“ เขื่อนแตก ผู้นำตาย สงครามโลก !! ” คำเตือน เพื่อนนอกโลก (เทพพนม เมืองแมน)

อันที่จริงแล้วยังไม่เคยมีภาพยนต์เรื่องไหนกล้าสร้างเกี่ยวกับการเปิดเผยตัวตนของมนุษย์ต่างดาวอย่างแท้จริง

เพราะอะไรรู้ป่าว??


ถ้าวันหนึ่ง มนุษย์ต่างดาวเกิดเอายานบินแบนๆมาโชว์จริงๆ แบบโชว์ออกสื่อทีวีเลยอ่ะ และถ้ามีการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โลกจริงๆโดยเป็นการติดต่อแบบเป็นทางการ เช่น กับ UN หรือกับผู้นำประเทศหนึ่งๆแบบให้เห็นได้ ออกสื่อได้

รู้ไหมว่าอะไรจะตามมา ??

1. มนุษย์โลกจะรีบเข้าไปตีซี๊กับมนุษย์ต่างดาว และเล่นเกมส์ ถาม-ตอบ กับเขา

มนุษย์เรามีความสงสัยมายาวนานว่า จักรวาลคืออะไร มนุษย์คืออะไร มีเป้าหมายสูงสุดของชีวิตอยู่ที่ไหน (ชาวพุทธก็คงได้คำตอบแล้ว แต่คนที่ไม่ใช่พุทธเขายังสงสัยอยู่ ยังมีคำถามอยู่) เขาจะเริ่มถามมนุษย์ต่างดาวว่า ใช้เทคโนโลยีอะไร หายใจยังไง มีระบบชีวภาพของร่างกายอย่างไร ทำไมเดินทางมาที่โลกเราได้?

2. โลกนี้จะวุ่นวายมากๆ แค่มนุษย์ต่างดาวบอกว่า ดาวของเขาไม่มีเงิน ผู้คนอยู่กันตามอัธยาศัย มีการคิดค้นวิจัยทั้งพลังจิตและวิทยาศาสตร์ควบคู่กันไป

คำพูดของมนุษย์ต่างดาวไม่กี่คำ จะเปลี่ยนคนทั้งโลกไปเลย.. เขาจะหันไปบูชามนุษย์ต่างดาว อยากรู้จัก อยากตีซี๊ อยากรู้ว่าใช้เทคโนโลยีอะไรในการเดินทางข้ามอวกาศ อยากรู้ว่าทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า บนดาวเขามีวัฒนธรรมอย่างไหร อยู่กันอย่างไร

3. คำถามเกี่ยวกับ พระเจ้า กำเนิดจักรวาล สิ้นสุดจักรวาล จะตามมาอีกเพรียบ!! พวกทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่ยังพิสูจน์กันไม่ได้ก็จะตามมา เช่น มีจักราลคู่ขนานจริงๆไหม มีจักรวาลอยู่หลายๆจักรวาลตามทฤษฎี Multiverses จริงไหม

พวกท่านอยู่กันยังไง วันๆทำอะไรบ้าง จักรวาลสิ้นสุดที่ไหน..

แล้วพอมนุษย์ต่างดาวบอกว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต ก็เหมือนการฉายภาพยนต์ มันมีอยู่แล้ว อยู่ที่เราจะเลือกไปอยู่จุดไหนของภาพยนต์ แล้วก็ดำเนินเรื่องต่อไป

พอมนุษย์ต่างดาวบรรยายเสร็จ ก็จะเกิดคำถามอีกมากมาย.. อ้าว O.O ถ้ามันมีอยู่แล้ว แล้วทำไมเราจำอนาคตไม่ได้ ทำไมสมองเราถึงจำได้แต่อดีต ?? (มนุษย์ต่างดาวจะบอกว่า ก็เหมือนมดแหละ พวกมดก็คิดว่ารอบตัวๆมันมีแต่ กว้าง กับ ยาว เป็นแผ่นๆ ไม่มีความสูง จักรวาลของมดเป็นแบบ 2 มิติ จักรวาลของมนุษย์เป็นแบบ 4 มิติ มันอยู่ที่ประสาทสัมผัสของสัตว์ชนิดนั้น และการทำงานสมอง ว่าจะมองเห็นจักรวาลเป็นแบบไหน)

เสร็จแล้ว มนุษย์ต่างดาวพวกนี้จะเริ่มพูดถึง "โทรจิต" มนุษย์ต่างดาวปากเล็กๆ ใช้โทรจิตสื่อสารกัน

มนุษย์โลกก็จะเกิดความสนใจ.. ใช้ยังไง.. เขามีโทรจิตมาตั้งแต่เกิด แต่มนุษย์โลกบางคนก็มาฝึกเอาตอนเกิดแล้วก็มี ก็จะถามมนุษย์ต่างดาวว่าทำยังไง ฝึกยังไง??

ผู้คนก็จะเริ่มลาออกจากงาน.. บางคนที่มีเงินเก็บพอตัวแล้วก็ไม่ไปทำงานแระ มานั่งเฝ้ามนุษย์ต่างดาวให้เขาเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง

พอมนุษย์ต่างดาวบอกว่า ที่ดาวของเขาไม่มีการใช้เงิน ผู้คนทำในสิ่งที่ตนถนัดและเป็นประโยชน์กับผู้อื่น ทำให้มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านจิตใจและด้านวิทยาศาสตร์

พอมนุษย์ต่างดาวบอกมาแบบนี้ ก็จะเริ่มมีคนกลุ่มหนึ่งของโลก รวมตัวกัน ประท้วงและต่อต้านระบบเงิน แล้วก็จะมีอีกกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันประท้วงและต่อต้านอาวุธสงครามต่างๆ

ตอนนี้.. โลกของเราก็เปลี่ยนไป.. มนุษย์ต่างดาวแทบจะเป็นประธานาธิบดีของโลกนี้ เพราะพูดอะไรมาคนก็ฟังหมด

นี่เป็น ความจริง ที่จะเกิดขึ้นถ้ามนุษย์ต่างดาวเปิดเผยตัว "ความเชื่อ" และ "ค่านิยม" ของผู้คนบนโลกจะเปลี่ยนไปทันที!!

มนุษย์ต่างดาว กับ มนุษย์โลก ไม่ได้แตกต่างกันแค่รูปร่างภายนอกนะคะ แต่ต่างกันแบบ สิ้นเชิง!!

พวกเขาเจริญด้านวิทยาการมากกว่าเรา ด้านจิตใจก็เจริญกว่าเรา ชีวิตความเป็นอยู่ก็ไม่เหมือนเรา

การเปิดเผยตัวของพวกเขา จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่โลกของเราเป็นอย่างมาก!!!

แต่.. เขาคงไม่เปิดเผยตัวหรอก.. เพราะในเอกภพนี้ มันไม่ได้มีสิ่งมีชีวิตแค่มนุษย์ต่างดาวตัวสีเทาๆแค่พวกเดียว

มันมีโลกธาตุอยู่เป็นหมื่นๆโลกธาตุ แต่ละโลกธาตุจะมีสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า "มนุษย์" แต่มนุษย์ที่อยู่บนดาวแต่ละดวงจะมีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกัน บางพวกหน้าเป็นช้างตัวเป็นคน บางพวกเป็นแมลงมีปีก บางพวกก็คล้ายๆมนุษย์โลกแต่ไม่มีขน

ดาวโลกเป็นดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ ที่มีอารมณ์ รัก เกลียด พอใจ เสียใจ มีทุกข์ มีสุข..

คือมี 2 ขั้วในดาวดวงเดียว.. มีคนที่สบายมาก มีคนที่ทุกข์ยากมากๆ

นี่เป็นเหตุผลที่พระพุทธเจ้าท่านเลือกมาประสูติและตรัสรู้ที่ดาวของเรา เพราะเป็นโรงเรียนที่ มีหลักสูตรให้ศึกษาครบเลย --'

ถ้าใครไปเยือนดาวของมนุษย์ตัวสีเทาๆ เขาไม่มีความรักแบบหญิงชาย เขาจะรักกันแบบเพื่อน เขาไม่มีอารมณ์โลภ โกรธ หลง ไม่มีการใช้เงิน อายุก็ยืนเป็นพันปี แทบไม่มีใครตาย (ดูๆไปเหมือนพวกไร้อารมณ์อ่ะ ><) แต่ก็เพราะเป็นคนไร้อารมณ์นี่แหละ เลยทำให้คิดค้นวิทยาการต่างๆได้รวดเร็ว มีความเจริญแบบรวดเร็ว บวกกับสายพันธุ์เขาเป็นพวกที่มีโทรจิตมาตั้งแต่กำเนิด

ดาวบางดวงมีมนุษย์ที่ลักษณะคล้ายๆกับมนุษย์โลกก็มี พวกนี้ก็คล้ายๆพวกเรา คือ.. หนีไม่พ้นแรงดึงดูดของโลก ไปไม่ไกล.. ติดอยู่กับโลกอ่ะแหละ แล้วก็มีความหลงใหลในวัตถุธาตุ เหาะไม่ได้ พวกนี้จะบ้าวัตถุธาตุมากกว่าโลกของเรา

โลกของเรามันจะมีคนที่เจริญทั้งด้านจิตใจ และบางคนก็บ้าวัตถุธาตุ มันปนๆกันและมีทุกรูปแบบ พระอรหันต์หลายท่านก็เลือกมาถือกำเนิดชาติภพสุดท้ายที่นี่ เพราะเป็นโรงเรียนที่มีให้ศึกษาความทุกข์ ความสุข และมีทุกอารมณ์ของมนุษย์ มีครบเลยที่ดาวโลกของเรา

555555555+ ^^

 

ใช่ครับ ครูบาอาจารย์หลายท่านเตือนเป็นปริศนาธรรม
ในกลุ่มศิษย์และผู้ปฏิบัติวงใน จะทราบกันดี ..สาธุครับ

 

"...ระยะนี้ พลังจิตเชื่อมธรรมชาติตื่นตัวมากขึ้น..."
สัมผัสความสะเทือนมากขึ้นเรื่อยๆ สัมผัสคลื่นความร้อนมากขึ้น
นิมิตเข้ามาชัดมากขึ้น กายกับจิตเริ่มแยกตัวออกจากกันมากขึ้น


หรือนี้คือสัญญาณให้จิตวิญญาณเตรียมพร้อมแยกจากกาย
คลื่นพลังงานจากภัยธรรมชาติ มนุษย์ชาติที่กำลังมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

คงจะมีหลายคนรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนของคลื่นจิต
ที่แรงขึ้น เร็วขึ้น หรือกาลเวลาเร็วขึ้นเรื่อยๆ หรือสัมผัสสิ่งแปลกๆได้มากขึ้น
นี้คือธรรมชาติของจิตวิญญาณ ที่ละเอียดและตอบสนองคลื่นพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติ
ที่กำลังเร่งเร้าให้จิตวิญญาณเดิมๆของเราได้ปรับคลื่นเพื่อสลายตัว หรือเพื่อรวมตัว
สลายตัวออกจากสิ่งที่กำลังดึงดูด
รวมตัวเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งดึงดูด

"...หลับตาลงสักพัก เวลาจะหมุนอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกมีคลื่นหมุนวนรอบหัวอย่างรวดเร็ว..."

"...หลับตาลงอย่างสงบ มีพลังงานแสงว้าบผ่านไป
ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว สีของพลังงาน ออร่า จักระที่ตื่นตัว..."


ขอจงปลุกจิตให้ตื่น สติให้พร้อม เวลาเร่งเร้าเข้ามาทุกขณะแล้ว
ขอให้โชคดีทุกๆท่าน


ลุงสามตา

 

ก็หน้าเชื่ออยู่นะครับ ว่าเกิดภัยธรรมชาติแน่ๆ

แต่เรื่องเวลาเนียยังไม่แน่นอน

บ้างที่อาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้

 

ขออนุโมทนาบุญธรรมทาน,วิทยาทานด้วยครับ..สาธุ

**ถ้าผมจะตายขอตายพร้อมกับความดี**
"พุทโธ"... เกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดา

 

...มีสติ และอยู่กับปัจจุบันดีกว่าครับ...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ย่อมมีเกิด มีดับ

 

ฟังหูไว้หู หมั่นสวดมนต์แผ่เมตตา และหยุดแบ่งแยกทะเลาะกันเอง เรื่องร้ายๆก็คงจะเลื่อนไปหรือเกิดไม่รุนแรงนัก หวังว่าฝันนี้คงเป็นจริงๆๆๆสาธุๆๆๆ...

 

โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากมาย และคนก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ

ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท ตั้งใจหมั่นทำความดี สะสมบุญบารมีให้บริบูรณ์

 

ขอให้อยู่กับปัจจุบัน อย่าไประลึกนึกถึงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเพราะมันจะทำให้เราวิตกกังวนจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย หรือถ้ามันจะเกิดขึ้นจริงก็ไม่เห็นจะต้องไปวิตกกังวนเพราะอย่างน้อยเราก็ไม่ได้ประสบพบเจอตามลำพัง ยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันกับเราอีกมากมายและคนเราไม่สามารถหลีกหนีความตายไปได้แม้แต่คนเดียว ดังนั้นพระท่านจึงสอนให้เราอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปยึดติดกับอดีต อย่าไปสนใจอนาคต ให้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ

 

คอยดูไป แต่เตรียมตัวให้พร้อมเกิดก็หนีทันไม่เกิดก็ไม่เป็นไรดีกว่าเขาไม่เตือนถ้าเขาไม่เตือนแล้วเกิดขึ้นจริงจะทำอย่างไร -cool day-

 

อืม....ใกล้เคียงกับ ครูบาอาจารย์บอกไว้เลย มีเหตุผลที่เป็นไปได้เยอะมาก

 

ที่คุณ pczophie อธิบายมา ผมว่ามีเหตุผลดีนะ โลกเราคงพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความสับสนวุ่นวายจะมากกว่าที่เป็นอยู่ซะอีก เผลอๆเกิดสงครามกันไปใหญ่

 

ฟังหลวงตาม้าทุกวันเกือบทุกวันที่หลวงตาจะย้ำเรื่องภัยพิบัติที่เกิดขึ้นถี่ทุกวันทุกวันให้พากันสวดมนต์เยอะๆ

 

ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันข้างหน้าจะเป็นเช่นไรผลของการกระทำในวันนี้จะตัดสินเอง

 

อนุโมทนา ครับ
ต้องการฟังไฟล์เสียง MP3 เกี่ยวกับ ดร.นพ.เทพพนมกับมนุษย์ต่างดาว ได้ที่ หมวดเสียงธรรม / เสวนาธรรมในโอกาสต่างๆ ครับ

Sippa_Pawat

 

ประเทศไทยเรานั้น ภัยที่น่ากลัวที่สุด ร้ายแรงที่สุด โหดเฮี่ยมที่สุด ทำลายประเทศชาติมากที่สุด สร้างความหายนะให้กับประเทศชาติมากที่สุด ประชาชนต้องทนทุกข์มากที่สุด คือ ภัยการเมืองครับทุกอย่างเราป้องกันได้ "ถ้าภัยการเมืองนั้นนิ่ง"รู้แพ้รู้ชนะ "ผู้ชนะต้องอยู่ครบ 4 ปี
ถ้าเป็นอย่างนี้ทุกอย่างแก้ได้หมด ไม่มีอะไรที่มนุษย์เราทำไม่ได้
ถ้าภัยการเมืองยังเป็นอย่างนี้ ผู้แพ้ไม่ยอมแพ้ บอกได้คำเดียวว่ามีแต่ความหายนะ

 

เราสังเกตุได้ง่ายมากๆๆ ถ้า ข้าวยากหมากแพง เกิดขึ้น เมื่อไร? ภัยที่ตามมาคือ สงคราม อันนี้แน่นอน เตรียมตัวเตรียมใจรับกันไว้ได้เลยครับ

 

ทายจะแตกๆ
เครียดเลย

 

ครับ อนุโมทนากับท่านคนฝั่งโขงนะครับ
ทุกเหตุการณ์ ทั้งเรื่องภัยพิบัติ ที่อาจารย์ เทพพนม กล่าว มาจากที่ได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว สอดคล้องกับ คำบอกเล่าของ ท่านปู่ขายาว(ท่านคือจิตของผู้ทรงญาณ) บอกมาว่า เรื่องเขื่อนที่คุณพ่อของเด็กชายบู่ออกมาเตือนนั้นเป็นความจริง เเต่ที่เขื่อนไม่เเตกเพราะมี พระเเม่ธรณี องค์พรหมเทพเทวา สิ่งศักดิ์ คุ้มครองรักษาอยู่ หากไม่เช่นคงเกิดเหตุการณ์ร้ายเเรงเเน่ เเละเมื่อช่วงวันที่5-8 มีค. 2555 ข้าพเเละคณะปฎิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์เเห่งหนึ่ง เเละได้สนทนาธรรมกัยเเม่ชีท่านหนึ่ง ท่านก็เล่าเหตุการณ์ การสูญเสียบุคคลสำคัญในประเทศ น้ำท่วมใหญ่ใน กทม. ประเทศไทยจะเหลือเพียงภาคเหนือเเละอีสาน (จ.บุรีรัมย์เป็นชายหาด ท่านไม่ได้บอกปี) ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปิน สิงคโปร์ เเละประเทศที่เป็นเกาะทั้งหลายจะโดนน้ำท่วม ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหลายก็สอดคล้องกันกับข้อมูลที่ อ.เทพพนม ท่านได้บอกมาบางส่วน (ข้อความที่ผมกล่าวมาเป็นข้อความจากการบอกเล่าของผู้ปฎิบัติธรรม ผมไม่ได้เจตนาจะสร้างเรื่องใดๆ ท่านทั้งหลายเป็นผู้มีปัญญาสามารถตัดสินใจว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ผมก็เคารพทุกความคิดเห็น ผมไม่คิดเป็นศัตรูทางความคิด คำพูดของท่านสมาชิกท่านใด) ***ข้อมูลนี้หากท่านรู้เเละเตรียมใจรับมือกับปัญหาในภายภาคหน้าก็นับเป็นประโยชน์ ถ้าไม่เกิดดังที่กล่าวมาก็ถือว่าเราโชคดี เเละวางอุเบกขาดีกว่าครับ เพราะคำเตือนที่ท่านทั้งหลายบอกเพราะความห่วงใยเเละหวังดีเท่านั้น
*ขอให้ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เมื่อทำบุญทำกุศลก็อุทิศให้เเก่ องค์พระเเม่ธรณีด้วยนะครับ เพราะท่านจะได้มีพลังในการยับยั้งภัยพิบัติทั้งปวงที่จะเกิดในประเทศไทย เเละบ้านเรือนของท่าน (นี้คือคำบอกเล่าของท่านปู่ขายาวครับ)

 

เมื่อวันเสาร์ ที่ 10/3/55 ได้มีการทำบูญตักบาต พระ 100,000 รูปทั่วกรุงเทพฯมหานคร อันนี้น่าจะช่วยได้ ให้เลื่อนไปได้ หรืออย่างน้อยให้เบาบางลงไป แต่ที่แน่ๆ อีกไม่นาน นี้คงมีเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิด ไม่สงครามก็ ภัยธรรมชาติแน่นอน