว้าง 1 นิ้ว หนัก 9 ขีด(หนักจริงๆ)









ตะกรุดดอกนี้ เป็นตะกั่ว มีแกนเป็นตะกรุดทองแดง อยู่เป็นไส้กลาง เนื้อตะกั่วกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน ขึ้นไข หุ้มด้วยจีวรหรือผ้ายันต์ ลงยางไม้ กระเทาะบางส่วนทำให้เห็นรอยจารด้านนอกตะกรุดด้วยครับ

ประวัติหลวงพ่อโพธิ์ วัดโพธิ์ศรี (วัดวังหมาเน่า) หลวงพ่อโพธิ์เกิดที่จ.ปทุมธานี ในรัชสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช และอุปสมบทที่วัดบางหลวงใน จ.ปทุมธานี แต่ด้วยท่านชอบความสงบวิเวก จึงได้ธุดงค์ขึ้นเหนือจนมาถึงบ้านวังหมาเน่า พิจารณาเห็นว่าเงียบสงบดี จึงสร้างกุฏิเล็กๆไว้ปฏิบัติธรรม เล่ากันว่าเวลามีไฟป่าไหม้มาใกล้กุฏิ หลวงพ่อจะนั่งมองเฉยไม่ลุกหนีไปไหน แต่ไฟป่ากลับดับไปเองไม่สามารถเข้าใกล้กุฏิได้ แม้ในปัจจุบันหากเกิดไฟไหม้ ชาวบ้านเพียงนึกถึงท่าน ก็มักจะมีลมมาพัดไฟให้เปลี่ยนทิศทางไปอย่างอัศจรรย์อยู่เสมอหลวงพ่อโพธิ์ยังเป็นต้นตำรับของ“ตะกรุดคู่ชีวิต” สุดยอดตะกรุดในตำนานที่มีประสบการณ์ลือลั่น ชาวบ้านถูกจระเข้กัดกระชากลงน้ำ ก็ยังทำอะไรผู้แขวนตะกรุดของท่านไม่ได้ ซึ่งยอดพระเกจิอาจารย์เมืองพิจิตร หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน มากราบเรียนวิชาไปจากท่าน หลวงพ่อโพธิ์ได้มุ่งปฏิบัติธรรมเรื่อยมาจนถึงกาลมรณภาพประมาณก่อนพ.ศ.2440 สิริรวมอายุได้ 102 ปี

หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า นั้น เป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าแก่มาก ค้นประวัติไม่เจอ สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดในยุครัตนโกสินทร์ ตอนต้น ๆ จากคำกล่าวขานคนรุ่นเก่าๆ เล่าต่อๆ มากันว่า หลวงพ่อโพธิ์ท่านเป็นพระมอญ เดินธุดงค์ มาจากเมืองปทุมธานี บุคลิกท่านเป็นพระสันโดษ ชอบอยู่องค์เดียว ชอบวิปัสสนากรรมฐาน ในสำนักสงฆ์ที่ท่านสร้างเอาไว้เล็ก ๆ มีลูกศิษย์มาเรียนวิชาอาคมกับท่านอยู่ด้วยกันหลายองค์ รวมทั้ง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ด้วย เล่ากันว่า หลวงพ่อโพธิ์นั้น ท่านก็ได้สร้างตะกรุดไว้ไม่มากนัก ส่วนมากจะมีขนาดค่อนข้างเขื่อง คือ มีขนาดความยาวตั้งแต่ ๔ นิ้ว จนถึงขนาด ๙ นิ้ว เท่าที่พบเจอตะกรุดของท่าน มักจะอยู่ในสภาพสวยสมบูรณ์เป็นส่วนมาก อาจเนื่องจากมีขนาดค่อนข้างใหญ่ไม่เหมาะสำหรับพกพา จึงเก็บบูชาบนหิ้งกันมากกว่า

ตะกรุดของท่านจะสร้างก็ต่อเมื่อมีผู้ขอให้ท่านสร้าง ผู้ขอต้องหาวัสดุไปให้ท่าน วัสดุในการสร้างตะกรุดนั้น หลักๆ ได้แก่ แผ่นตะกั่ว และทองแดง เอกลักษณ์ตะกรุดของหลวงพ่อโพธิ์ จะทำจากเนื้อตะกั่ว ซึ่งมีขนาดค่อนข้างเขื่อง แล้วใช้ตะกรุดอีกดอกหนึ่งซึ่งทำจากโลหะเนื้อทองแดงม้วนใส่ไปตรงแกนกลางอีกชั้นหนึ่ง ไม่ทราบว่าท่านทำแบบนี้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของตะกรุด หรือ หลวงพ่อท่านต้องการเพิ่มคาถาอาคมให้มากขึ้นหรือเปล่า

ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโพธิ์จะไม่เป็นรองผู้ใดในแผ่นดินสยาม
ยันต์พระเจ้าห้ามอาวุธหลวงพ่อโพธิ์ คาถาที่ลงในตารางทั้ง ๔ มุมเขียนไว้ว่า
อะสิสัตติธะนูเจวะ
สัพเพเตอาวุธานิจะ
ภัคคะภัคคาวิจุณณานิ
โลมังมาเมนะผุสสันติ
เป็นคาถาตอนพระพุทธเจ้าถูกนายขมังธนูที่พระเจ้าอชาติศัตรูส่งมารอบยิงแต่ด้วยพุทธบารมีปรากฏว่านายขมังธนูไม่สามารถง้างธนูยิงได้ จนได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าและยอมรับพระไตรสรณาคมในที่สุด

ลองเลี่ยมพลาสติกและแขวนดู รวมพลาสติกด้วยชั่ง ได้ 10 ขีด(หนักเอาการแต่แขวนไปๆ ก็เริ่มชินเหมือนกันครับ)

 

เพิ่งเช่ามา ครับ ไม่รู้ว่าที่ไหนแต่ ชอบครับ ยาว 7 นิ้วซื้อวัดดวงครับ