คลังเรื่องเด่น
-
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
วาจาสิทธิ์สมเด็จพระเทพ ต่ออายุ “เผ่าทอง” โรคร้ายทำป่วยหนัก กลับหายอย่างปาฏิหาริย์
วาจาสิทธิ์สมเด็จพระเทพ ต่ออายุ “เผ่าทอง” โรคร้ายทำป่วยหนัก กลับหายอย่างปาฏิหาริย์
ขอบคุณที่มา https://www.youtube.com/@ThaiMoveInstitute_TH -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
นิวรณ์ | สามัญญผลสูตร
นิวรณ์ | สามัญญผลสูตร
ที่มา แสงธรรมแห่งพระไตรปิฎก มูลนิธิอุทยานธรรม
https://youtube.com/@TipitakaGlory?si=iKlUWQglfSYUYL_e -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
หยุดคิด ก็หยุดทุกข์
ถาม : เราจะรักษาสมาธิให้ดำรงอยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : เอาสติประคองไว้เลยให้เป็นอัตโนมัติ คำว่าอัตโนมัตินี้ก็คือรู้ลมเอง ภาวนาเอง คราวนี้เราเอาสติประคองเอาไว้อย่าให้ไหลไป รัก โลภ โกรธ หลง แล้วก็พยายามให้เห็นทุกอย่างที่กระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้ ถ้าทำอย่างนั้นได้ชีวิตนี้จะทุกข์น้อยมาก เพราะว่าเห็นจริงหมดแล้วก็ไม่ไปยุ่ง ไม่ไปปรุง ไม่ไปแต่ง
ทุกวันนี้ที่เราทุกข์ก็เพราะความคิด หยุดคิดเมื่อไรก็เลิกทุกข์ จำไว้นะ...คิดแล้วทุกข์ ตำหนิตัวเองมีประโยชน์อะไร ? ให้ตั้งหน้าตั้งตาเอาเวลาที่ตำหนิตัวเองไปทำสิ่งที่ดี ๆ ก็หมดเรื่อง พุทโธ ๆ ก็ยังดี พุทโธทีหนึ่งอานิสงส์มหาศาล มัวแต่ "หนูผิดไปแล้ว" หนูผิดไปแล้วเดี๋ยวก็ผิดอีก แปลว่าปัญญายังไม่พอ ก็จะ "ผิดไปแล้ว" อยู่ได้เรื่อย ๆ แต่ผิดแล้วต้องรู้จักแก้ไข
ในเมื่อเราทุกข์เพราะความคิด หยุดคิดก็หยุดทุกข์ เพราะว่าส่วนใหญ่ที่เราคิดก็คือยัง อยากมี อยากได้ อยากเป็น อยากก็ทำ สร้างเหตุปัจจัยไม่พอเราก็ไม่มี ไม่ได้ ไม่เป็น เพราะฉะนั้น..จึงต้องสร้างเหตุปัจจัยให้พอ ก็จะมี จะได้ จะเป็น... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
ถ้าเราแต่สิ่งที่ดี ก็จะดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีใหม่ให้ปฏิวัติตัวเอง ถ้าเคยเดินห้างครึ่งวันเราก็เดินห้างแค่ ๒ ชั่วโมงแล้วไปเดินวัด ๒ ชั่วโมง แบ่งกันคนละครึ่ง ความเจริญจะได้ปรากฏแก่เราเสียที
การที่เราทำสิ่งดีหรือชั่วก็ตาม จะเกิดพลังที่ส่งผลให้เรียกว่า วิบาก ภาษาบาลีเรียกว่า วิปากะ พลังทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลให้เฉย ๆ ยังดึงเอาพลังประเภทเดียวกันเข้ามาหาด้วย เพราะฉะนั้น..ถ้าเราทำแต่สิ่งที่ดี ๆ พอถึงเวลาพลังความดีมีมาก ก็จะดึงดูดเอาสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิต นั่นก็คือเป็นกุศลวิบาก การส่งผลในด้านดีด้านเจริญ
แต่ถ้าเราทำในส่วนที่ชั่วมากกว่า ถึงเวลาการส่งผลก็จะทำให้เกิดพลังดึงดูดสิ่งที่ไม่ดีเข้ามามาก ชีวิตเราก็จะเดือดร้อน เขาเรียกว่า อกุศลวิบาก คือการส่งผลของสิ่งที่ไม่ดีหรือกรรมที่ไม่ดีของเรา เพราะฉะนั้น..วิธีแก้ไขก็คือต้องเพิ่มบุญเพิ่มกุศล
อย่างช่วงปีใหม่ไปตระเวนไหว้พระ ไปสวดมนต์ข้ามปี ไปเจริญจิตภาวนา นั่นเป็นการเพิ่มกุศลวิบาก ดังนั้น..ต้องบอกว่าโบราณท่านมีความฉลาดมาก ให้เรานำสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิต พอถึงเวลาถ้าสามารถนำเข้ามาได้มาก กำลังที่ส่งผลก็จะดึงดูดเอาสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตของเรา... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
"เกิดมาอยู่ในทางสี่แพร่ง" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
(
"เกิดมาอยู่ในทางสี่แพร่ง"
" .. เกิดเป็นคน "เหมือนกับเกิดมาอยู่ในทางสี่แพร่ง" จะทำดีและทำชั่ว "ไปสวรรค์หรือตกนรก ก็คนเรานี้ทำทั้งนั้น" ไปเป็นมนุษย์ และเปรตก็คนเรานี้ทำเอาทั้งนั้น "มนุษย์คนเรานี้จะดีก็แสนดีที่สุด จะชั่วก็แสนชั่วที่สุด" ฉะนั้น "จงเลือกเอาแต่สิ่งที่ดีที่สุด" เพราะยากที่จะได้เกิดมาเป็นคนเช่นนี้ .. "
พระคุณราชนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์
(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
"ใจนี่แหละทำให้ตนเป็นทุกข์เป็นสุข" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"ใจนี่แหละทำให้ตนเป็นทุกข์เป็นสุข"
" .. ผู้ประพฤติธรรมในพุทธศาสนานั้น "อย่ามองไปทางอื่นว่ามาทำให้ตนเป็นสุขเป็นทุกข์ มองดูใจตัวเองนี้ ใจตัวเองนี่แหละทำให้ตนเป็นทุกข์เป็นสุข" ถ้าตนปรับปรุงใจของตนให้ดี แล้วอย่างนี้ถึงแม้จะมีกรรมเวรหนหลังตามมาสนองมันก็ไม่เป็นทุกข์เท่าไร
เพราะตนรู้นี่ "รู้ว่ากรรมเวรที่ตนทำมาแล้วจะไปโยนให้ใครรับสนองแทนไม่ได้" ตนเองต้องรับสนองเองเมื่อรู้อย่างนี้แล้วมันก็ไม่ทุกข์ใจ "อดกลั้นทนทานให้กรรมเวรนั้นมันสนองไปเสีย" เมื่อมันหมดเขตของมันแล้ว มันก็ระงับไปเอง .. "
"ธรรมโอวาทหลวงปู่เหรียญ"
พระสุธรรมคณาจารย์
(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
ทำบุญผสมโกรธ ตายแล้วเป็นอสูร
ทำบุญผสมความโกรธ ตายแล้วเป็นอสูร
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะเวลาคนเราทำบุญหน้าบูดหน้าบึ้งอารมณ์เสียนี่ ผลบุญที่ทำไปจะได้รับอย่างไรคะ
หลวงพ่อ : คนหน้าบูดไม่มีนะ มันมีแต่ข้าวบูดขนมบูด หน้าอาจจะเปลี่ยนเป็นหน้าเบี้ยวหรือปากเบี้ยว ความจริงเขาบอกว่าถ้าทำบุญผสมโทสะ ใช่ไหม
เรื่องนี้ฉันจะไปเจ๊งที่สมุทรสงครามเรื่องมีอยู่ว่าไปเทศน์ที่ วัดท้องคุ้ง อ.อัมพวา ไปเทศน์ที่นั่นก็มีโยมผู้ชายคนหนึ่งแกชอบมาถามปัญหา ถามปัญหาทุกครั้งก็เป็นปัญหาที่เราเข้าใจตอบได้
มาครั้งหลังฉันข้าวเพลอยู่ โยมก็บอกว่า พระเดชพระคุณทั้ง 3 องค์ครับ ตอนนั้นไปเทศน์ 3 ธรรมาสน์นะ เจ้าคุณธรรมบาลด้วย มหาประยูรด้วย แกบอกว่าอะไรที่ถามพระเดชพระคุณทั้ง 3 องค์ก็ตอบได้
แต่เที่ยวนี้ผมมีข้อข้องใจว่าคนที่ทำบุญไปแล้วไปเกิดเป็นเทวดามีหน้าตาสดชื่นมีวิมานอยู่มีกายเป็นทิพย์ ถ้าไปเกิดในอบายภูมิก็มีหน้ายุ่งมีแต่ความทุกข์
อยากจะทราบว่า "พวกอสูรมีวิมานอยู่เหมือนกัน มีร่างกายเป็นทิพย์เหมือนกันแต่หน้ายุ่งๆ ทำบุญอะไรครับ"
เจ๊งเลย ตอบไม่ได้ ต่างคนต่างมอง ฉันก็เลยมองหน้าเจ้าคุณธรรมบาลท่านเป็นอาวุโส เจ้าคุณธรรมบาลก็ส่ายหน้า... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
ข่าวชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน (พระอาจารย์เล็ก) เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
เครือข่ายชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
ขอรวบรวมข่าวกิจกรรมการดำเนินงานของ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เพื่อให้ทุกท่านได้โมทนาบุญในการทำงานของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
และเพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษารูปแบบการดำเนินงานของพระอาจารย์
ซึ่งท่านเป็นต้นแบบการทำงานของ ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
ข่าวการดำเนินงาน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ -
วงจรกรรม
พวกเราแต่ละคนนั้นมีวงจรกรรมไม่เหมือนกัน ในช่วงที่กุศลกรรมเข้ามาสนอง เราก็อยากถือศีลปฏิบัติธรรม พอถึงช่วงที่อกุศลกรรมเข้ามาสนอง แม้กระทั่งกราบพระให้ครบ ๓ ครั้ง บางคนก็ยังทำไม่ได้เลย สักแต่ว่าแปะ ๆ ให้ครบ ๓ ครั้งไปเท่านั้น..!
แล้วเรื่องของวงจรกรรมนั้น ช้าเร็วก็ต่างกัน ใครทำความดีไว้บ่อย ๆ กุศลกรรมก็มาสนองมาสนับสนุนบ่อย วงจรกรรมก็จะถี่และสั้น แต่ถ้าท่านที่สร้างกุศลกรรมไว้น้อย สร้างอกุศลกรรมไว้มาก วงจรกรรมก็เชื่องช้ามาก หลายเดือน หลายปี หรือหลายสิบปีก็ยังพอทน บางท่านถึงขนาดหลายชาติ และหลายกัปหลายกัลป์..!
จึงเป็นเรื่องที่พวกเราไม่ควรประมาท มีโอกาสแล้วต้องเร่งรัดตัวเองให้เต็มที่ กอบโกยคุณงามความดีใส่ตัวให้มากที่สุด เมื่อถึงเวลาที่อกุศลกรรมส่งผล เราจะได้มีต้นทุนในการต่อต้านได้บ้าง ไม่อย่างนั้นแล้วเราก็จะกลายเป็นปลาตายลอยน้ำ โดนกระแสกรรมฉุดกระชากลากถูไปอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะต่อรองหรือแก้ไขอะไรได้เลย ดังนั้น..การที่ท่านทั้งหลายสมัครบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ จึงไม่ใช่เรื่องที่เรามาทำแก้บน แต่ว่าต้องทุ่มเทปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นแล้วโอกาสที่เราจะได้ดีก็น้อยมาก... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๗ -
ทำไมใจถึงมักปรามาสพระ ?
ถาม : ทำไมใจถึงมักปรามาสพระ ?
ตอบ : เรื่องของการปรามาสพระถือเป็นเรื่องปกติ เราทำความดีมา มารเขากลัวว่าเราจะพ้น ก็หลอกให้เราปรามาสพระไปเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าเรามัวแต่เดือดเนื้อร้อนใจฟุ้งซ่านอยู่ เราก็จะไม่มีกำลังใจทำความดี ให้ตั้งใจขอขมาพระไปเรื่อย ๆ พวกนี้ทนลูกตื๊อไม่ได้หรอก พอเห็นเราไม่สะดุ้งสะเทือนเดี๋ยวเขาก็ไปเอง
....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"บุญและบาปใจมันถึงก่อน" (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)
"บุญและบาปใจมันถึงก่อน"
" .. กรรมมันไม่ได้เกิดที่อื่น เวลานี้กายเราไม่ได้ทำอะไร วาจาเราก็ไม่ได้ทำ เหลือแต่มโนกรรม ความน้อมนึก "มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา" บุญและบาปไม่ว่าใด ๆ ใจถึงก่อน ให้พากันพินิจพิจารณาให้เห็นแจ่มแจ้งลงไป แน่นอนลงไป "บุญและบาปใจมันถึงก่อน" .. "
"การฟังและการปฏิบัติ"
พระธรรมเทศนาของ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
ม.ร.ว. ส่งศรี เกตุสิงห์ ถอดจากแถบบันทึกเสียง -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ -
หลักการปฏิบัติธรรม
๑ บวก ๑ ได้เท่าไร ? โดยทั่วไปคำตอบคือ ๒ นั่นเป็นคณิตศาสตร์แบบเด็ก ๆ สมมติว่าเราเอาดิน ๑ กอง รวมกับดิน ๑ กอง จะได้กี่กอง ? นี่ ๑ บวก ๑ เป็น ๑ นะ
ขนมครก ๑ ฝา รวมกับขนมครกอีก ๑ ฝา รวมเป็นขนมครก ๑ คู่ ขึ้นอยู่กับบริบทเฉพาะหน้า คำตอบทุกอย่างไม่ใช่โจทย์คณิตศาสตร์ จะได้ตายตัว ฉะนั้น...ทิดดอยก็เลยเครียด
การเรียนระดับปริญญาโท ปริญญาเอกจะเปิดวิธีคิดให้กับเรา แต่คราวนี้วิธีคิดทั้งหมด คิดแล้วไม่จบ วิธีคิดของพระพุทธเจ้าคิดแล้วจบ
ถ้าหากว่าใช้วิธีคิด ไม่ว่าจะแบบของฝรั่ง แบบของไทย คิดแบบตรรกะ คิดแบบหนึ่งชั้น สองชั้น สามชั้น คิดแบบแยกแยะ คิดแบบเอาเหตุเอาผล คิดด้วยมุมมองของคนภายนอก
ของพระพุทธเจ้าท่านให้มองตัวเอง ดูที่ใจของเรา แก้ที่ใจของเรา ใจของเรามีความชั่วอยู่หรือไม่ ? ถ้ามีก็ขับไล่ออกไป แล้วระมัดระวังไว้อย่าให้เข้ามา ใจของเรามีความดีอยู่หรือไม่ ? ถ้าไม่มี ก็ทำให้มีขึ้นมา ถ้ามีอยู่แล้ว ก็ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ต่างกันอยู่แค่นี้เอง ก็คือ แนวคิดทางโลก คิดแล้วไม่จบ จะกว้างบานปลายไปเรื่อย ๆ แนวคิดทางธรรมคิดแล้วจบ เป็นการย้อนเข้าหาต้นน้ำ
สรุปว่าปฏิบัติธรรมทั้งชีวิต เอาแค่นั้นก็พอ หาความชั่วให้เจอ...
หน้า 23 ของ 412