WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

นครพนมหนาวกระทบสุนัขของกลาง

12 ธันวาคม 2554 เวลา 08:20 น. |เปิดอ่าน 421 | ความคิดเห็น 1



นครพนมหนาวสุดในรอบปีอุณหภูมิลดเหลือ 9 องศา กระทบสุนัขของกลางเริ่มป่วย

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่จังหวัดนครพนม สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง หลังอุณหภูมิลดต่ำสุดแตะระดับ 9 องศา ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบปี โดยอากาศหนาวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยหนาวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการดูแลสุนัขของกลางภายในด่านกักกันสัตว์นครพนม ที่มีการตรวจยึดมาจากขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ ปัจจุบันยังคงเหลือจำนวน 721 ตัว

นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ระบุว่า ในช่วงอากาศหนาวเย็นได้ส่งผลกระทบต่อสุนัขของกลาง เริ่มมีอาการป่วยจากการติดเชื้อโรคไวรัสทางเดินหายใจ และไข้หัดสุนัข ที่เสี่ยงต่อการตายสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนต่อเนื่อง ขณะนี้มีสุนัขที่ป่วยประมาณ 40 ตัว ที่ต้องเฝ้าระวังให้การรักษา คัดแยกออก

นอกจากนี้ทางกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ได้มีการอนุมัติงบประมาณเกือบ 2 แสนบาท ดำเนินการสร้างโรงเรือนกันหนาว พร้อมระบบให้ความอบอุ่น ให้สุนัขของกลาง เพื่อป้องกันการป่วย ให้สุนัขมีชีวิตรอดมากที่สุด

ส่วนการป้องกันปราบปราม ทางจังหวัดนครพนม ยังคงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังดูแลป้องกัน ในการปราบปรามสกัดกั้นการลักลอบขนส่งสุนัขจากพื้นที่ต่างๆ ลำเลียงขนส่งมานครพนม ก่อนนำข้ามไปขายยังประเทศเวียดนาม ต่อเนื่อง เพราะยังพบข้อมูลว่า ขบวนการค้าสุนัขยังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะหน้าหนาวจะมีออเดอร์สั่งนำเข้าจำนวนมาก นำไปปรุงเป็นเมนูคลายหนาว และมีราคาแพงเท่าตัว ทำให้ขบวนการค้าสุนัขปรับเปลี่ยนวิธีการขนส่ง ที่จะเลี่ยงการจับกุมเจ้าหน้าที่ทุกรูปแบบ

 

เมืองเอกยังมีน้ำท่วมขัง30-40 ซ.ม

.ข่าวสังคม วันจันทร์ที่ 12 เดือนธันวาคม พ.ศ.2554 08:43 น.
share


สถานการณ์น้ำท่วมเมืองเอก ยังคงมีน้ำขัง 30-40 ซ.ม. ประชาชนเริ่มเข้าไปสำรวจบ้านเรือนแล้ว


สถานการณ์น้ำท่วม ที่หมู่บ้านเมืองเอก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ขณะนี้ ยังคงมีน้ำท่วมขัง สูงเฉลี่ยที่ประมาณ 30 - 40 ซ.ม. เนื่องจาก พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างและบางจุดเป็นที่ต่ำ มีน้ำท่วมสูง ประมาณ 50 ซ.ม. โดย พ.ต.ท.อาทร ชิ้นทอง รองผู้กำกับฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยว่า พื้นที่หมู่บ้านเมือเอก ยังไม่ค่อยมีประชาชนเข้าไปพักอาศัยอยู่มากนัก
เนื่องจาก ก่อนหน้านี้มีน้ำท่วมขังสูงเกือบ 2 เมตร จึงต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่เมื่อน้ำเริ่มลดลงแล้ว บางส่วนก็จะเข้าไปดูสภาพบ้านเรือน ซึ่งขณะนี้การสัญจรเข้าพื้นที่ ยังคงมีรถทหารเข้าไปด้านในและรถยกสูงก็สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้แล้ว เนื่องจาก ชายขอบของเมืองเอกในช่วงวัดนาวง น้ำแห้งแล้ว ซึ่งล่าสุดบริเวณหมู่บ้านเมืองเอก มีการวางจุดระบายน้ำไว้ 3 จุด คือ บริเวณคลองเปรมประชากร จุดที่มหาวิทยาลังรังสิต รับผิดชอบ และจุดที่เทศบาล ต.หลักหก รับผิดชอบ โดยสามารถระบายน้ำเฉลี่ยลดลง วันละ 5 ซ.ม.

Link : เมืองเอกยังมีน้ำท่วมขัง30 40 ซ ม

 

อุตุฯ เผย เหนือ-อิสาน-กทม. อุณหภูมิลดลง เตือนคนไทยดูแลสุขภาพ



กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2554 เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ โดยระบุว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีอากาศหนาวเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา สำหรับพื้นที่ภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางแห่ง จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

อนึ่ง มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนอ่าวไทยมีลมแรง มีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง สำหรับชาวเรือขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

 

เตือน15ธ.ค.รับมือความกดอากาศระลอกใหม่

ข่าวสังคม วันจันทร์ที่ 12 เดือนธันวาคม พ.ศ.2554 08:35 น.
share
3

รองอธิบดีกรมอุตุฯ เผย 15 ธ.ค. เกิดความกดอากาศระลอกใหม่ ไทยตอนบน อีสาน กทม. เตรียมรับมืออากศหนาว ขณะที่ ภาคใต้ตอนล่าง ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน


นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ในรายการเปิดข่าวเด่นเจาะประเด็นดัง FM 102.75 MHz ถึงภาพรวมของสภาพอากาศที่หนาวเย็นในประเทศไทย ว่า สภาพอากาศประเทศไทยตอนบนวันนี้ มีแนวโน้มที่จะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส และหลังจากนี้ไป จะมีอากาศอุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่ในวันที่ 15 ธ.ค.เป็นต้นไป จะเกิดความกดอากาศสูงระลอกใหม่ สภาพอากาศจะหนาวเย็นขึ้นอีก ในพื้นที่ไทยตอนบน อีสาน รวมไปถึง กรุงเทพมหานครและปริมลฑลด้วย ทั้งนี้ในช่วงวันดังกล่าว จะส่งผลให้ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงขอให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและป่าไหลหลาก เกิดขึ้นได้

Link : http://www.innnews.co.th/เตือน15ธ-ค-รับมือความกดอากาศระลอกใหม่--326243_03.html

 

สภาพอากาศล่าสุด 12-12-54 T 11.45น

 

ปริมาณน้ำฝนเมื่อวานนี้ 11-12-54

 

มวลน้ำล่าสุด เมื่อ 28-11-54

 

ดอยอินทนนท์หนาวจัด 4 องศาเกิด “แม่คะนิ้ง” อีก - อุทยานฯ เผยนักท่องเที่ยวเต็มตลอดช่วงหยุดยาว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2554 11:31 น.



ภาพของน้ำค้างแข็งที่เกิดก่อนหน้านี้บนดอยอินทนนท์ (แฟ้มภาพ )





ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ดอยอินทนนท์หนาวจัดแค่ 4 องศาจนเกิด “แม่คะนิ้ง” อีก สมใจนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลขึ้นไปท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว หน.อุทยานฯ เผยคนแห่เที่ยวแน่นเอี้ยด ที่พักถูกจองเกือบเต็มไปจนถึงช่วงปีใหม่ ต้องสอบถามและจองล่วงหน้าป้องกันผิดหวัง พร้อมแนะนักท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์เดินทางต้องตรวจสอบสภาพรถให้พร้อม 100% ป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายกับตัวรถ

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงเช้ามืดวันนี้ (12 ธ.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดน้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบ หรือแม่คะนิ้ง ขึ้นอีกครั้งเป็นวงกว้าง ที่บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน หลังจากตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องจนอากาศบนยอดดอยหนาวจัด โดยเช้าวันนี้บนยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดลงเหลือเพียง 4 องศาเซลเซียส ซึ่งนอกจากน้ำค้างแข็งแล้วยังมีทะเลหมอกด้วย สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ขึ้นไปท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์

นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้มีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นบ่อยครั้งบนยอดดอยอินทนนท์ จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและอุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าหลังจากนี้จะยังคงมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกต่อไป เพราะคาดการณ์กันว่าในปีนี้อากาศจะหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา

สำหรับในช่วงสุดสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาว มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่หลั่งไหลกันขึ้นไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โดยนายเกรียงศักดิ์ระบุว่า ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละหลายพันจนเกือบถึงหมื่นคน อย่างไรก็ตามในส่วนของการพักค้างแรมนั้น มีการจำกัดจำนวนเพื่อไม่ให้เกินขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ ซึ่งในส่วนที่พักของอุทยานฯ ทั้งบ้านพักและลานกางเต็นท์ สามารถรองรับได้ประมาณ 1,200 คน มีนักท่องเที่ยวเที่ยวพักเต็มหมด ส่วนที่เหลือมีการกระจายเข้าพักตามที่พักของชุมชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่

ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์กล่าวด้วยว่า ที่พักของอุทยานฯ นั้น ในช่วงตั้งแต่นี้ไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ มีการจองของนักท่องเที่ยวจนเกือบเต็มหมดแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวและพักค้างแรม ควรจะมีการตรวจสอบล่วงหน้าว่ายังมีที่พักว่างอยู่หรือไม่ โดยผู้ที่ต้องการจะเข้าไปท่องเที่ยวนั้นแนะนำว่าหากเป็นไปได้ควรใช้บริการรถรับจ้างท้องถิ่นในการเดินทางมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องการจราจรและที่จอดรถไม่เพียงพอ รวมทั้งความปลอดภัยเพราะคนขับรถรับจ้างท้องถิ่นจะมีความชำนาญเส้นทางมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากนักท่องเที่ยวจะใช้รถยนต์สาวนตัวในการเดินทาง แนะนำให้ตรวจสอบสภาพรถให้มีความพร้อม ทั้งระบบเครื่องยนต์ เบรก และคลัช ตลอดจนศึกษาเส้นทางให้ดี เนื่องจากเส้นทางในการเดินทางขึ้นสู่ดอยอินทนนท์นั้น มีลักษณะเป็นเน้นทางขึ้นลงภูเขาและคดเคี้ยว หากสภาพรถไม่มีความพร้อม ประกอบกับคนขับไม่มีความชำนาญ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่รถยนต์หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

 

ระทึก! ไฟไหม้วอด 3 ร้านรวดของห้างดังกลางเมืองพัทยา ค่าเสียหายกว่า 5 แสน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2554 11:39 น.




ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระทึก! ไฟไหม้วอด 3 ร้านรวดของห้างดังกลางเมืองพัทยา ค่าเสียหายกว่า 5 แสน เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน สาเหตุของเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

เวลา 03.10 น.วันนี้ (12 ธ.ค.54) พ.ต.ต.กิตติทัศน์ กันฉาย สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ในห้างสรรพสินค้า ดิ อเวนิว พัทยาใต้ ถนนพัทยาสายสอง ตั้งอยู่เลขที่ 399 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยรถดับเพลิง เมืองพัทยา 3 คัน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณห้างสรรพสินค้า ดิ อเวนิว พัทยาชั้นล่างภายในร้านพิชซ่า คอนเนอร์ ร้านครีม แอนด์ ฟัดจ์ และร้านคอฟฟี่ เวิลด์ ซึ่งสร้างเรียงติดกันทั้ง 3 ร้าน ภายในร้านมีเปลวไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุ่นแรง เจ้าหน้าที่ได้นำพัดลมระบายอากาศเพื่อให้กลุ่มควันเจือจางลง พร้อมทั้งใช้น้ำยาเคมีดับ

โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคอมพิวเตอร์ ตรงแผนกแคลชเชียร์ของร้าน และตู้แช่ไอศครีมขนาดใหญ่และทรัพย์สินอีกหลายรายการ ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายโดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างดังกล่าว เผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนก็ได้เดินตรวจสงบความเรียบร้อยอยู่ในห้าง จนมาถึงร้านตรงจุดเกิดเหตุ ตนได้เห็นกลุ่มควันกำลังพวยพุ่งออกมาจำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นไหม้ทั่วห้าง ก่อนจะมีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นมา 2 ขึ้น พร้อมเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ในเบื้องต้น น.ส.เสาวณี ศรีโชคชัย อายุ 30 ปี ผู้จัดการร้าน ได้เดินทางมาตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุ ความเสียหายจากการไหม้ในครั้งนี้ น่าจะประมาณ 5 แสนบาท ก่อนเจ้าหน้าที่จะลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม จะประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป

 

จีนส่งเรือติดอาวุธ คุ้มกันร่วมแม่น้ำโขงเที่ยวแรก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ธันวาคม 2554 17:50 น.




เจ้าหน้าที่ตำรวจจีน ขณะปฏิบัติการร่วมคุ้มครองความปลอดภัยลุ่มแม่น้ำโขง ร่วมกับ ไทย พม่าและลาว ซึ่งเริ่มวันแรกเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. (ภาพไชน่าเดลี่)

เอเยนซี - สื่อจีนรายงาน วันที่ 10 ธ.ค. ว่าจีนได้ส่งกำลังตำรวจติดอาวุธกว่า 200 คน ร่วมลาดตระเวนไปกับเรือสินค้าตามลำน้ำโขง หลังลูกเรือถูกสังหารโหด 13 ศพ

รายงานข่าวกล่าวว่า เส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้าแม่น้ำโขง ได้กลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน หลังจากระงับการเดินทางเพราะเกิดเหตุฆาตกรรมลูกเรือจีน 13 คน ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา

ไชน่าเดลี่ รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เรือสินค้าจีนที่ล่องตามแม่น้ำโขง จะได้รับความคุ้มกันตามข้อตกลงร่วม 4 ชาติ จีน-พม่า-ลาว และไทย เพื่อรักษาความปลอดภัยลุ่มแม่น้ำโขง โดยเรือสินค้า 10 ลำของจีน ได้เริ่มล่องจากท่าเรือก่วนเล่ย ในสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน (ยูนนาน) เมื่อเวลา 10.30 น. พร้อมเรือติดอาวุธคุ้มกัน 5 ลำ เป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจจีนประจำการ 200 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากพม่า 42 นาย และจากไทยกับลาวรวมกันอีก 15 นาย

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน กล่าวกับไชน่าเดลี่ว่า ขบวนเรือคุ้มกันติดอาวุธจะให้ความคุ้มกันเรือสินค้าจีน 10 ลำจากก่วนเล่ย มายังท่าเรือเชียงแสน ประเทศไทย ระยะทางกว่า 254 กิโลเมตร ขณะที่นายเมิ่ง หงเหว่ย ผู้ช่วยรมต. ความมั่นคงสาธารณะของจีน กล่าวว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจจีน จะร่วมปฏิบัติการลาดตระเวนกรมป้องกันเรือกับ พม่า ลาว และไทย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของการเดินเรือระหว่างประเทศ

 

เรื่องการส่งสิ้นค้าตามลำน้ำโขง ช่วงประเทศไทย อยู่ๆก็เปิดโอกาสให้จีนเข้ามามีอิทธิพลจนได้ คนที่ก่อเหตุไม่รู้ว่าโง่หรือฉลาด ไม่รู้คิดอะไรจึงไปเปิดโอกาสให้เขา หรือเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพร้อง แทนที่เราจะป้องกันเรื่องยาเสพย์ติดได้ต่อไปนี้ยิ่งจะยากเข้าไปอีก